แอนดรอมิด้า เอกภพรักข้ามจักรวาล
รักโรแมนติก
แอนดรอมิด้า เอกภพรักข้ามจักรวาล
รักโรแมนติก
nongpring
คุณเชื่อเรื่องจักรวาลคู่ขนานมั้ย จักรวาลที่มีดาวฤกษ์และดาวเคราะห์เหมือนกับจักรวาลของเรา มีสิ่งมีชีวิตเหมือนโลก มีทรัพยากรไม่ต่างจากเรา ดาราจักรแอนดรอมิด้า ดาราจักรรูปกังหันเป็นดาราจักรเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ดาราจักรทางช้างเผือกของเรามากที่สุด ในคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงจันทร์ เราจะสามารถมองเห็นมันได้จางๆแม้มองด้วยตาเปล่า เธอข้ามจักรวาลเดินทางไกลหลายล้านปีแสง เพื่อย้อนเวลากลับมาพบกับเขาบนดาวโลก แม้ว่าเวลาและระยะทางจะห่างไกลอนันต์มหาศาลเพียงใด หากความรักสามารถพาเขาทั้งสองข้ามเวลา ข้ามระยะทางมาพบกันได้ มันเหลือเชื่อใช่มั้ย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าเราจะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆและไม่มีความสำคัญใดๆเมื่อเทียบกับขนาดของจักรวาล แต่มันทำให้พวกเราเป็นราวกับพระเจ้าผู้สร้างมันขึ้นมา เมื่อทุกอย่างถูกออกแบบไว้แล้ว ทำไมจึงมีสรรพสิ่งแทนที่จะไม่มีอะไรเลยบนเอกภพนี้ ทำไมเราจึงดำรงอยู่? เป็นคำถามที่เธอกำลังเดินทางไปไกลแสนไกลเพื่อค้นหาคำตอบ - “แอสโตรน แอนดรอมิด้า”
  • 0 ตอน
  • 0
นิยายโดย
  • 0 คนติดตาม
บทนำ

Prologue

ปี 2025 ดาวโลก

บนเตียงนอนผู้ป่วย โรงพยาบาลกลางใจเมือง กรุงเทพฯ นายแพทย์อดัมส์ สมิทธ์ ชายชาวอเมริกัน กับลูกชายวัย 5 ขวบ ยืนขอบเตียงเฝ้ามองดู เจนิสา ภรรยาและแม่ ผู้ซึ่งกำลังหายใจรวยริน

“อดัมส์” เสียงเรียกแหบพร่า ของคนใกล้หมดลมดังขึ้น อดัมส์ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาใกล้ และกุมมือภรรยาสาวไว้แน่น เขาพยามฝืนไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ลูกชายวัยห้าขวบถูกดึงตัวเข้ามากอดไว้ใกล้ที่ขอบเตียง

“ดูแลลูกชายของเราให้ดี ให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น” ริมฝีปากซีกเผือดเอ่ยขึ้น เปลือกตากลับหนักอึ้งขึ้นมาจนเธอไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ แม้อยากจะจ้องมองหน้าของลูกชายและสามีเป็นครั้งสุดท้าย

“ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลแม็กซ์ให้ดีที่สุด” เขาก้มลงและลูบผมภรรยาอย่างแผ่วเบา แม็กซ์ได้แต่ยืนมอง ไม่เข้าใจว่ามารดาของตนเป็นอะไร ในมืออีกข้างถือ จรวดอวกาศของเล่นไว้ คงจะเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเขา

“โอ้...เจนิสา ผมขอโทษ”อดัมส์รู้ดีว่าภรรยาสาวชาวไทยของเขากำลังจะจากไป ตอนนี้เขาไม่สามารถสะกัดกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป เมื่อเสียงเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจค่อยแผ่นลง ความถี่ลดลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นเส้นตรง

เจนิสาหลับตาลง เธอหยุดหายใจและจากจากไปอย่างสงบ

เสียงร้องไห้โฮดังขึ้น คุณหมออดัมส์กอดร่างไร้วิญญาณของภรรยาไว้แน่น หนุ่มน้อยแม็กซ์ผู้ไร้เดียงสา เรียกร้องหาแม่ของตนไม่หยุด พร้อมเข้าไปเขย่าร่างมารดาไม่หยุด

“แม่ครับ แม่ครับ แม่ตื่นมาเล่นกับผมหน่อยครับ”

เมื่อเห็นว่าแม่ไม่ยอมลุกขึ้นมา จึงหันไปถามพ่อ

“พ่อครับ แม่หลับนานจังครับ แล้วใครจะพาผมไปท้องฟ้าจำลองครับ” หนุ่มน้อยโวยวายใส่พ่อและโวยวายที่แม่ไม่ยอมตื่น อดัมส์คว้าลูกชายเข้ามากอดไว้แนบอก

“แม่ไม่มีวันกลับมาเล่นกับลุกอีกแล้ว แม็กซ์ พ่อขอโทษ พ่อผิดเอง” คุณหมอเสียงสั่น พยายามปาดน้ำตา

เด็กชายแม็กซ์ยืนงงไม่เข้าใจว่าพ่อพูดถึงอะไร

เหตุการณ์เดียวกันนี้กำลังเกิดขึ้นกับทุกครอบครัวที่มีผู้หญิง ผู้หญิงทุกคนบนโลกไม่ว่าอายุเท่าใดก็ตามกำลังตายลงอย่างช้าๆ หากคนมีฐานะก็ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลแต่นั่นก็อาจเป็นเพียงการประวิงเวลาออกไปเพราะผู้หญิงทุกคนไม่อาจหนีรอดชะตากรรมนี้ “โรคเฟมีล่าคิวเลีย” เป็นโรคระบาดของเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายทางอากาศเป็นพาหะ มันกำลังเดินทางไปกับสายลม แสงแดดและน้ำ แผ่ขยายไปทั่วโลก ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่ได้หายใจรับออกซิเจนเข้าไป พวกเธอไม่มีทารอดพ้นจากไวรัส x killer ที่เป็นสาเหตุของโรคนี้ มันใช้เวลาแพร่ไปทั่วโลกเพียง 2 ปี แม่ของทุกคน ภรรยาของทุกคน เพื่อนของทุกคนกำลังจะตาย และโลกกำลังจะไม่มีเพศหญิงอีกต่อไป ประชากรจะคงเหลือเพียงเพศสภาพชายในปริมาณเท่าเดิม มนุษย์จะไม่มีการเจริญพันธุ์ และขยายเผ่าพันธุ์ได้อีก เผ่าพันธุ์มนุษย์ใกล้ถึงกาลอวสานอีกไม่นานนี้

เสียงร่ำไห้ ดังระงมปะปนกับเสียงสวดมนต์ตามพิธีของแต่ละศาสนาจากทุกซอกทุกมุม เปลวไฟและควันฟุ้งตลบในอากาศ จนทุกย่อมหญ้ากลายเป็นเมืองแห่งหมอกควัน บรรยากาศมีแต่ความเศร้าสลด การกำจัดศพเป็นไปอย่างรวดเร็วทั้งเผาและฝังตามวิถีของแต่ละศาสนา พื้นที่ว่างบนโลกมนุษย์กำลังจะเพิ่มขึ้นเมื่อประชากรหญิงทั้งหมดกำลังจะหายไป โรงงานผ้าอนามัยกำลังจะปิดตัว ยาแก้ปวดท้องประจำเดือน หรือยาสตรีเพ็ญนภาคงไม่จำเป็นอีกต่อไป อาชีพที่เคยมีผู้หญิงทำกำลังเลือนหาย จักรเย็บผ้ายังมีผืนผ้าที่ตัดเย็บค้างไว้ ดอกไม้สวยๆที่ผู้หญิงชอบจัดก็ค่อยๆเหี่ยวแห้งลงไป นั่นเป็นสัญญานว่าโลกนี้จะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ครองโลก



30 ปีต่อมา ปี 2055 ของโลก เท่ากับอีก 2.5 ล้านปีข้างหน้าของดาราจักรแอนดรอมิด้า

ณ ดาวโมริม่า ดาราจักรแอนดรอมิด้า หรือเมสสิเยร์ 31 ดาราจักรรูปกังหันอยู่ใกล้กับดาราจักรทางช้างเผือกมากที่สุด (2.5 ล้านปีแสง)

ก๊าซ ละอองฝุ่นสีขาวหรือเนบิวลาปกคลุมชั้นบรรยากาศของดวงดาวสีขาว กลุ่มดาวนับล้านล้านดวงส่องประกายระยิบระยับทั้งสีน้ำเงิน สีส้ม สีแดง ม่วง อยู่ในสสารมืดขนาดมหึมา สิ่งมีชีวิตมากมายกำลังดำรงชีพ ไม่ต่างจากดาวโลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกในป่า สัตว์น้ำในมหาสมุทรมีไม่แตกต่างจากดาวโลกเลย ดาวที่มีทุกอย่างเหมือนโลก ดาวที่ผู้คนต่างมีความฝัน หนึ่งในนั้นคือ เด็กสาวคนหนึ่งที่ฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ ตอนนี้เธอเติบโตเป็นสาวสะพรั่งในวัย 25 ปี ชื่อเธอคือ “แอสโตรน” เธอได้เข้ามาทำงานที่องค์กรอาก้า องค์กรสำรวจทรัพยากรอวกาศของดาวดวงอื่น เธอกำลังนอนหลับฝัน แต่ฝันของเธอเป็นฝันร้ายที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ นอกจากการฝันถึงการท่องไปในอวกาศที่หาขอบเขตสิ้นสุดมิได้

“ยัยเด็กขี้เหร่ แบร่ๆ”

“ขี้เหร่ ขี้เหร่ ขี้เหร่ ขี้เหร่ ขี้เหร่”

เสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินซ้ำไปซ้ำมาในความฝันคือเสียงของเด็กผู้ชายหลายคนในโรงเรียนอนุบาลรุมกันแกล้งเธอในสนามเด็กเล่นจนเธอล้มลงและรุมหัวเราะเยาะเธอและประสานเสียงล้อเลียน จนครูต้องมาไล่พวกเด็กผู้ชายไป

แอสโตรนสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ที่มักจะฝันซ้ำๆซากๆ วนเวียนถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในช่วงชีวิตวัยเด็กของเธอ ด้วยความที่เธอเกิดมาหน้าตาขี้เหร่ แย่ถึงแย่ที่สุด ทำให้ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็มักจะมีแต่คนจ้องมองและทำท่ารังเกียจฉันท์เดียดเหมือนเธอเป็นกิ้งกือหรือไส้เดือน

ความมืดปกคลุมห้องนอนของเธอทำให้ยากนักที่จะอธิบายได้ว่าห้องนอนของเธอมีลักษณะเป็นอย่างไร มีเพียงแสงสว่างรางๆสีแดงเป็นตัวเลขจากนาฬิกาปลุกดิจิตอลที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียง เธอยันตัวขึ้นจากเตียงแหงนดูนาฬิกาเลขดิจิทัลก็ปรากฏเป็นเวลา 5.55 น. เสียงนาฬิกาปลุกหุ่นยนต์ตัวเล็กๆดังขึ้นว่า “ตื่นได้แล้วๆ” เธอออกคำสั่งปิด หอบหายใจดัง เหงื่อไหลซึมไปทั่วทั้งใบหน้า แอสโตรนถอนหายใจดังๆ ก่อนก้าวเดินไปที่ฝาผนังโลหะสีเทา เมื่อเอามือทาบก็กลับกลายเป็นกระจกเงาเต็มฝาผนังขึ้นมา เธอออกคำสั่งเปิดไฟและมองดูภาพสะท้อนของตน

“ทำไมฉันต้องเกิดมาอัปลักษณ์แบบนี้ด้วย!” เธอมองคนในกระจกและตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยที่เธอเองก็ถามซ้ำๆแต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบเสียที และออกคำสั่งปิดไฟลงทันที ก่อนจะเดินหันหลังให้ภาพสะท้อนอันแสนอัปลักษณ์ของเธอ เธอคว้ากางเกงขายาวสีดำเป็นผ้าทำมาจากวัสดุกันไฟและเสื้อคลุมแจ๊กเก็ตวัสดุเดียวกันสีดำมาสวมทับเสื้อกล้ามสีขาว เอามือรวบผมที่ยุ่งเหยิง มีโลโก้บางอย่างติดอยู่ที่อกเสื้อแจ็กเก็ต ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรที่เธอทำงานอยู่ เธอเปิดประตูห้องนอนออกไป แสงสว่างขาวโพลนไปหมดจนเธอรู้สึกแสบตาทันทีที่เธอก้าวเท้าออกจากห้องพัก นั่นไม่ใช่แสงจากดวงอาทิตย์แต่เป็นแสงจากไฟฟ้าจากหลอดไฟในสถานที่ที่เธออยู่ ภาพกว้างขึ้นทำให้เห็นสภาพห้องพักของเธอนั้นเป็นแคปซูลที่ไม่ได้มีแค่เพียงห้องของเธอ แต่เมื่อมองทอดยาวออกไปจะเห็นแคปซูลเรียงรายกันอีกมากมายนับพันอัน เพราะที่นี่คือหอพักของเจ้าหน้าที่องค์กรอาก้า องค์กรเพื่อการสำรวจทรัพยากรและพื้นที่บนดาวดวงอื่นนั่นเอง เสียงเจ้าหน้าที่และพนักงานจ้อกแจ้กจอแจ เดินขวักไขว่ไปทั่วราวกับเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แอสโตรนเดินหายเข้าไปกับฝูงผู้คน เพื่อมุ่งไปปฏิบัติงานของเธอที่หน่วย สำรวจทรัพยากรอวกาศ