เพราะหัวใจเราผูกกัน
รักโรแมนติก
เพราะหัวใจเราผูกกัน
รักโรแมนติก
รัตนวิมล
เพราะหัวใจเราผูกกัน ความผูกพันที่มีให้กันมาเนิ่นนาน แปรเปลี่ยนเป็นความรักลึกซึ้ง มั่นคง เขาไม่ได้รักเธอ แต่เพราะความผิดพลาด ทำให้ต้องรับผิดชอบเธอ เธอไม่เคยรักใคร แต่เพราะความผิดพลาดทำให้ต้องเรียนรู้ที่จะรักเขา เขาแอบรักเธอตั้งแต่เด็ก แต่คำว่ารัก พยางค์เดียว ทำยังไงก็ไม่กล้าพูดไป เธอก็แอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่กล้าพูดคำว่ารักออกไป เพราะกลัวสูญเสียคำว่าเพื่อน เขาบอกรักพล่อย ๆ กับคนอื่นมากมาย แต่ถึงคราวที่บอกรักจริง ๆ เธอกลับไม่เชื่อ เธออยากได้ยินแม้เพียงคำบอกรักจอมปลอมจากเขา แต่ไม่มีวันทำใจให้เชื่อได้ลง
  • 19 ตอน
  • 7,698
นิยายโดย
  • 2 คนติดตาม
บทนำ

ตอนที่ 1

เคยรัก

เสียงข้าวของแตกที่ดังมาจากชั้นสองของบ้าน ทำให้เด็กหญิงสโรชา งามสม หรือ ส้ม วัย 14 ปี สะดุ้งจนเกือบทำจานกระเบื้องในมือที่กำลังล้างอยู่หลุดมือ ซักพักก็ได้ยินเสียงร้องไห้จ้า ที่ตามมาของเด็กชายเกริกเกียรติ หรือ เกริก

ส้มส่ายหัวอย่างระอา รีบล้างมือกำจัดฟองน้ำยาล้างจานออก ก่อนจะวิ่งจนปลายเปียสองข้างปลิวเพื่อขึ้นไปชั้นสองของบ้าน

เสียงเคาะประตูห้องทำให้คู่สามี ภรรยา ที่กำลังทะเลาะกันเสียงดังพร้อมกับทุ่มข้าวของลงพื้น หยุดชะงัก ก้องภพหันไปตวาดใส่ประตู ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นเคาะประตู

“ใคร?”

“ส้มเองค่ะ”

“มีอะไร?”

“คือว่า คุณภพสั่งไว้ค่ะว่า ถ้าคุณหนูเกริก ร้องไห้ ให้ส้มรีบมาดูค่ะ”

ก้องภพเอามือสองข้างท้าวเอว ถอนใจ ก่อนจะหันไปมองภรรยาสาวชาวต่างชาติ อย่างแค้นเคืองและเหมือนเตือนอยู่ในทีไม่ให้พูดอะไรออกมา

เบลล์ ชำเลืองมอง เด็กรับใช้นามว่าส้มที่เดินเข้ามาอย่างตัวลีบ อุ้มลูกชายของเธอวัย 1 ขวบที่ร้องไห้ตกใจไม่หยุดออกไป พออยู่ในอ้อมแขนของส้ม เกริกเกียรติก็หยุดร้องไห้ ซบลงกับอกของเด็กหญิงทันที จนเธออดหมั่นไส้ไม่ได้ ลูกบ้าทีกับแม่ตัวเองไม่ให้อุ้ม

หลังจากได้เกริกเกียรติมาไว้ในอ้อมแขน สโรชาก็รีบอุ้มน้องลงมาที่ชั้นล่างทันที และเป็นดังคาด ข้างบนยังคงทะเลาะเบาะแว้งกันต่อ เด็กหญิงได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาอีกครั้ง ไม่เข้าใจผู้ใหญ่เลย ถ้าอยู่กันแล้วทะเลาะกันเกือบทุกวัน ทำไมไม่เลิกกันไปซะ

สโรชามองใบหน้าน่ารักของเกริกเกียรติอย่างสงสาร ก่อนจะก้มลงหอมแก้มยุ้ยทั้งสองข้างของน้อง พอเด็กหญิงก้มลงไปหอมแก้มเด็กชายเท่านั้น อีกฝ่ายก็หัวเราะเอิ้กอ้าก โผตัวซบนิ่งแนบอกทันที ทั้ง ๆ ที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

“ไปดูนกกันมั้ย? เดี๋ยว พี่ส้มจะพาคุณเกริกไปดูนะคะ”

สโรชาชี้ให้น้องดูนกกระจอก นกเอี้ยงที่บินโผ ลงมาเดินบริเวณสนามหญ้า ในสวนหลังบ้าน ใบหน้ากลมน่ารักเงยหน้าขึ้นมองพร้อมทำเสียงอืออาในคอราวกับรู้ประสา แต่พอ ผ่านไปซักพัก เกริกเกียรติเริ่มร้องไห้งอแง ซึ่งเด็กหญิงก็รู้ว่าน่าจะเป็นเพราะหิวนมจึงอุ้มเดินเข้าบ้าน

“ป้าจ๋า คุณเกริกหิวนมจ้ะ”

สโรชาเดินเข้าไปบอกอนงค์ ที่เป็นป้าแท้ ๆของเธอ ที่ทำงานเป็นแม่บ้านของตระกูล เจตคติดำรงค์มานานหลายปี

“มา เดี๋ยวป้าจะสอนวิธีชงนมให้ วันหลังถ้าป้าไม่ว่างส้มจะได้ชงเป็น”

อนงค์ แม่บ้านสาวใหญ่วัยเกือบสี่สิบ หันไปบอกหลานสาว เธอกวาดตามองไปทั่วตัวเด็กหญิงสโรชาอย่างนึกขัน ส้มเอ๋ยส้ม ตัวกระเปี๊ยกเดียว แต่ยังอุตส่าห์อุ้มคุณเกริก กระเตงไปกระเตงมา

สโรชามองวิธีที่ป้าสอนชงนมอย่างตั้งใจ ก่อนจะเขย่านมในขวดให้เข้ากันดี ท่ามกลางสายตาของเด็กชายเกริกเกียรติที่มองอย่างหมายมั่น หลังจากทดสอบความร้อนด้วยหลังมือแล้ว ก็ส่งขวดนมให้น้อง

พอได้ขวดนมเท่านั้น เด็กน้อยก็คว้าไปดูดอย่างกระหาย และดูดจนหมดขวดในเวลาไม่นานนัก ก่อนจะโยนขวดนมเปล่าทิ้งลงพื้นดังเคร้ง อย่างบอกให้รู้ว่ายังไม่อิ่ม ทำให้สโรชาอดหัวเราะอย่างขบขันออกมาทุกครั้งที่เห็นไม่ได้ จึงหยิบขวดมขวดที่สองที่เตรียมไว้ให้

พอนมขวดที่สองหมดลงพร้อมกับเสียงเรอ ของเกริกเกียรติ รวมทั้งอาการบรรจงวางขวดนมช้า ๆ บอกให้รู้ว่าเด็กน้อยอิ่มนมแล้ว สโรชาจึงเช็ดทำความสะอาดเหงือกและฟันน้องด้วยผ้าชุบน้ำต้มสุก แล้วอุ้มน้องน้อยไปนอนตรงเปลบริเวณห้องรับแขก ร้องเพลงกล่อมเบา ๆ จนเด็กชายค่อย ๆ พริ้มตาหลับลงช้า ๆ

เด็กหญิงอมยิ้มในหน้า ก้มลงจุมพิตที่แก้มยุ้ยสองข้างอย่างเอ็นดู โดยไม่รู้ว่ากิริยาที่แสดงความรักอย่างจริงใจของเธอนั้น อยู่ในสายตาของก้องภพตลอด เออหนอ! แม้แต่เด็กรับใช้ในบ้าน ยังรักและดูแลลูกของเขาดีกว่าแม่แท้ ๆ อดคิดอย่างขื่นในอกไม่ได้ ถ้าไม่เป็นเพราะทำเบลล์ท้อง ตอนที่ไปเรียน summer เขาคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ต้องเป็นพ่อคนทั้ง ๆ ที่อายุไม่ถึง 20 ปี หนำซ้ำยังเรียนไม่จบ

แต่เมื่อมีลูกเกิดมาแล้ว เขาก็พยายามกลับไปเรียนหนังสือเพื่อจะได้จบตามกำหนด และมาเลี้ยงลูกเอง แทนที่จะปล่อยให้เป็นภาระของภพ ซึ่งเป็นบิดาของตน

ก้องภพลูบแก้มของบุตรชายเบา ๆ ลูกชายของเขาหล่อเหลาตั้งแต่เด็ก ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของเอเชียและตะวันตก ตัวเขาเองก็ได้ชื่อว่าเป็นชายไทยแท้ที่คมเข้มหาตัวจับยากอยู่แล้ว ส่วนเบลล์เองก็เป็นถึงดาวโรงเรียน แต่ความสวยไม่ได้ช่วยให้สัญชาตญาณความเป็นแม่สูงตาม

เบลล์ไม่เคยดูแลลูก เอาแต่เที่ยวเตร่ ผลาญเงินไปวัน ๆ รวมทั้งไม่ยอมเรียนต่อ

แรก ๆเขาก็พอทน แต่พอนาน ๆ ไ ปก็เริ่มเบื่อและกลายเป็นเพิ่มพูนความเกลียดชังมากยิ่งขึ้น ในไม่ช้าคงต้องเลิกกันไป สงสารแต่ลูกที่ต้องกำพร้าแม่ ไม่เป็นไร เขาจะพยายามเลี้ยงลูกคนเดียวให้ได้

ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงทักจากด้านหลัง จึงรีบหันกลับไปยกมือไหว้บิดา ที่พึ่งกลับมาจากบริษัท

“ทะเลาะกันอีกแล้วหรือลูก?”

ภพขยับเนคไท พลางแกะกระดุมที่บริเวณข้อมือของเสื้อเชิ้ต ส่งเสื้อสูทให้อนงค์ที่มารอรับทุกวันตอนเย็นหลังเลิกงาน

“ครับ”

“ทะเลาะกันเรื่องอะไร บอกพ่อได้มั้ย?”

“ก็เรื่องเดิม ๆ”

ภพถอนใจ ลูบศีรษะบุตรชายอย่างปราณี

“ถ้ามันทนไม่ไหว ก็เลิกกันดีมั้ยลูก เลิกกันด้วยความเข้าใจ ดีกว่ารอให้เกลียดกันแล้วจ้องแต่จะทำร้ายกัน”

“ครับ ผมว่าเวลาของผมกับเบลล์ มันคงใกล้จบลงในไม่ช้านี้ล่ะครับพ่อ”

ภพก้มลงมองหลานชายที่ค่อย ๆลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี พลางชูมือสองข้างขึ้นเพื่อให้อุ้ม จนคนเป็นปู่อดไม่ได้ยิ้มตอบ แล้วอุ้มหลานชายขึ้นจากเปล

“ตื่นขึ้นมาก็ประจบเลยนะ เกริกเกียรติ”

ก้องภพมองกิริยาที่ลูกชายหัวเราะเอิ้กอ้าก จนตาหยี กอดคอคนเป็นปู่แน่นอย่างตื้นตันใจ พ่อที่ประเสริฐของเขา พ่อที่ไม่ว่าเขาทำผิด ทำให้ท่านเสียใจแค่ไหนก็ยังให้อภัยและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ


เบลล์ปิดประตูรถที่หนุ่มคู่ขา ขับมาส่ง สะบัดรองเท้าส้นสูงอย่างทุลักทุเล ลงบนพื้นอิฐบล็อคหน้าประตูบ้าน แล้วเดินเท้าเปล่าเปลือยโซเซ เข้าบ้านด้วยความเมา โดยมีสายตาของสามีมองมาจากหน้าต่างห้องนอนชั้นสอง


“ใครมาส่งเหรอ เบลล์?”

ก้องภพเอ่ยถามอย่างเสียไม่ได้ ก้มลงไปอุ้มลูกที่ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงง ๆ เพราะเสียงดังโครมคราม ของคนเป็นแม่ที่เปิดประตูห้องเข้ามา

“ไม่รู้สิ พึ่งเจอตอนหัวค่ำ”

หญิงสาวตอบแบบไม่ยี่หระ ถอดชุดเดรสสีดำรัดรูปออกทางศีรษะ กองบนพื้นห้องอย่างลวก ๆ ตามเนื้อตัวเปล่าเปลือยเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์ก

ก้องภพละสายตาจากร่างเปลือยตรงหน้า มาสนใจบุตรชายในอ้อมแขนแทน

น่าแปลก ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงกระโจนเข้าใส่กับภาพโนมเนื้อสวยงามยั่วยวน แต่หลายเดือนที่ผ่านมา ความรู้สึกทางเพศที่มีต่อเบลล์มันไม่มีหลงเหลืออยู่เลย และแน่นอน เขารู้อยู่เต็มอกว่า เมียเขา มั่วผู้ชายไม่เลือก แต่เขาก็เคยยอมทนเพื่อลูก แต่วันนี้เขาจะไม่ยอมทนอีกต่อไป

ก้องภพรอให้เบลล์อาบน้ำ ชำระร่างกายเรียบร้อย แล้วเปลี่ยนเสื้อนอนเป็นชุดนอนกระโปรงสีแดงเข้มเนื้อโปร่งบาง ในจังหวะที่ภรรยากำลังแปรงผมอันเป็นกิจวัตรประจำวันก่อนเข้านอน ก้องภพก็เอ่ยขึ้นมาทั้ง ๆ ที่โอบกอดลูกชายไว้แน่น

“เราเลิกกันเถอะ เบลล์”

“อะไรนะ!”

เบลล์ หันมาถามอย่างตกใจ ใบหน้างดงามขาวผ่องอมชมพู ซีดขึ้นมาทันตาอย่างไม่คาดคิดว่า จะได้ฟังคำนี้จากปากผู้ชายที่เป็นพ่อของลูก

“ผมบอกว่าเราเลิกกันเถอะ เบลล์ อย่ารอจนเราต้องเกลียดกันมากไปกว่านี้เลย”

“เฮอะ! ทำอย่างกับเบลล์ พิศวาสคุณนักหนานี่”

“ถ้าอย่างนั้น มันก็ยิ่งง่ายเข้าที่เราจะเลิกกัน จริงมั้ย?”

“เบลล์ไม่ยอมเลิกกับคุณง่าย ๆ หรอก ก้องภพ”

“ทำไมล่ะเบลล์ ? คุณจะได้ไปมีผู้ชายคนใหม่ได้สะดวก ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจอย่างที่เป็นอยู่”

“คุณก็รู้นี่ ก้องภพว่าถ้าเลิกกัน เบลล์ก็ไม่มีอะไรเลย”

“คุณอยากได้อะไร บอกมาเลยเบลล์ ผมให้ได้ทุกอย่าง ขออย่างเดียว อย่าเอาลูกไปจากผม”

“เชอะ! ไม่ต้องห่วงหรอก เบลล์ไม่อยากได้เด็กเล็ก ๆ ไว้กวนตัวกวนใจแน่นอน เบลล์อยากได้เงินสักก้อน ไปตั้งตัว คุณให้เบลล์ได้มั้ย?”

“เท่าไหร่ล่ะ เบลล์?

“10 ล้าน”

แม้จะตกใจกับตัวเลขที่สูงลิบลิ่ว แต่พอก้มลงมองลูกชายที่หลับตาพริ้มในอ้อมกอดก็ทำให้เขาตัดสินใจได้ในทันที

“ตกลง แต่คุณต้องไปเซ็นต์สัญญากับผมว่า ต่อไปในอนาคต คุณจะไม่มายุ่งเกี่ยว และไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในชีวิตของเกริกเกียรติทั้งนั้น”

“จริงเหรอ! คุณให้เบลล์ได้จริงเหรอ 10 ล้านน่ะ”

เบลล์ถามด้วยความตื่นเต้น เธอรู้ว่าบิดาของก้องภพเป็นมหาเศรษฐี แต่ไม่เคยเห็นก้องภพใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เลยไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีเองก็มีเงินเก็บส่วนตัวเยอะเหมือนกัน

ก้องภพ พยักหน้า ก่อนจะค่อย ๆบรรจงวางลูกลงในเปล

ชายหนุ่มถอนใจ นึกไปถึงเงินในบัญชีธนาคารหลายสิบล้านบาทที่มารดาของเขาฝากไว้ให้ ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งท่านเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ

เงินก้อนนี้ เขาไม่เคยคิดที่จะเอาออกมาใช้ เพราะมันเป็นตัวแทนความรักของมารดา ที่ห่วงใยอนาคตของลูก แต่ครั้งนี้เขากำลังเอามันออกมา จ่ายให้กับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อซื้อลูก หวังว่าแม่ที่อยู่บนสวรรค์จะเข้าใจ และเห็นด้วยในการกระทำของเขา