บุปผาร่ายรัก
แรงชัดจัดเต็ม
บุปผาร่ายรัก
แรงชัดจัดเต็ม
เพลงมีนา
บุปผาร่ายรัก เรื่องราวของหญิงสาวนามเคอหลิ่งหลิน จากเด็กกำพร้ากลายเป็นลูกบุญธรรมของแม่ทัพ ชายที่นางแอบรักถูกพิษเล่นทำให้เกือบสิ้นชีพนางจึงทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเขา ทำให้นางได้รู้ชาติกำเนิด"รอยสักดอกไม้แดง" และหนทางสู่กระบีผงาดฟ้า * * * * เคอหลิ่งหลินดิ้นขลุกขลักแต่เขารัดนางแน่นขึ้น บังคับให้นางต้องอยู่ในท่านี้อย่างขัดขืนไม่ได้ ซ้ำร้ายลมหายใจของเขายังเป่ารดที่คอนางอีกต่างหาก “ยื่นมือมา” “หือ” เมื่อเห็นนางทำหน้างุนงง เขาก็จับมือข้างที่เป็นรอยแผลขึ้น รอยแส้ตวัดฉีกผิวหนังหลังมือของนาง แค่พริบตาเดียวเท่านั้น ทั้งที่คว้านางได้แล้วแท้ๆ แต่เขาก็ยังพลาดทำให้ผิวกายของนางมีบาดแผล หัวคิ้วขมวดอย่างเคร่งเครียดอีกครั้ง ยกมือนางขึ้นมาทาบริมฝีปากลงไปเบาๆ ราบกับจูบซับความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลไว้ “อึก” นางแทบกลั้นหายใจจะชักมือกลับก็มิกล้า ไออุ่นนั้นไล้อาบผิวราวแทรกซึมผสานกับการไหลเวียนของโลหิตทำให้นางร้อนผ่าวไปทั้งตัว “แผล... แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก...เพคะ” กว่าจะค้นหาเสียงตัวเองเจอเขาก็คลึงเนื้อยาจนแทรกซึมเข้าไปในร่องแผลเรียบร้อยแล้ว “ต่อไปนี้ถ้าข้าไม่อนุญาต เจ้าก็ห้ามมีบาดแผลใดเด็ดขาด” “เอ๊ะ!” ได้รึ? คำสั่งแบบนี้ก็มีด้วยรึนี่? * * * *
  • 38 ตอน
  • 8,154
นิยายโดย
  • 138 คนติดตาม
บทนำ

เปิดจองพร้อมรับโอน #บุปผาร่ายรัก #เพลงมีนา #นิยายจีนโบราณ (รีปริ้นต์)
เรื่องราวของหญิงสาวนามเคอหลิ่งหลิน จากเด็กกำพร้ากลายเป็นลูกบุญธรรมของแม่ทัพ
ชายที่นางแอบรักถูกพิษเล่นทำให้เกือบสิ้นชีพนางจึงทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเขา
ทำให้นางได้รู้ชาติกำเนิด"รอยสักดอกไม้แดง" และหนทางสู่กระบี่ผงาดฟ้า
สร้างความประทับใจจนติดอันดับ Top 20 หมวด นิยายกำลังภายใน เวบไซต์ เด็กดี.คอม และ ธัญวลัยมาแล้ว
หนังสือพิมพ์ตามยอดสั่งซื้อ เราปิดรับสั่งจองวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561
(หนังสือจัดส่งปลายเดือนพฤศจิกายน 2561ค่ะ)
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/PlengMeNa
หนังสือราคา389 บาท รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนค่ะ
การชำระเงิน ชื่อบัญชีนางสาวพิณประภา ขันธวุธ
ธนาคาร กรุงเทพ สาขามหาสารคาม สะสมทรัพย์ เลขที่ 298-4-88854-1
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร ออมทรัพย์ เลขที่ 006-2-68049-8
-เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาแจ้งที่เมล์นี้ phinprapha@gmail.com หรือSMS มาที่0862284421 หรือเฟซบุ๊คด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

บุปผาร่ายรัก

บทนำ

เด็กหญิงตัวน้อยเหวี่ยงตัวบนไปนั่งบนกิ่งไม้แล้วมองการเคลื่อนไหวด้านล่าง เสียงผู้คนวุ่นวายทำลายความรื่นรมย์ของเด็กหญิงวัยแปดขวบที่มีนามว่า ‘เคอหลิ่งหลิน’ หมดลง เด็กหญิงตัวเล็กแม้จะมอมแมมไปสักหน่อยแต่ก็มีเค้าโครงหน้างดงาม เด็กน้อยจำใจต้องปล่อยเจ้ากวางน้อยที่วิ่งไล่จับเมื่อครู่แล้วทำตัวเป็นวานรปีนป่ายต้นไม้ขึ้นมาบนกิ่งสูงนี้เพียงเพื่อมองหาที่มาของเสียงดังน่ารำคาญ รูปร่างปราดเปรียวและซุกซนจนบิดาผู้เป็น ‘ขุนโจรแห่งหุบเขาชิงซาน’ ไม่มั่นใจว่าตนเองมีบุตรหญิงหรือชายกันแน่ หากนับความเฉลียวฉลาดในการเอาตัวรอดของนางและฝีมือด้านวรยุทธ์แล้วละก็ นางก็ได้ชื่อเป็นเป็นบุตรของ ‘เคอตงตง จอมโจรแห่งหุบเขาชิงซาน’ แล้ว

ครู่ต่อมานางก็รู้ว่ามีลิงตัวใหญ่ยักษ์ห้อยโหนมานั่งบนกิ่งไม้เดียวกับนาง สายตาคมเกินเด็กหันไปจ้องมองแล้วยกนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากเป็นสัญญาให้เงียบ เจ้าลิงยักษ์กลับทำท่าเลียนแบบนาง เด็กหญิงจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วมันก็ยังทำตามเช่นเดิม

ดวงตากลมมองเห็นกลุ่มคนกำลังไล่ล่าบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง รูปร่างผอมบางราวสตรีแม้จะมีกระบี่ในมือแต่ดูเหมือนเขาจะแทบไร้เรี่ยวแรงที่จะยกมันขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง เคอหลิ่งหลินไม่รู้หรอกว่าฝ่ายใดเป็นคนโฉดชั่วหรือฝ่ายใดเป็นคนดีทว่าสิ่งที่สองตาของนางมองเห็นตอนนี้คนหมู่มากกำลังรุมชายเพียงคนเดียว ร่างของชายผู้นั้นเสียหลักหงายหลัง ชายในชุดดำมีผ้าบิดใบหน้ามิดชิดเงื้อกระบี่ในมือหมายจะฟาดเอาชีวิตคนที่ไร้ทางสู้ มือเรียวเล็กของเด็กหญิงเด็ดผลไม้ที่อยู่ใกล้มือแล้วขว้างไปสุดแรง ด้วยการฝึกฝนตั้งแต่เล็กแต่น้อย ความแม่นยำของนางไม่เป็นรองใคร มันส่งผลให้ผลไม้ลูกนั้นกระแทกใส่ข้อมือของผู้ที่ถือกระบี่ ชายชุดดำเสียจังหวะผงะถอยหลังทำให้ชายในชุดขาวที่เปื้อนเปรอะลุกขึ้นได้

“เจ้า! มาทางนี้” เคอหลิ่งหลินตะโกนบอกแล้วชี้ให้วิ่งไปอีกทาง ส่วนนางก็กระโดดลงมายืนแล้วฉุดข้อมือชายแปลกหน้าให้วิ่งตามนางไป โดยมีชายชุดดำสามคนไล่ตามหลัง

“เจ้ากระโดดไหวไหม?”

“อะไรนะ!” เสียงนั้นถามอย่างงุนงง

“เอ้า! กระโดด!”

ชายหนุ่มไม่ทันได้คิดอะไร เพราะมัวแต่วิ่งมุ่งไปข้างหน้า และเมื่อได้ยินคำว่า ‘กระโดด’ เบื้องหน้าก็ไร้พื้นดิน เพราะมันเป็นหน้าผา และด่านล่างเป็นน้ำตก

“เฮ้ย!”

เสียงชายหนุ่มเผลอร้องลั่น แต่ข้างหูเขากลับได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก มือใหญ่ของเขามีมือเรียวเล็กจับไว้มั่น เด็กหญิงหันมายกนิ้วแตะที่ริมฝีปากเป็นเชิงบอกให้เขาเงียบก่อนจะชี้ขึ้นไปด้านบน ทั้งสองไม่ได้ตกลงมาในสระน้ำเบื้องล่าง ละอองน้ำตกพร่างพราวขาวราวไข่มุก ทำให้ชายชุดดำทั้งสามก้มมองไม่เห็นคนทั้งสองที่ยืนอยู่ขอบน้ำตก พวกมันเข้าใจว่าทั้งสองตกน้ำไปแล้วจึงหมุนตัวจากไป เคอหลิ่งหลินแหงนหน้ามองอีกครั้งให้มั่นใจว่าคนกลุ่มนั้นไปหมดแล้ว ก็กระตุกข้อมือข้างที่นางจับไว้ให้เดินไต่ขอบน้ำตกตามเข้าไปหลังม่านน้ำตาซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่

“แม่นางน้อย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามาในถ่ำแล้ว แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกเหนื่อยหอบหลังจากถูกตามไล่ล่าจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

“เรียกข้าเคอหลิ่งหลิน” เด็กหญิงยิ้มกระจ่างสดใส ยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำที่กระเซ็นถูกใบหน้าอ่อนใส “พี่ชายบาดเจ็บที่ใดหรือไม่”

“ได้แม่นางน้อยช่วยทำให้ข้าปลอดภัยดี”

“อย่าได้คิดมาก ข้าเป็นจอมยุทธหญิงย่อมต้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว” เด็กหญิงยืดอกด้วยท่าทีภูมิใจ ไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่าย

ตัวเล็กกระจ้อยร่อยอาจหาญเรียกตัวเองว่าจอมยุทธหญิง? เด็กคนนี้ช่างกล้านัก!

“เป็นอะไรไปพี่ชาย ท่านติดค้างคำขอบคุณข้าอยู่นะ”

ชายหนุ่มเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่คำพูดของเด็กหญิงตัวเล็กตรงหน้าทำเอาเขาอดกลั้นที่จะหัวเราะไว้ไม่ไหว คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างฉงน ชายผู้นี้เป็นอย่างไรกัน นางเป็นคนช่วยชีวิตเขาแท้ๆ แต่กลับหัวเราะท้องคักท้องแข็งไม่เกรงมารยาทเอาเสียเลย

“มาเถอะ ข้าจะพาพี่ชายไปส่งที่ตีนเขา” เด็กน้อยพยักหน้าแรงๆเรียกชายหนุ่ม

“ไยเจ้าจึงช่วยข้าเล่า หากข้าเป็นคนไม่ดีล่ะ เจ้าจะทำเช่นไร”

เด็กหญิงตัวน้อยหันมายิ้มแล้วหัวเราะร่า ประกายวับวาวไร้ความหวาดกลัว “พี่ชายเอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องอื่นเถิด”

โดนเด็กน้อยกำราบเข้าให้ เขามิกล้าจะเอ่ยถามอายุจอมยุทธ์หญิงเลย เขายอมเดินตามนางจนออกมาถึงป่าโปร่ง แล้วเด็กน้อยก็ชี้นิ้วบอกทาง

“ข้าส่งพี่ชายได้เพียงแค่นี้”

“ข้าขอบใจเจ้ามาก”

“ข้าไปล่ะ ถ้าท่านพ่อรู้เข้าข้าจะโดนดุเอา”

เคอหลิ่งหลินรีบวิ่งไปทิศทางตรงข้าม นางดูคล่องแคล้วเหมือนแมวป่า และร่าเริงดุจนกน้อย มิได้สนใจว่าผู้ที่เฝ้ามองอยู่นั้นจะมองนางด้วยความรู้สึกเช่นใด เด็กน้อยวิ่งกลับไปที่กระท่อมเชิงเขา กลิ่นข้าวหอมกรุ่นจนเด็กหญิงต้องยกมือขึ้นกุมท้อง

“ข้าหิวแล้วท่านพ่อ”

“เจ้าควรกลับบ้านมาก่อนที่พ่อจะเข้ามาใช่หรือไม่”

“ข้า...ข้าออกไปเล่นนิดเดียวเอง” นางไม่ได้บอกพ่อในทุกเรื่อง และเพื่อนสนิทของนางที่เป็นลิงยักษ์ก็ไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง เพราะกลัวว่าพ่อจะไม่ชอบเพื่อนของนาง

“ช่วงนี้ที่ชายแดนมีการสู้รบ เจ้าจะไปเถลไถลที่ไหนไกลบ้านมิได้ เราอาจเจอพวกทหารหนีทัพก็ได้นะ”

“เป็นทหารแล้วไยต้องหนีทัพละท่านพ่อ”

พ่อทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็ไม่พูดต่อ วางมือใหญ่ลงบนศีรษะของนาง “ยังมีเรื่องอีกมากที่เจ้าไม่รู้”

“ท่านก็บอกข้าซิ ยากตรงไหน” เด็กหญิงหัวเราะร่า

“พ่อไม่รู้จะบอกเจ้าอย่างไร ถ้าแม่เจ้ายังอยู่คงช่วยพ่อสอนเจ้าได้ดีกว่านี้”

“อยู่ซิ ท่านแม่อยู่กับข้า อยู่ในนี้” เด็กหญิงตบอกตัวเองหนักแน่น ผู้เป็นพ่อเห็นแล้วก็ยิ้ม

“ถูกต้องแล้ว หลินเอ๋อร์ แม่ของเจ้าอยู่ในใจเจ้ามิได้เป็นไหน” เขาเป็นคนสอนลูกเองกลับลืมไปเสียได้ ยังไม่ทันกล่าวอะไรต่อก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาที่หน้าประตูกระท่อมหลังน้อย พ่อลุกขึ้นยืนแล้วเดินไป ปล่อยลูกสาวไว้ที่โต๊ะอาหาร เด็กหญิงได้แต่นั่งกินข้าวกับผัดผักที่พ่อทำไว้ให้ พ่อทำกับข้าวอร่อย นางชอบทุกอย่างที่พ่อทำ

เด็กหญิงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง พ่อหันมามองหน้านางเหมือนครุ่นคิดและตามด้วยเสียงถอนหายใจหนักหน่วง

และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นโชคชะตาของเด็กหญิงก็เริ่มต้นขึ้น.

นิยายเรื่องอื่นของเพลงมีนา