เก็บใจไว้รอรัก
ดราม่าน้ำตาริน
เก็บใจไว้รอรัก
ดราม่าน้ำตาริน
อนินทร์ชายหนุ่มนักธุรกิจผู้เคยผิดหวังกับความรัก เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่รักใครอีก แม้เขาต้องแต่งงานกับใคร ก็เพราะหน้าที่ ความเหมาะสมไม่ใช่หัวใจ ทว่า วันหนึ่ง ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อได้มาพบกับ "มินรา" หญิงสาวผู้มากับสายฝน จากความใกล้ชิด เขาตกหลุมรักเธออย่างไม่รู้ตัว แต่ความน่ากลัวก็คือ เขาตกหลุมรัก 'คนใบ้' แล้วแบบนี้เขาจะฝ่าด่านครอบครัว และด่านหัวใจของตัวเองได้หรือไม่ อนินทร์อ่านข้อความนั้นก่อนเงยขึ้นสบตา “ผมไม่อยากทำร้ายคุณไปมากกว่านี้ คุณบอบบางเกินไป ไม่เหมือนฉัตร อีกอย่างผม...ช่างมันเถอะ” “คุณกำลังจะบอกฉันว่าที่คุณแต่งงานกับฉัน เพียงเพราะเห็นว่าฉันอ่อนแอ ไม่มีทางไป คุณก็เลยยื่นมือเข้ามาช่วยพยุงฉันไว้...เพราะความสงสารแค่นั้นใช่ไหมคะ” มินรามองเขาอย่างค้นหาขณะส่งข้อความให้ “ไม่ใช่อย่างนั้นนรา...” “เราต่างก็...ไม่ได้รักกัน ยังไม่สายถ้าคุณจะกลับไปหาคุณฉัตร” อนินทร์เจ็บแปลบเสียวร้าวถึงขั้วหัวใจ สบตาภรรยา “ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปไหนทั้งนั้น...ดึกแล้วคุณพักผ่อนเถอะ” คราวนี้เขาบอกเธอด้วยภาษามือ ชายหนุ่มนอนหันหลังให้หญิงสาว เขาขี้ขลาดเกินไปที่จะพูดความจริง คำว่ารักที่จะเอ่ยจึงถูกเก็บงำไว้เช่นเดิม โดยไม่เห็นเลยว่าหยาดน้ำตาของภรรยาสาวได้หยดรินลงแตะแต้มผิวแก้มอย่างอ้อยอิ่ง หญิงสาวปล่อยให้หยาดน้ำแห่งความขมขื่นซึมผ่านขอบตาเงียบ ๆ ‘เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากเขานรา แม้กระทั่งความรัก’
  • 7 ตอน
  • 2,280
นิยายโดย
  • 3 คนติดตาม
บทนำ

งานวิวาห์หรูหราถูกจัดขึ้นในโรงแรมมีระดับใจกลางกรุงเทพมหานคร บรรดาแขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่จัดอยู่ในกลุ่มไฮโซของวงสังคมเมือง ต่างก็ประดับประดาตกแต่งเรือนกายตัวเองด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ตัดเย็บจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ เครื่องเพชรเม็ดโตส่องแสงวิบวับเปล่งประกายงดงามยามต้องแสงไฟ โดยเฉพาะผู้เป็นเจ้าสาวที่อยู่ในชุดขาวสะอาดราวกับเป็นเทพธิดาหิมะในตำนานเทพนิยายของนักเขียนชื่อดังก้องโลก เจ้าสาวแสนสวยในค่ำคืนนี้สวมใส่เครื่องเพชรเม็ดงามประดับคองามระหง รับกับใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้เป็นเจ้าบ่าวและแขกที่ทยอยกันเข้ามาในงาน มือเรียวสวยข้างหนึ่งถูกชายหนุ่มกุมไว้หลวม ๆ แต่ไม่เคยหลุดจากมือหนานุ่มนั้นเลย

หลายครั้งที่คู่บ่าวสาวต้องยกมือไหว้รับแขกผู้ใหญ่ แหวนเพชรเม็ดงามร่วมแปดกะรัตที่นิ้วมือเจ้าสาวต้องประกายกระทบแสงไฟแวววาวงดงามสะดุดตา หลายคนต่างเอ่ยปากชมว่าคู่บ่าวสาวช่างเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก ยกเว้นชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดสีน้ำเงินเข้มผิดแผกจาก

ธีมของงานที่เน้นสีขาว ใบหน้าของเขาเรียบเฉยราวกับถูกเสก ไม่เผยความรู้สึกใด ๆ ในดวงตานอกจากความเฉยชา เขาเดินผ่านผู้คนเข้ามาพร้อมกับช่อดอกทิวลิปในมือและตรงเข้าไปยังคู่บ่าวสาว ซึ่งพอเธอเห็นเขา ก็ตกตะลึงหายใจติดขัดราวกับมีบางอย่างตีบตันทางผ่านช่องลมหายใจ เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะกล้ามาร่วมงานของเธอ การส่งการ์ดเชิญไปนั้นก็เพียงเพื่อบอกให้เขารับรู้และทำใจเท่านั้น

“อาร์ม!” ชนิศาเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงตื่นตะลึง มือเล็กเผลอกำเข้าหากันแน่น สายตาจับจ้องดวงหน้าเย็นชาระคนปวดร้าวนั้นอย่างห่างเหิน ราวกับคนตรงหน้าไม่เคยผ่านพบผูกพันกันมาก่อน

ผู้เป็นเจ้าบ่าวจ้องหน้าชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินเข้มเขม็ง ดวงตาระแวดระวัง แต่กระนั้นก็ไม่มีบรรดาแขกผู้ร่วมงานคนไหนให้ความสนใจกับเขาผู้ซึ่งเป็นเพียงชายหนุ่มไร้เกียรติไม่รู้กาลเทศะที่แต่งกายผิดธีมของงานเท่านั้น

“คุณมาได้ยังไงคะ”

“ก็คุณเชิญผมมาไม่ใช่รึนิศา” เขากล่าวทั้งที่สายตายังไม่ละจากใบหน้างดงามของหญิงสาว เธอผู้นี้ควรเป็นเจ้าสาวของเขาไม่ใช่หรือ ผู้ที่ยืนเคียงข้างเธอในวันนี้ ควรเป็นเขาไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ผู้ชายที่ดูหยิ่งยโสอย่างร้ายกาจคนนี้

“คำขอโทษของคุณเพียงคำเดียว มันคงมากพอแล้วสินะสำหรับคุณ” น้ำเสียงราบเรียบมีแววตัดพ้อ ทั้งสีหน้าและดวงตาเต็มไปด้วยไฟคุโชนด้วยความแค้นเคืองปวดร้าว

“แต่อาร์มก็รู้ว่านิศาไม่ได้รักคุณแล้ว” เธอพูดประโยคนั้นได้อย่างไม่ติดขัด “อาร์มยังทำใจไม่ได้อีกหรือไง เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือคะ” สีหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความขัดเคืองใจ พลางหันไปมองหน้าชายหนุ่มคนรักด้านข้าง เกรงว่าจะทำให้เขาเข้าใจเธอผิด

“อาร์มกลับไปเถอะค่ะ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”

“คุณลืมเรื่องระหว่างเราได้แล้วจริง ๆ เหรอนิศา”

“จะต้องให้นิศาพูดอีกกี่ครั้งคะ นิศาไม่ได้รักคุณแล้ว เราต่างคนต่างเดินเถอะค่ะอาร์ม ออกไปจากชีวิตนิศาได้แล้ว อย่ามาขัดขวางความสุขในชีวิตของเราสองคนเลยค่ะ”

“ขัดขวางความสุขงั้นเหรอ” น้ำเสียงแหบแห้งแผ่วเบา เขาพยายามข่มความรู้สึกปวดร้าวผ่านสายตาอย่างยากเย็น

“นิศาไม่มีความรักให้คุณอีกแล้วค่ะอาร์ม!”

คนฟังแทบจะกลั้นลมหายใจเมื่อได้ยินถ้อยคำนั้นจากปากของเธอเป็นครั้งที่เท่าไรนั้น เขาไม่อยากจดจำ นับตั้งแต่วันที่เธอขอห่างจากเขา รู้เพียงว่าทุกครั้งที่ได้ยิน มันสร้างความเจ็บปวดเจียนจะขาดใจให้แก่เขาอย่างสาหัส ชายหนุ่มเคยทุ่มเททุกสิ่งอย่างในชีวิตให้แก่เธอ รวมไปถึงอนาคตของตัวเองที่เกือบจะเรียนไม่จบเพราะความรักอย่างไม่ลืมหูลืมตา ยอมตัดขาดพ่อลูกเพียงเพราะต้องการปกป้องเธอคนนี้ แต่ในเวลานี้ผู้หญิงตรงหน้าเขากลับไม่เหลือเยื่อใยใด ๆ ต่อเขาแม้เพียงถ้อยคำปลอบประโลม แถมยังฝากรอยแผลกรีดลึกลงกลางใจเขาด้วยคำพูดที่ไร้เยื่อใยของเธอ

“ได้ยินชัดแล้วสินะ” ฝ่ายเจ้าบ่าวเอ่ยย้ำ “คุณออกไปจากงานของเราสองคนได้แล้ว”

คนถูกไล่ปรายตามองก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระด้าง

“ผมแค่อยากมาอวยพร และส่งมอบ” เขามองดอกทิวลิปในมือ “เจ้าสิ่งนี้ให้ผู้ชายของคุณ” พูดพลางสบตาอดีตคนรัก ส่วนลึกเขายังอยากรู้ว่าเธอไม่เหลือเยื่อใยกับเขาแล้วจริง ๆ หรือ

“เมื่อคุณรู้ว่านิศาเป็นผู้หญิงของผมแล้ว คุณก็ห้ามมายุ่งกับเธออีก” เจ้าบ่าวเอ่ยเสียงเข้ม สายตาที่มองเขาติดจะดูแคลนอย่างเห็นได้ชัด เหตุเพราะเขาเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่ไร้ซึ่งเกียรติและฐานะทางสังคม ไม่มีผลงานการันตีความสามารถ เขาเป็นได้เพียงนักศึกษาจบใหม่ไร้อนาคต แถมยังอ่อนประสบการณ์คนหนึ่งเท่านั้น

“ผมไม่ยุ่งกับผู้หญิงของคนอื่นแน่นอน วันนี้ผมขอมอบดอกไม้ช่อนี้ให้คุณดูแล และหวังว่าคุณสองคนจะรักกันไปจนวันตาย” ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยในวินาทีแห่งการตัดสินใจ ก่อนส่งช่อดอกไม้ในมือให้เจ้าบ่าวที่ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่

“ชนิศาคือหัวใจของผม และผมก็มั่นใจว่าจะดูแลเธอได้ดีกว่าคุณเป็นร้อยเท่าพันเท่า”

อนินทร์แค่นหัวเราะ เขาก้มหน้าและเงยขึ้นสบตาฝ่ายเจ้าบ่าว

“ผมก็หวังว่าคุณจะไม่เปลี่ยนใจ อ้อ! เจ้าสาวของคุณชอบดอกทิวลิปมาก หวังว่าคุณคงรู้”

เมื่ออีกฝ่ายรับดอกไม้ไปแล้วเขาก็หันหลังเดินออกมาจากงานช้า ๆ ใครเลยจะรู้ว่าหลังผู้คนและเสียงหัวเราะอันรื่นเริงในงานวิวาห์นั้น จะมีชายหนุ่มคนหนึ่งบอบช้ำทางใจอย่างหนัก ที่ต้องสูญเสียคนรักให้กับผู้ชายอีกคน สูญเสียความรักครั้งแรกที่เคยวาดฝันงดงามไว้ด้วยกัน สูญเสียความรักที่เคยทุ่มเทให้สุดหัวใจ ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีเธอคนนั้นอีกแล้ว

เขาทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรงริมถนนในเงามืดที่ผู้คนไม่พลุกพล่านจอแจนัก ดวงตาหม่นเศร้าระบายออกเป็นละอองน้ำใส แล้วแปรเปลี่ยนเป็นกระด้างเย็นชา เขาลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงหลังตัดสินใจอย่างแน่วแน่กับความคิดบางอย่างที่ผุดขึ้นในใจ เมื่อความรักที่เคยทุ่มเทกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ต่อแต่นี้ก็อย่าหวังว่าเขาจะมอบรักแท้ให้กับผู้หญิงคนไหนได้อีก...เขาจะไม่มีวัน ‘รัก’ และทุ่มเทหัวใจให้กับผู้หญิงคนไหนในโลกใบนี้อีกแล้ว...ไม่มีวัน!