เมียงู(ซีรีส์ เมียร่านราคี)
วรรณกรรมผู้ใหญ่
เมียงู(ซีรีส์ เมียร่านราคี)
วรรณกรรมผู้ใหญ่
Chommanad Churnthongchai
อันหญิงใด ได้เสพสมกับงู แห่งคุ้งน้ำพญาเสน หญิงนั้น จะร้อนซึ่งตัณหา จนหากว่า ถ้าไม่ได้เริงกามา ภายในห้าวันเจ็ดวัน หล่อนก็จะกลายเป็นบ้า จิตจะสิ้นสมประดี ซึ่งคำนางก็กำลังจะเป็นเช่นนั้น ร่างบางบิดเร่า กระสับกระส่าย ด้วยไฟราคะแผดเผา
  • 22 ตอน
  • 9,033
นิยายโดย
  • 18 คนติดตาม
บทนำ

นงค์นางถอยกรู เมื่อร่างทะมึนในความมืด เดินเข้ามาใกล้ กริชอาคมอันน้อย ที่อยู่ในมือ ร่วงลงสู่ดิน บรรณาการสาวตัวสั่น จนแขนขาเปลี้ย ไม่เคยรู้สึกกลัวเช่นนี้มาก่อน

แม้เสียงของผู้เป็นบิดา ยังคงดังก้องอยู่ในสองหู

เมื่อมันกลายร่างเป็นมนุษย์ จงใช้กริชอาคม แทงเข้าที่ขั้วหัวใจ” บัญชาของเจ้าเหนือชีวิต ยังคงจำได้ แต่ก็คงไม่อาจจะรับสนองคำสั่ง ให้สำเร็จลุล่วง ด้วยราวกับมีพลังอำนาจ ที่มองไม่เห็น สะกดนางไว้ มิให้ขยับกาย

จนกระทั่ง ร่างบางถูกกระชาก ให้ลอยถลา ไปซานซบ กับอกแกร่ง รวดเร็วเหลือกำลัง เรือนกายอันอรชร ถูกรัดไว้ ด้วยอ้อมแขนอันกำยำ เนื้อหนั่นของเขา ช่างเย็นชืดนัก

หากแต่หญิงงาม ก็ไม่อาจจะขัดขืน อย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้แต่แรก เมื่ออ้อมกอดนั้น พันธนาการร่างบางเอาไว้ อย่างแน่นหนา จนแม้แต่จะหายใจก็ยังลำบาก ปากน้อยจึงเปิดอ้า เพื่อหาอากาศ

ลิ้นร้ายของอสรพิษ จึงฉกลงไป ในโพรงปากน้อย อย่างง่ายดาย ชิวหาที่แยกแตกออกเป็นสองแฉก กวาดกินความชุ่มฉ่ำในนวลแก้ม จนราวกับจะกลายเป็นทะเลทราย แต่ก็น่าแปลก ที่ความเนืองนอง กลับหาได้เหือดหาย

ลิ้นนางจึงสอดส่งแลกสัมผัส หญิงสาวทักทายแผ่นเนื้อสองแฉกคืนกลับ ถึงคราวแล้ว ที่ร่างบางจะเป็นฝ่าย ดูดโดมโลมรัก นางสิโรราบแก่เขา นับแต่วินาทีนี้

และนิ้วเรียวอันประดับด้วยเกล็ด ก็แกะแก้ผ้าแพรพันมัดทรวง ก่อนที่จะกระชากมันออก จนขาดหลุดลุ่ย แล้วเหวี่ยงให้ลอยไป อย่างไม่สนทิศทาง

ซึ่งจากนั้น มันก็ตามมาด้วย เข็มขัด และผ้าซิ่น ร่างนวลขาวเผยกระจ่าง ท่ามกลางแสงจันทร์ จนเห็นประจักษ์โดยพลัน มาสู่สายตา

กายอรชรจึงยิ่งถูกพันรัด แลปทุมถัน ก็ถูกขบกัด ขับกัด ดูดดุน แล้วโลมเลีย ดอกบัวนวลขาว จึงถึงกับเปียกชุ่ม ดังต้องฝน ร่างอรชรของหญิงงามจึงถูกรวบ แล้ววางลงไม่ไกล จากแพรมัดทรงแลผ้าซิ่น เจ้าของกายเกล็ดอันกำยำ วางนางลงอย่างอ่อนโยน

หากก็ดุดันขึ้นมาในทันตา โดยที่ไม่ทันจะได้รู้ตัว ปอยผมงามถูกจิกกระชาก จนศีรษะทุยสวยต้องแหงนขึ้น ริมฝีปากอิ่มเผยออ้า เนตรนางเบิกกว้าง เมื่อรู้สึกว่า มีสิ่งแปลกปลอม ถลันเข้ามาในห้วงปาก

แล้วเขาก็เริ่ม ทำให้มัน ราวกับจะขยับ ด้วยศีรษะทุยสวย ถูกทำให้คลอเคลื่อน ร่างกำยำ ที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ด ยังคงจิกมวยผมของหล่อน

แล้วโยกเยก เพื่อให้สิ่งแปลกปลอม ที่อยู่ในปาก ราวกับจะได้ ชักเข้า และถอยออก ก่อนที่มันจะจำแรงกาย จนโตใหญ่ ให้ล้นไหล ลงไปในลำคอ ร่างบางจึงถึงกับสำลัก

เจ้าของกายเกล็ด จึงยังพอจะปรานีหล่อน เขาถ่ายถอนท่อนลำนั้นออกไป นอกจากลิ้น สิ่งนี้คงจะเป็นเพียงหนึ่งเดียว ในร่างกายอันเย็นชืดนั้นล่ะกระมัง ที่มันหนั่นเนียน เป็นหนังเรียบ และยังคงรุ่มร้อน เยี่ยงกายคน นางมนุษย์หลับตาลง อย่างเหนื่อยอ่อน

หากก็ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงการแตะสัมผัส อันเย็นเหยียบ ที่เนินหญ้าดำ ตรงกลางหว่างขาขาว นางผู้เป็นดังบรรณาการ ผงกศีรษะขึ้นมาดู ด้วยความอยากรู้ เขายังอยู่ อยู่ที่ตรงนั้น

ผิวหนังอันประดับไปด้วยเกล็ด ต้องแสงจันทร์ จนส่องประกายระยิบระยับ ราวกับผืนอัญมณีล้ำเลอค่า ร่างของอมนุษย์ ซุกกายอยู่ตรงกลางหว่างขาเนียน เพื่อชโลมเลียและดื่มกิน น้ำค้างคาว บนยอดหญ้าโลกีย์ ที่ได้ปกคลุม จนดำไสว ไปอย่างถ้วนทั่ว ณ เนินเขาโพรงสวาท

ซึ่งก็ได้เลื้อยเลาะ แล้วซอนเซาะ จนทุกซอก ทุกหลืบ ก่อนที่จะนำพาตัวตน ให้ถลำลึกลงไป ในคูหาสวรรค์ กระทบติ่งเกสรสาว ร่างงามกรีดร้อง แล้วครวญคราง

ก่อนที่จะแตะเนื้ออ่อนในซอกถ้ำ นวลนางยิ่งครางระงม ด้วยหวามซ่าน และสุขสม จนขนอ่อนลุกซู่ชูชัน เป็นเกรียวเสียวกระสัน ซึ่งนั่น มันก็ยิ่งทำให้ ร่างอรชรยิ่งไม่อาจจะหยุดกรีดร้อง

“อา... หะ... อ่ะ... อา...โอ้ว...” วนเวียนซ้ำซากอยู่อย่างนี้ ด้วยราวกับจะล่องลอยไปในปุยเมฆ นางเคลิบเคลิ้ม หลงเพลินจนลืมตน

หากก็มีอันได้เบิกตาโพลงอีกครั้ง เมื่อรู้สึกเหมือนกายจะแยก แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยคล้ายดังว่า เจ้าลิ้นน้อยนั้น จะสำแดงร่าง โพรงสวาทสาว จึงเหมือนราว กับจะถูกฉีกออก ร่างบางหวีดร้องอย่างสุดเสียง

พลางก็รีบหยัดกายให้ลุกขึ้น เมื่อปวดร้าว จนจวนเจียนจะขาดใจ หญิงงามผลักกายหนา ก่อนจะดิ้นพล่าน เขาทำอันใด กับร่างกายของหล่อน

ที่ตรงหว่างขา พญาอสุรกายสอดประสาน ด้วยดุ้นลำแห่งองค์นาคราช ซึ่งได้แทงกระแทก แทรกเข้ามา ในตัวของหล่อน อย่างรุนแรง โดยที่บรรณาการสาว ไม่ทันจะได้รู้ตัว ช่องทางอันตีบตัน เพราะไม่เคยถูกลุกลาน จึงเหมือนกับถูกฉีกทึ้ง ให้ขาดออกเป็นชิ้นๆ

จึงยังคงดิ้นพล่าน และดิ้นพล่าน พลางก็ผลักร่างสูง เพื่อให้ไอ้ดุ้นลำนั้น ได้หลุดพ้นไป จากโพรงกาย หากแต่ข้อมือเรียวก็ถูกฉวยคว้า แล้วนำมาตรึงไว้ ที่ข้างศีรษะทุยสวย ร่างบางจึงมีอันได้ดิ้นพล่าน ยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

“ปล่อยๆ ปล่อยข้าเจ้า ข้าเจ้าเจ็บ ข้าเจ้าเจ็บ” กรีดร้องออกมาน้ำตาริน หญิงงามกรีดร้องจนสุดเสียง อสุรกายจึงกระซิบ

“มันต้องเจ็บ ทนเอาเถิด อีกสักประเดี๋ยว เจ้าก็จะมีความสุข เมียรักของข้า”

“ไม่” หากนางก็หาได้ฟัง “ข้าเจ้าเจ็บ พอเถิด ข้าเจ้าเจ็บ ได้โปรด ความสุขนั่น ข้าเจ้าไม่อยากได้” นางกล่าวเสียงเครือ ด้วยปนน้ำตา บรรณาการสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น

ร่างอันเย็นชืด จึงโอบกอดนางเอาไว้ และไม่กล่าวอันใดอีกต่อไป เขาเริ่มขยับ หญิงงามจึงต้องยิ่งกรีดร้อง กรีดร้อง และกรีดร้อง

หากก็หาได้นำพา ราวกับเสียงกรีดร้องของนาง ยิ่งร่ำร้องเรียกความกำหนัด ด้วยมันยิ่งทำให้อมนุษย์รูปงาม ยิ่งหื่นกระหาย ท่อนลำจึงโจมจ้วง กระแทกเข้า กระแทกออก

ซ้ำยิ่งนางกรีดร้อง เขาก็ยิ่งแทงกระแทก ให้แรงขึ้น เร็วขึ้น พญาอสุรกายกดกระทั้น และดันตัวตน อย่างหนักหน่วง กลิ่นคาวโลหิตแห่งกายสาว ลอยคละคลุ้ง พื้นหญ้าสีเขียวเย็น เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน

ก่อนที่ร่างสูงจะสาดตัวตน เป็นครั้งสุดท้าย อย่างสุดแรง แล้วคำรามลั่น กายกำยำเกร็งกระตุก เขาซานซบลงไปกับอกสาว ของเหลวแห่งชีวัน หลั่งทะลัก จากร่าง สู่ร่าง

และไม่นานนัก อสุรกายหนุ่มก็กระซิบ

“ข้าไปละนะคนดี”

นางจึงลืมตา ซึ่งภาพที่ได้เห็น ชายที่กายเต็มไปด้วยเกล็ด เปลี่ยนตัวตน แล้วเลื้อยลงไปจากร่างสาว หญิงงามจึงรีบพยุงตัวลุก แล้วร้องเรียกอย่างสุดเสียงว่า

“อย่าไปนะ”

หากเขาก็หาได้หยุด อสรพิษร้าย เลื้อยคืนกลับไป ยังคุ้งน้ำกว้าง นางจึงต้องร้องถามเขา อย่างแสนอาลัยว่า

“ท่านจะกลับมาหาข้าเจ้าอีกไหม”

งูใหญ่จึงหยุดเลื้อย แล้วหันมา จ้องตาร่างอรชรนิ่ง หญิงงามจึงกล่าวว่า

“ข้าเจ้าต้องการท่าน” นางวิงวอนเสียงกระเส่า ซึ่งหากจะกล่าวว่า กระหายในตัวเขา ก็มิผิด เมื่อความเจ็บปวด ที่พญางูใหญ่ได้มอบให้ ช่างรัญจวนใจ จนต้องโหยหา

ด้วยไฟปรารถนาซึ่งอสรพิษร้าย ได้จุดขึ้นมา มีแต่เพียงลำกายชายของเขาเท่านั้น ที่จะเติมเต็ม ให้ร่างน้อย ได้หายหิว ผู้ครอบครองคุ้งน้ำ จึงกล่าวว่า

“รอข้าเถิด ศิมาเทวีเมียรัก ยามใดเจ้าปรารถนา ยามนั้น ร่างของข้า จักปรากฏ”