ราคีสีเพลิง นวนิยายชุดร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์
รักโรแมนติก
ราคีสีเพลิง นวนิยายชุดร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์
รักโรแมนติก
รังสี
บัวบุษบา เสน่ห์จันทน์ (นามสกุลเดิม มิ่งมงคล) หญิงสาวแสนดี เชื่อมั่นในสามี ทว่า เหตุการณ์เลวร้ายกำลังโยกไหวความไว้ใจให้สั่นคลอน! ดีเลิศและบัวบุษบาแต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล ท่ามกลางความเกลียดชังของยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์ ผู้ไม่มีวันยอมรับสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน! หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว “เรือนเสน่ห์จันทน์” อันแสนลึกลับ มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว “ความจริง” ที่ซ่อนอยู่ใน “ความฝัน” ของตนเอง!
  • 28 ตอน
  • 7,659
นิยายโดย
  • 1 คนติดตาม
  • Tag
  • #
บทนำ

พุทธศักราช ๒๕๐๗

บัวหลวงสีชมพูอ่อนสลับขาวส่งกลิ่นหอมเย้ายวนท่ามกลางอาทิตย์อัสดง อุบล... หญิงสาวหน้าตาหมดจดงดงามเกลี่ยปลายนิ้วผ่านกลีบบัวด้วยหัวใจอ่อนโยน เธอนั่งอยู่บนเรือแจวลำหนึ่งซึ่งเคยพายเล่นสมัยวัยแรกแย้ม กระทั่งตอนนี้เธอแต่งงานมีครอบครัว และมีอีกชีวิตกำลังดิ้นยุกยิกอยู่ในครรภ์

หญิงสาวขยับมือแตะหน้าท้องนูนใหญ่ของตน ขณะขยับกายอย่างยากลำบาก แต่ใบหน้ายังถูกระบายด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานอย่างคนที่มีความสุขไม่ทุกข์ร้อนอันใด

“หากเขาเป็นชาย ฉันจะตั้งชื่อเขาว่ากมุท” เธอกล่าวกับหญิงสาวอีกคนที่กำลังพายเรือ ขณะเด็ดบัวหลวงสีขาวมาดอมดม “กมุทแปลว่าดอกบัว... บัวสายสีขาวบริสุทธิ์”

“ถ้าเป็นหญิงล่ะ”

เสียงถามดังมาจากผู้ถือไม้พาย เสียงนั้นห้วนสั้น เย็นยะเยียบ... หากแต่เป็นเสียงของหญิงสาววัยไล่เลี่ยกันแน่นอน หล่อนกำลังพายเรือไปกลางสระ ท่ามกลางแสงสีแดงของดวงตะวันที่กำลังจะตกดิน ราตรีกาลกำลังมาเยือน หากอุบลจะฉุกใจคิดสักนิด... เธอควรขึ้นฝั่งแล้วกลับเข้าบ้านได้แล้ว แทนที่จะลอยล่องอยู่กลางผืนน้ำตามลำพังกับใครอีกคนเช่นนี้

“ถ้าเป็นหญิงหรือ” อุบลยิ้ม เด็ดบัวหลวงสีชมพูดอกตูมมาถือไว้ “บัวชมพู... หากเป็นหญิงจะตั้งชื่อเขาว่าบัวชมพู เขาคงเป็นลูกสาวที่น่ารักที่สุดของฉัน”

อุบลก้มลงดอมดมดอกบัวในมือ จึงไม่ทันเห็นรอยยิ้มมุมปากของเจ้าของเรือที่ถือไม้พายอยู่ในมือ หล่อนทำปากขมุบขมิบ ‘ลองวิชา’ ที่ได้ร่ำเรียนมา ก่อนเป่าลมอาถรรพ์ออกไป ผีพรายมากมายลอยไปตามลม พวกมันหัวเราะร่า! ในขณะที่คาถาสัมฤทธิ์ผล อุบลหน้ามืด วิงเวียน ใบหน้าซีดเซียวเงยมองไปเบื้องหน้า เห็นเป็นภาพเลือนราง

หญิงสาวเอื้อมมือไปพยายามขอความช่วยเหลือ หากแต่สติสัมปชัญญะก็ดับลง

ร่างอวบเปล่งปลั่งล้มลงกระแทกหัวเรือสลบไสล เสียงหัวเราะ หึๆ หึๆ ดังไปทั่วคุ้งน้ำท่ามกลางสายลมหนาว ก่อนการระเบิดเสียงหัวเราะจะดังก้องอย่างผู้มีชัย! แต่หาได้ถึงหูเหล่ามนุษย์เดินดินไม่ เพราะผีพรายล้อมเรือเอาไว้ พวกมันบังตาเรือจากมนุษย์หน้าโง่ทั้งหลาย! ที่เพิ่งเอะใจว่าอุบลหายไปและกำลังออกตามหากันจ้าละหวั่น

ราตรีเดินทางย่างมา...

พระจันทร์เต็มดวงทอแสงอยู่กลางฟ้า ในขณะที่สมาชิกครอบครัว ‘มิ่งมงคล’ พากันใจร้อนรุ่มราวกับถูกไฟเผา ยิ่งความมืดกลืนกินแสงสว่าง ทั้งสามีและญาติสนิทของอุบลก็ยิ่งร้อนใจ แบ่งคนกันออกตามหาไกลบ้านออกไปเรื่อยๆ

ขณะที่กลางสระบัวนั้น อุบลค่อยๆ รู้สึกตัวลืมตาตื่นด้วยความวิงเวียนงุนงง แต่เมื่อเธอพยายามยันกายลุก กลับไม่สามารถขยับได้แม้เพียงปลายนิ้ว หญิงสาวหอบหายใจอย่างอึดอัดเหมือนถูกนั่งทับ ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกกว้างเมื่อเธอเห็นสิ่งๆ หนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่ใช่คน!

มันเป็นผีสาวผมยาวถึงข้อเท้า ผิวกายดำราวกับถ่าน เล็บยาวเฟื้อยของมันลูบหน้าอุบลพร้อมแสยะยิ้มอย่างโฉดชั่ว เส้นผมยาวเกินเหตุขยับเองได้ราวกับมีชีวิต และตอนนี้เส้นผมของมันได้กำรอบข้อมือ ข้อเท้าของหญิงสาวแล้วกดลงกับท้องเรือ รวมถึงรัดริมฝีปากไม่ให้อุบลร้องขอความช่วยเหลือได้ด้วย มิหนำซ้ำบนฟ้านั่น ผีพรายสีดำมากมายกำลังลอยไปมาเบื้องหน้าพระจันทร์เต็มดวง!

เสียงหัวเราะฮิๆ ฮิๆ ดังทั่วคุ้งน้ำ อุบลตัวสั่น น้ำตาไหลพราก หวาดกลัวจับขั้วหัวใจ หญิงสาวพยายามดิ้นรนหมายหลบหนี...ลูก...เธอต้องรักษาชีวิตเขาไว้!

“กมุท... บัวชมพู...”

เสียงคุ้นเคยทำให้หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างมีความหวัง ใช่... เธอไม่ได้อยู่ตามลำพัง เธอออกมาพายเรือเก็บดอกบัวกับหญิงสาวที่เธอไว้ใจมากที่สุด และหากหล่อนรู้ว่าอุบลตกอยู่ในอันตราย หล่อนต้องช่วยเหลืออุบลอย่างแน่นอน!

“อื้อ...” หญิงสาวพยายามร้องเรียกชื่อเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ผีร้ายก็รัดปากเธอไว้ด้วยเส้นผมของมันแน่นจนอุบลได้แต่ทำเสียงอู้อี้ในคอเท่านั้น ยิ่งเธอดิ้น มันยิ่งรัดปากรัดแขนขาเธอแน่นขึ้นจนอุบลกระดุกกระดิกแทบไม่ได้

แล้วภาพๆ หนึ่งก็ฉายในกระจกตาของเธอ...

สายฟ้าแลบ ก่อนผ่าเปรี้ยงลงยังที่ใดที่หนึ่งในอาณาบริเวณใกล้กัน เผยให้เห็นร่างผอมบางสะสวยของหญิงสาวอีกคนที่กำลังยืนถือมีดเงาวับอยู่ทางฝั่งท้ายเรือ!

ไม่... ไม่จริง...

อุบลร้องตะโกนอยู่ในใจ น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม ความสิ้นหวังถาโถมราวกับพายุ เรือโคลงเคลงเมื่อหญิงอีกคนก้าวเดินมานั่งคร่อมร่างของอุบลที่พยายามบิดตัวหนี

“เดี๋ยวกูจะตั้งชื่อมันให้ ตามที่มึงต้องการ”

พูดจบก็กรีดมีดลงยังหน้าท้องนูนใหญ่ของอุบล หญิงสาวหลับตากำมือแน่นด้วยความเจ็บปวด พยายามดิ้นหนี แต่ไม่เป็นผล

“นี่สำหรับที่มึงควรตอบแทนกู ถ้าไม่ได้กูยุส่ง มึงคงไม่ได้สมหวังในรัก!”

หล่อนกรีดซ้ำไปซ้ำมาอย่างเลือดเย็น ทั้งที่อุบลยังหายใจอยู่

“และนี่สำหรับที่มึงเสือกมีความสุขมากกว่ากู!!!”

ปลายมีดกดลึกก่อนกรีดดึงดังแคว่ก! เลือดสดๆ กระฉูดใส่ใบหน้าของฆาตกร ในขณะที่ร่างของอุบลกระตุกถี่ เลือดไหลจากปาก จมูก และน้ำตาที่ไหลพรากก็ผสมกับเลือดกลายเป็นสีแดงฉาน บัวหลวงงดงามราวกับถูกย้อมด้วยสีโลหิตเช่นกัน ก่อนที่สายฝนจะเทลงมาราวฟ้ารั่ว

ร่างเล็กจ้อยของทารกถูกกระชากออกจากครรภ์มารดา เขาแน่นิ่ง ไม่ไหวติง ไร้ซึ่งเสียงร่ำไห้ หรือเสียงหัวเราะแห่งความยินดีของครอบครัว มีเพียงเสียงฟ้าคำราม และเสียงหัวร่ออย่างสาแก่ใจของหญิงสาวที่ชูเขาขึ้นบนฟ้าเท่านั้น

ศพของอุบลลืมตาโพลง

ก่อนจะถูกถีบลงน้ำ จมสู่เบื้องล่างแห่งสายนทีเย็นยะเยียบ...