ลำนำมนตรา
เทพผีความเชื่อ
ลำนำมนตรา
เทพผีความเชื่อ
กาซา(Khasa)
เขาคือนักรบหมาป่าผู้เกรียงไกร แต่จับพลัดจับผลูต้องกลายเป็นสัตว์เวทย์ของแม่มดน้อยสุดซื่อบื้อ เพราะคำทำนายที่สุดแสนจะบ้าของหมอผีประจำหมู่บ้าน ที่บอกว่าเขาจะต้องกลายเป็นเครื่องเซ่นบูชายันต์แก่เทพเจ้าไม่เช่นนั้นหมาป่าทั้งฝูงจะกลายเป็นลูกชิ้นเนื้อหมาส่งไปขายเมืองจีน
  • 0 ตอน
  • 0
นิยายโดย
  • 1 คนติดตาม
บทนำ

หมาป่า...

เจ้าของนัยเนตรสีอำพันจับจ้องสิ่งที่เรียกว่า ‘หมาป่า’ ด้วยความสงสัยใคร่รู้ หมาป่าตรงหน้าดูไม่เหมือนหมาป่าตามที่เจ้าตัวเคยจินตนาการมากมายนัก เขาดูเหมือนมนุษย์ที่ออกจะ... เจ้าสำอางหน่อยๆ หน้าตา ท่าทางและการแต่งตัวของเขานั้นช่างขัดกับคำว่าหมาป่าเสียเหลือเกิน ถ้าจะให้ถูกควรจะเรียกว่า หมาในมิลานแฟชั่นวีค ถึงจะเหมาะกว่า เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่แทบจะหลุดออกมาจากแคทวอร์คก็ไม่ปาน

“ไง...” หมาป่าเอ่ยทักทายเธอหลังจากที่อยู่ในสภาวะเดธแอร์อยู่นาน เขาฉีกยิ้มจนทำให้เห็นเขี้ยวเล็กๆ เงาวับจนเจ้าตัวได้สติ สัตว์แปลงก็แบบนี้ล่ะ รูปงาม น่าหลงใหล เพื่อให้เหยื่อได้ตายใจ อย่างที่อาจารย์เคยพูดว่า ‘สัตว์แปลงยิ่งงดงามก็ยิ่งอันตราย’ แล้วหมอนี่ก็ดูเหมือนจะอันตรายมากเสียด้วยสิ

“งาย” คนถูกทักทายตอบด้วยน้ำเสียงยานคางเมื่อนึกขึ้นได้ว่าขนมหมาที่ตนแบกมาเพื่อเป็นอาวุธลับนั้นคงจะใช้ไม่ได้ผลเสียแล้ว

“ผมคือเอ็ด ผมมารับคุณตามคำสั่งของจ่าฝูง” เขาเอ่ยแนะนำตัวและแจ้งจุดประสงค์ที่ทำให้คนฟังเริ่มขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปม

“ฉันแค่... มาเอาของ... ที่นี่...” เจ้าของดวงตาสีอำพันตอบพลางครุ่นคิด ไม่ใครก็ใครนี่ล่ะที่ต้องรับคำสั่งมาผิดพลาด อาจารย์ไม่ได้บอกให้เธอไปไหนกับใครสักหน่อย

“คุณรู้ใช่ไหมสาวน้อยว่าสิ่งที่กำลังมาเอามันสำคัญมาก” เจ้าของเสียงทุ้มหวานเอ่ยด้วยสำเนียงน่าฟัง แต่การที่มาเรียกเธอว่าสาวน้อยแบบนี้นั้นมันฟังดูน่าจับไปถลกหนังชะมัด

“สัตว์หน้าขน ไว้ใจไม่ได้” คนถูกเรียกว่า สาวน้อย จบการสนทนาอย่างรวดเร็วพลางกลับหลังหันจ้ำอ้าวเดินกลับไปทางเดิมที่เธอจากมา

“แม่มดต่างหากที่ไว้ใจไม่ได้!” สิ้นเสียงทุ้มเพียงเสี้ยววินาทีเด็กสาวก็ถูกขย่ำจากด้านหลังจนเธอล้มลงไปกองกับพื้น

“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังลั่นไปทั่วทั้งป่าสน แต่ในเวลานี้หาได้มีผู้ใดได้ยินไม่เพราะที่แห่งนี้ถูกร่ายเวทย์ลงอาคมซ่อนเร้นตัวตนไว้เพื่อไม่ให้ถูกกล้ำกรายจากโลกที่แสนวุ่นวายภายนอกโดยเฉพาะสัตว์ที่เรียกตัวเองว่า ‘มนุษย์’ แต่ใครเลยจะเข้ามาในเขตป่าอาคมได้ถ้าหากไม่ใช่พวกแม่มด

“กรี๊ด! ไอ้หมาบ้าออกไปจากตัวฉันนะ” เจ้าของร่างเล็กดิ้นพล่านขณะที่แขนทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้ด้วยขาหน้าของเจ้าหมาป่าตัวมหึมาเมื่อเห็นนัยเนตรสีฟ้าสดก็มั่นใจแน่แท้แล้วว่าไอ้หมาบ้านี่คือคู่สนทนาของเธอเมื่อครู่ “บอกให้ปล่อยไง! ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึ!” คนตัวเล็กร้องลั่นแต่เจ้าหมาป่าดวงตาฟ้าสดหาได้สนใจไม่ เมื่อเขาโน้มหัวลงทำจมูกฟุดฟิดก่อนที่จะใช้ลิ้นสากอันเปียกชุ่มเลียไปใบหน้าของเธอ “อี๋! ไอ้หมาสกปรกไปให้พ้นนะ”

“เธอไม่ทำตามข้อตกลง” เจ้าหมาตรงหน้าเธอพูดทั้งๆ ไม่ได้อ้าปากเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้แม่มดน้อยรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งมีชีวิตตรงหน้า ไอ้หมอนี่โทรจิตถึงเธอทั้งๆที่ยังมีร่างเป็นหมาเหรอเนี่ย

“ฉันไม่ทำตามข้อตกลงตรงไหน มาเอาของแล้วก็กลับ” เด็กสาวร้องตอบเสียงดังลั่น ทำเอาเขาผละออกจากเธออย่างรวดเร็วร่างมนุษย์ของคู่กรณีจ้องเขม็งด้วยความแปลกใจ

“คุณรู้ความคิดของผมได้ยังไง!” เขาพยามปรับเสียงให้นิ่ง แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อแม่มดน้อยสัมผัสได้ถึงความกลัวที่เจืออยู่ในนั้น เจ้าหมานี่มันก็ไม่รู้เหมือนกันนี่นาว่า เธอกับเขาโทรจิตถึงกันได้ยังไงเช่นนี้แล้วก็สวมรอยไปเลยก็แล้วกัน

“จำเป็นด้วยเหรอที่ฉันต้องบอกสัตว์เลี้ยงของตัวเองทุกเรื่อง” เจ้าของเสียงกล่าวคำว่า ‘สัตว์เลี้ยง’ เต็มปากเต็มคำ พลางลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเจ้าหมาใหญ่ในร่างมนุษย์อย่างไม่กลัวเกรง

สัตว์เลี้ยงงั้นเหรอ?” เขาทวนคำเธอพลางมองมาอย่างไม่เชื่อสายตา แม่มดน้อยแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม ดวงตาสีอำพันนั้นทอประกายเรืองรองคล้ายกับจะประกาศความเป็นเจ้าของ ก่อนที่มือเล็กๆ ของเธอจะหยิบบางสิ่งบางอย่างออกจากกระเป๋าและทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำ

“มามะๆ เจ้าหมาน้อย” แม่มดทำเสียงเล็กเสียงน้อยพลางบรรจงสวมปลอกคอให้กับเขาด้วยรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู “นายนี่ไงของที่ฉันจะมาเอา ดูไปดูมาก็...น่ารักดีนะ” เด็กสาวว่าก่อนที่จะขยี้เรือนผมสีทองที่ปกคลุมศีรษะของเขา

“ว่าไงนะ!”

“ฉันคือนารชาเจ้าชีวิตคนใหม่ของนาย” เธอประกาศก่อนที่แสงสีทองจะส่องสะท้อนออกมาจากปลอกคอเป็นประกายเจิดจ้าและหายวับไปใสเสี้ยววินาที!!!...