บทนำ
“เจ้าต้องแต่งงาน”
“แต่ท่านแม่...”
“บัดนี้เจ้าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ คำพูดแม่คงไร้ค่าในสายตาเจ้าแล้วสินะ”
“ท่านแม่ เหตุใดจึงพูดเช่นนั้นเล่า?” ชายหนุ่มรีบคุกเข่าลงซบตักมารดาอย่างออดอ้อน “ท่านแม่และความต้องการของท่านเป็นสิ่งที่ลูกเคารพและเห็นค่าเสมอ”
ฮูหยินใหญ่สกุลจางแค่นเสียงหึในลำคอ หากกลีบบุปผาสีชาดกลับขยับแยกออกอย่างพึงใจ
เป็นที่รู้ดีว่าบุตรชายคนเล็กของนาง จางหยุนฟ่าน ผู้นี้นั้นเป็นที่ยำเกรงของผู้คนไปทั่วหล้า หากสำหรับ จเซียงเยว่หลัน เขาก็ยังคงเป็นลูกคนเล็กขี้อ้อนเหมือนเดิม
“พี่ ๆ ของเจ้าต่างก็แต่งงานมีหลานให้แม่กันหมดแล้ว ขาดเพียงแค่เจ้าเท่านั้น” จางฮูหยินแสร้งบ่นน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
“คงต้องรอให้เห็นฝาโลงของแม่ก่อนใช่หรือไม่ เจ้าถึงจะยอมทำให้แม่สบายใจ?”
“โธ่ ท่านแม่ขอรับ” แม่ทัพหนุ่มว่าเสียงอ่อน “อย่าน้อยใจลูกนักเลย” แขนแกร่งยกกอดเอวมารดาอย่างเอาอกเอาใจ
“เช่นนั้นเจ้าก็แต่งงานเสีย สตรีผู้ที่เหมาะสมจะเป็นภรรยาเจ้า แม่เองก็มีแล้วในใจ”
เจ้าของฉายา มารมืด แห่งฉีเซียงถึงกับอยากทอดถอนใจหลังได้ยินคำกล่าวนั้นของอีกฝ่าย
เขาคงหนีการแต่งงานไม่ได้แล้วจริง ๆ สินะ
เมื่อเห็นบุตรชายเงียบเสียงไปครู่ ฮูหยินใหญ่ก็ให้ถามเสียงเรียบ “ว่าอย่างไร เจ้าจะทำเพื่อแม่สักครั้งได้หรือไม่?”
“ลูกจะไปขัดใจท่านแม่ได้เยี่ยงไรเล่า?” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมรอยยิ้มแฝงเลศนัย “ท่านแม่ว่าอย่างไร ลูกก็ว่าตามนั้น” นัยน์ตาคู่คมมีแววหนึ่งแล่นผ่านก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เขาจะแต่งงานก็ได้...ส่วนเรื่องที่ว่ารักษาชีวิตแต่งงานให้อยู่คงรอดตลอดฝั่งได้หรือไม่นั้น...ค่อยว่ากันอีกเรื่อง