“แม้ได้รับความรักจากพระเป็นเจ้าเสมอเหมือนกัน พวกเขากลับไม่เคยพึงพอใจ พวกเขาหันหลังให้กับพระองค์ ละทิ้งจิตวิญญาณ หลงใหลไปกับเนื้อหนัง จมอยู่กับบาป เชื่อว่าตนเองมีพลังอำนาจ ทั้งที่ความเป็นจริงพวกเขานั้นอ่อนแอ และกำลังหลงทิศหลงทาง”
“พวกเขาไม่เคยขาดแคลนความฝันอันยิ่งใหญ่ จนบางครั้งที่ความฝันนั้นนำพาหายนะอย่างไม่สิ้นสุดให้แก่หมู่มวลพวกเขา และเพราะอย่างนั้นจึงต้องมีพวกเรา… จึงต้องมีบาร์บารี”
ใครเล่าจะไม่รู้จักภาคีมือสังหาร กลุ่มอำนาจอันทรงอิทธิพลซึ่งคอยสร้างความหวาดผวาให้กับชนชั้นปกครอง และคอยชักใยอยู่หลังม่านประวัติศาสตร์มาตลอดทุกยุคสมัย
ภายใต้นาม ‘บาร์บารี’ หรือ ‘ลูกแกะของพระเจ้า’
ลมหนาวพัดพาความเย็นเยียบผ่านมาพร้อมเสียงหวีดหวิวดังก้องไปทั่ว ภายใต้ความมืดมิดที่ปกคลุมทั่วทุกหัวระแหง เริ่มปรากฏดวงดาวระยิบระยับประดับอยู่บนผืนฟ้าสีดำ ดวงจันทร์ดวงใหญ่ทอแสงสุกสว่าง เมื่อเมฆดำเคลื่อนตัวออก เผยให้เห็นหลังคาบ้านเรือนเรียงรายใต้แสงจันทร์สีนวล
ใจกลางเมืองหลวงเก่าแก่ หอนาฬิกาขนาดใหญ่สูงตระหง่านตั้งเหนืออาคารบ้านเรือน คอยเฝ้ามองผู้คนเบื้องล่าง มันถูกก่อขึ้นจากหินสีเทาขุ่นฉาบตกแต่งด้วยปูน มีบันไดวนยาวเหยียดขึ้นสู่ยอด และระเบียงกว้างขวางมองเห็นทิวทัศน์เมืองทั้งหมด แหงนมองขึ้นไปพบหน้าปัดมีเข็มนาฬิกาเหล็กดัดโค้ง ระฆังชุดหลายใบเก่าคร่ำคร่า บ่งบอกว่ามันยืนยงผ่านกาลเวลามาแล้วหลายต่อหลายยุคสมัย
เด็กสาวอ้อนแอ้นยืนนิ่งบนระเบียง ทิ้งสายตายังพระราชวังไกลลิบบนเนินสูง นางอยู่ในชุดสีน้ำตาลหม่น สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขาสั้นพอดีกับสรีระ ผ้าคลุมยาวถึงข้อเท้า และรองเท้าบูต ปกปิดใบหน้าครึ่งบนด้วยผ้าคลุมที่ดึงเงาลงมาบดบังดวงตา เผยใบหน้างามเพียงครึ่งล่าง ไม่อาจปิดซ่อนผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง
พลันเมื่อเสียงระฆังจากหอนาฬิกาดังก้องกังวาน ลมแรงพัดกรรโชก พร้อมกันกับเด็กสาวที่ก้าวออกไป ทิ้งตัวจากหอระฆัง ปล่อยร่างน้อย ๆ ลอยคว้างจมดิ่งสู่ความมืดเบื้องล่าง
“ป่าไม้ผลัดยังใบ สายน้ำยังไหลริน เมฆายังเคลื่อนตัว ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป ทุกสรรพสิ่งย่อมแปรเปลี่ยนตามกาลเวลา ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ ไม่มีแผนการใดไร้ข้อผิดพลาด เรารู้ดี พวกท่านรู้ดี”
“หากเราต้องสิ้นสุดบทละครแห่งชีวิตบนดินแดนอันจมในบาปนี้ ก็เพราะลิขิตของพระเป็นเจ้า”
“หยุดตั้งคำถามเถิด เราขอออกคำสั่งให้พวกท่านถอนตัวเสีย จงหวงแหนชีวิต และกลับไปแจ้งข่าวต่อแกรนด์มาสเตอร์ ว่าฟันเฟืองแห่งสงครามจะหักสะบั้นลงก่อนตะวันทอแสง”
แสงไฟจากอาคมประดิษฐ์ส่องประกายระยิบระยับ ฉายภาพของแผ่นหิน และก้อนอิฐเรียงรายอัดแน่นเป็นกำแพงอันแข็งแกร่ง ธงผืนใหญ่ขึงไว้เหนือเรือนเฝ้าประตู อันเป็นเส้นทางสัญจรหลัก ซึ่งบัดนี้กลับเปิดอ้าอย่างมีนัย
เชิงเทียนตกอยู่บนพรมสีแดงสดภายในห้องนอนมืดสลัว มีเพียงแสงจันทร์ส่องสะท้อนการตกแต่งประดับประดาอย่างฟุ้งเฟ้อ เสียงโลหะปะทะกันเกิดขึ้นหลายครั้งภายใต้เสียงลมหายใจหนัก ๆ ผ่านลำคอ ชายหนุ่มรูปร่างกำยำฉีกยิ้ม สองมือเหวี่ยงดาบประจำกายตัดอากาศดังวืดวาด แต่เป้าหมายยังคงโล้ตัวหลบได้อีกครั้ง ก่อนเปิดฉากตอบโต้กลับบ้าง
หน้ากากสีขาวสลับดำ มีจมูกโด่งเป็นสัน และปากกว้างยิ้มแฉ่ง สวมอยู่บนใบหน้าของเด็กสาวผู้บุกรุก นางหมุนตัว สะบัดศาสตราวุธทั้งสองเล่ม ราวกับกำลังเต้นรำอยู่บนเวทีละคร ทั้งสง่างาม และน่าพรั่นพรึงในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีน้ำตาลลึกล้ำจดจ้องคู่ต่อสู้ผ่านช่องมองแคบบนหน้ากาก ใบมีดวาววับกวัดแกว่งคล่องแคล่ว พลิกสะบัดรวดเร็วน่าทึ่ง ทั้งฉวัดเฉวียน รุกไล่คู่ต่อสู้จนถอยไปหลายก้าว หากแต่กษัตริย์ยอดนักรบนั้นเปี่ยมด้วยเล่ห์เหลี่ยมในเชิงยุทธ คมมีดคู่ยังถูกปัดป้องได้ด้วยดาบในมือของเขา
“ไม่มีทาง! เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ องครักษ์กำลังมาที่นี่” กษัตริย์นักรบกร้าวใส่ ตามด้วยเสียงหัวเราะลั่น
หากจะมีมือสังหารสักคนที่แสนอุกอาจ ลอบเข้าถึงห้องนอนของจอมกษัตริย์ ‘ฟลาโวอัส วาเรนส์’ คนผู้นั้นต้องมีอำนาจดุจดังเทพเทวา ทั้งล่องหน และเหาะเหินเดินอากาศได้เป็นแน่ เขาเคยคิดเช่นนั้น เบื้องหน้าคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจอย่างไม่เคยพบเจอ บันดาลความตื่นเต้นจนร่างกำยำถึงกับสั่นเทิ้ม ความคิดอยากบดขยี้อริร้ายผู้หาญกล้าเดือดพล่าน มือสังหารเบื้องหน้าช่างแตกต่างจากในจินตนาการของตนเหลือเกิน
สาวน้อยพลิ้วกายหลบเลี่ยงคมดาบที่ตวัดอย่างเฉียบคม หลบเลี่ยง ก้าวถอยหลัง สลับกับตอบโต้เมื่อสบโอกาส เข้าใจดีว่าเวลาของตนเหลืออยู่ไม่มาก ภารกิจนี้ต้องจบลงก่อนองครักษ์คนแรกปรากฏตัวขึ้น
ที่สุด โอกาสของนางได้มาถึง วาเรนส์ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ความเหนื่อยล้าทำให้เขาเริ่มเชื่องช้า เขาเสียสมาธิเพียงชั่วพริบตาเดียวในการโถมแรงเหวี่ยงดาบภายใต้ท่วงท่าอันคุ้นชิน ทว่าครั้งนี้มัจจุราชตัวน้อยกลับยกมีดสั้นขึ้นไขว้รับ ปัดเบี่ยงวิถีดาบออก
ว่องไวยิ่งกว่าความคิด คมมีดอันแสนรวดเร็วเกินหยั่งถึงปักเข้ายังซอกคอของชายร่างใหญ่ จมลึกจนมิดด้าม หมุนตัวสะบัดอีกเล่ม เชือดซ้ำบนลำคอแข็งแกร่งเพื่อปิดฉากการต่อสู้
อย่างไม่มีความเจ็บปวด ทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา
“เสด็จสู่สวรรคาลัย ขอฝ่าพระบาทกลับสู่อ้อมกอดของพระเป็นเจ้าเถิด”