“แม่ครับ ! ผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ” เสียงเด็กชายวัยมัธยมต้นร้องบอกผู้เป็นมารดาที่กำลังสาละวนอยู่กับงานในสวน มารดาของเขาหยุดจากการพรวนดินแปลงคะน้า พร้อมทั้งหันกลับมามองแล้วยิ้มให้
“จะไปแล้วหรือลูก ? ยังเช้าอยู่เลยนะ กินข้าวกินปลาหรือยังล่ะ ?”
“กินแล้วครับ” เด็กชายตอบกลับไป เว้นไว้อึดใจ “ผมจะแวะเอาไปซื้อยาให้หลวงลุงที่วัดด้วยครับ”
“อ่อ งั้นก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวหลวงลุงท่านจะรอนาน”
“ครับ” เด็กชายก้าวออกจากบ้านทันที มุ่งสู่ทิศทางเบื้องหน้าซึ่งเป็นทางที่ต้องผ่านไปยังโรงเรียน ระยะทางไม่ไกลมากนัก ไม่ลืมที่จะแวะซื้อยาแก้ปวดเมื่อยติดมือไปด้วย
เด็กชายปรรณ เขาเป็นเด็กกำพร้าพ่อ พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวตั้งแต่เขาอายุย่างเก้าขวบ ชีวิตของเด็กน้อย จึงมีเพียงแม่ ซึ่งแม่ของเขานั้น หลังจากสามีเสียชีวิต เธอก็ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ของลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเต็มที่ ที่ดินผืนเดียวที่สามีทิ้งไว้ก่อนตายเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ เธอใช้ที่ดินที่ได้รับมาจากสามีทำการเกษตร ลงทุนปลูกพืช ทำสวน หารายได้เลี้ยงดูลูกชายเพียงคนเดียวซึ่งมีค่ากว่าทรัพย์สินใดๆบนโลกใบนี้ ส่วนอีกคนที่เขามีคือหลวงลุงที่วัด ซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ มีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆของเขา ท่านบวชตั้งแต่เขายังไม่เกิด คอยดูแล อบรม สั่งสอน เขารักแม่และหลวงลุงของเขามาก ซึ่งนั่นก็ทำให้เขามีความสุขที่สุดในชีวิตของเด็กน้อยคนหนึ่ง ในทุกๆวันก่อนไปโรงเรียน เขามีหน้าที่ถือถุงย่ามเดินตามหลวงลุงขณะเดินบิณฑบาต วันนี้หลังเสร็จภารกิจ หลวงลุงได้ฝากเงินไว้ไปซื้อยาแก้ปวดเมื่อยที่ร้านขายของชำ หลวงลุงของเขาสังขารไม่ค่อยแข็งแรง วันไหนเดินบ่อยๆจะปวดเมื่อยบริเวณขาเป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกัน......
เด็กน้อยเดินจนกระทั่งเหงื่อชุ่มเล็กน้อยก็ถึงทางเข้าเขตวัด ซึ่งไม่ไกลจากบ้านของเขามากนัก กุฏิของหลวงลุงอยู่ถัดจากศาลาหลังขนาดย่อมเข้าไปจวนจะสิ้นสุดอาณาเขตของวัด
“หลวงลุงครับ ผมเอายามาให้ครับ” เด็กน้อยส่งเสียงเรียก
“เออ เอ็งเอาวางไว้หน้ากุฏินั่นแหล่ะ แล้วก็รีบไปโรงเรียนเสีย เดี๋ยวจะพาลสายเอา” เสียงดังอันคุ้นเคยแทรกผ่านมาจากด้านในตัวกุฏิ
“เดี๋ยวเลิกเรียนผมจะแวะมานวดให้หลวงลุงนะครับ” เด็กน้อยขันอาสาอย่างเต็มใจ
“เอ็งเลิกเรียนก็รีบกลับไปช่วยแม่เอ็งทำงานเถอะ ไม่ต้องห่วงหลวงลุงดอก”
เด็กน้อยทำสีหน้าเป็นกังวล เมื่อเสียงหลวงลุงเน้นย้ำอีกรอบ จึงได้ทำตามแต่โดยดี
เด็กชายปรรณ เดินมุ่งหน้าตรงไปยังโรงเรียนซึ่งอยู่ถัดจากวัดไปไม่ไกล ไม่กี่อึดใจก็ถึงโรงเรียน วันนี้ทางโรงเรียนมีผู้ใหญ่ใจดีมามอบทุนการศึกษาให้กับเด็กที่เรียนดีแต่ฐานะยากจน คุณครูของเขาได้เลือกให้เขาได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ ซึ่งเขาดีใจมาก ทุนครั้งนี้จะช่วยค่าอุปกรณ์การเรียนเขาได้ระดับหนึ่ง เขาขึ้นรับมันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ท่ามกลางเสียงปรบมือของเหล่าบรรดานักเรียน และคุณครู กรึกก้องไปทั่วทั้งหอประชุม
เลิกเรียนวันนั้น เขารีบเดินกลับบ้านด้วยอาการลิงโลด โดยไม่สนใจเที่ยวเตร่ไปที่ไหนเหมือนเด็กคนอื่นๆ เขาต้องการนำข่าวดีในวันนี้ของเขาไปบอกแม่ให้เร็วที่สุด เขาก้าวบริเวณรั้วหน้าบ้าน มีรสีน้ำเงินยี่ห้อดัง ที่เขาเคยเห็นมันโฆษณาในทีวีคันหนึ่งจอดอยู่ เขารีบมองไปยังตัวบ้าน มองเห็นชายชุดดำสองคนท่าทางมีลับลมคมใน ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน และกำลังมองตรงมาทางเขาอยู่
“น้าสองคนเป็นใคร ? ทำไมจึงเข้ามาบ้านผม ? แล้วแม่ผมล่ะ ? แม่ผมหายไปไหน? แม่...แม่ !.......”
ยังไม่ทันสิ้นประโยคที่เขาเรียกหาแม่ด้วยความตกใจปนสงสัย เสียงหัวเราะก็ดังมาจากข้างในตัวบ้าน เด็กชายไม่รีรอ ตอนนี้เขาคิดว่าต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับแม่ของแน่ ไม่ต้องการได้ยินเสียงใครอื่น นอกจากเสียงแม่ของเขา !