ขอรักรัฐภูมิ [ชุด Men of Lions] (ลงจบ) + Ebook
รักโรแมนติก
ขอรักรัฐภูมิ [ชุด Men of Lions] (ลงจบ) + Ebook
รักโรแมนติก
รานีญา (Raniya)
ด้วยเหตุการณ์คับขันที่ทำให้เธอแอบอ้างเอาชื่อเขา ผู้ชายที่ไม่รู้จักเพื่อเอาตัวรอดจากการต้องกลายเป็นนางบำเรอของคู่ค้าต่างแดน แต่วันรุ่งขึ้นกลับกลายเป็นกลับกลายเป็นเธอต้องติดห้วงที่เป็นคนก่อจนยากจะถอนตัว
  • 65 ตอน
  • 1,724
นิยายโดย
  • 4 คนติดตาม
บทนำ

ด้วยเหตุการณ์คับขันที่ทำให้เธอแอบอ้างเอาชื่อเขา ผู้ชายที่ไม่รู้จักหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่เพราะอยากเอาตัวรอดจากการกลายเป็นนางบำเรอของคู่ค้าต่างแดนที่พี่ชายไปตกลงกับเขาเอาไว้ เธอจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยชื่อนั้นออกมา แต่วันรุ่งขึ้นกลับกลายเป็นว่าเธอต้องมาติดห้วงที่เป็นคนก่อจนถอนตัว ถอนใจไม่ได้ แล้วก็ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่เมื่อต้องมาเจอศัตรูคนเดียวกันอีก เขาและเธอจะรอดหรือไม่นะ…

ยิ่ง ‘จาก’ ก็ยิ่ง ‘เจอ’ ยิ่ง ‘หนี’ ก็ยิ่ง ‘ตามติด’ ยิ่ง ‘ไม่อยากคิด’ ก็ยิ่ง ‘ติดตรึง’

ชุด Men Of Lions ---> ขอรักรัฐภูมิ ( สิงห์ตัวที่ 1) [ รัฐภูมิ ฟานเซส (รอฟ) + ปาลี กิจสาโรจน์ (ปา) ]

อุ้มรักรัฐภพ ( สิงห์ตัวที่ 2) [ รัฐภพ ฟานเซส (ลุค) + อ้อมเดือน วงศ์อัคร (อ้อม) ]

พบรักรัฐภาม ( สิงห์ตัวที่ 3) [ รัฐภาม ฟานเซส (คริส) + นุชนารี วายาไทย (นุช) ]

ตามรักรัฐภาค (สิงห์ตัวที่ 4) [ รัฐภาค ฟานเซส (ดอม) + สมานุช ศิตาศาสตร์ (สมา) ]

ล่ารักรัฐภัทร (สิงห์ตัวที่ 5) [ รัฐภัทร ฟานเซส (เจท) + เมฆณา กานต์บดินทร์ (เมย์) ]

รัฐภูมิ ฟานเซส (รอฟ) สิงห์ตัวที่หนึ่งของฟานเซส ผู้กุมบังเหียน ‘โรงแรมฟานเซส’ และธุรกิจน้อยใหญ่อีกมากมาย หยิบจับธุรกิจตัวไหนก็รุ่งเกินหน้าคู่แข่งคนอื่นไปไกลหลายสิบโยค จนบางคนนึกหมั่นไส้และอิจฉาความเก่งของเขา มองธุรกิจเฉียบขาดมาก โดยเฉพาะ ‘โรงแรมฟานเซส’ ที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลก ด้วยเหตุนี้วงในจึงยกให้เขาเป็น ‘คิงโฮเตล’


ปาลี กิจสาโรจน์ (ปา) เจ้าของเรือนร่างสูงโปร่งปราดเปรียว ทะมัดทะแมง เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาสิ่งที่บิดาสร้างไว้ ซึ่งก็คือ 'เคอาร์ คอร์ป' แต่ทุกอย่างกำลังจะพังเพราะพี่ชายเห็นแก่ตัว แลกสิ่งที่มีกับเศษเงินไม่กี่บาท จนเธอต้องตกที่นั่งลำบากต้องหาทางเพื่อที่จะรักษาดวงใจที่บิดาฝากไว้ เหตุการณ์คับขันจนเธอต้องอ้างเอาชื่อเขาเพื่อเอาตัวรอด โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนยังไง และก็ต้องมาตกกระไดเจอศัตรูคนเดียวกันอีก ความวุ่นวายมากมายจึงตามมา เขาและเธอจึงต้องร่วมกันสะสางมันให้จบ



“ต้องขอโทษด้วยที่ให้รอนาน วันนี้เกิดเรื่องยุ่งทั้งวัน ฉันเลยปลีกตัวมาคุยด้วยไม่ได้ คุณคงจะมาคุยเรื่องข่าว”


ปานรีย์เดินถือแก้วกาแฟและขนมเข้าไปให้ ไรอันรับมาถือ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปจัดใส่จานมาให้นายหนุ่ม


“คุณเป็นคนให้ข่าวหรือเปล่า”


“งานฉันมีล้นหัว เรื่องที่ต้องจัดการมีเป็นร้อยเป็นพันอย่าง จะหาเรื่องมาใส่หัวเพิ่มทำไม ฉันยอมรับว่าเคยเอาชื่อคุณไปแอบอ้าง แต่ฉันรู้แล้วล่ะว่าใครเขาจะเป็นคนปล่อยข่าว”


ใบหน้าของใครอีกคนซ้อนขึ้นมาเธอจึงมั่นใจเดี๋ยวนั่นว่าต้องเป็นเขาแน่นอน


“ใคร?”


“เคนอิจิ มิคารุ” บอกเสียงเครียด


“เขามีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำอย่างนั้น”


มือหนาวางเอกสารลงกับโต๊ะรับแขกเบื้องหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นมองร่างบางตรงหน้า กับประโยคที่ฟังดูจริงจังมากขึ้น


“เขาอยากได้ฉันไปเป็นนางบำเรอ ฉันไม่รู้จะหาทางออกยังไง สายตามันก็เหลือบไปเห็นชื่อคุณบนหนังสือพิมพ์ก็เลย...” ปานรีย์ยิ้มแหยๆ น้อมรับ


“อ้างว่าเป็นแฟนกับผม...”


“เปล่า” ส่ายหน้าปฏิเสธ


“หมายความว่ายังไง? เปล่า”


“ฉันบอกเขาว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน แต่ฉันไม่ได้มีเจตนานะคุณ” รีบอธิบายเร็วระรัว เกรงว่าเขาจะโกรธไม่มากกว่านี้


“แต่งงานหรือ!” รัฐภูมิร้องเสียงหลง ไม่คิดว่าเธอจะเล่นแรงแบบนั้น แล้วจะทำยังละทีนี่


“ฉันขอโทษ ก็ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ทันจริงๆนี่น่า” รีบแก้ตัว


“แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือว่าผมจะเสียหายกับสิ่งที่คุณบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ”


น้ำเสียงห้วนโต้กลับไปบ้าง เขาไม่เคยมีประวัติเรื่องทำนองนี้มาก่อน หรือกับผู้หญิงคนไหน แม้แต่เรื่องคู่ควงยังไม่เคยมีด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นชั่วครั้งชั่วคราวก็อาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครรู้ เพราะนอกจากลูกน้องคนสนิทแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้


“เอ๊ะ คุณนี่ยังไง ก็ฉันบอกไปแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ จะเอายังไงว่ามาเลย ฉันไม่ได้มีเวลามากมายหรอกนะ นี่ก็ได้เวลาเลิกงานฉันแล้วด้วย”


ปานรีย์ชักมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง เธอก็ไม่ได้ตั้งใจก็บอกไปแล้ว ยังจะเอาอะไรกับเธออีก จะให้ขอโทษก็ขอไปแล้ว ส่วนเรื่องข่าวถ้าไม่มีอะไรในก่อไผ่ก็ไปจัดแถลงข่าวว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็จบ ทำไมชอบเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อยู่ได้


รัฐภูมิเอนหลังพิงพนักโซฟาหรู เงยหน้าจ้องมองหญิงสาวพลางคิดทบทวนว่าจะเอายังไงก็เธอดี ปานรีย์เองก็รอลุ้นใจเต้นๆระส่ำเหมือนกัน เขาจะฟ้องเธอหรือเปล่านะ แต่ขออย่าให้ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเลย แค่เรื่องที่บริษัทเธอก็จะรับมือไม่ไหวอยู่แล้ว


“ตกลงคุณจะเอายังไง ฉันรอฟังอยู่นะคุณ”


“ก็ทำให้มันเป็นจริงอย่างข่าว เสียก็สิ้นเรื่อง” บอกหน้าตาเฉย ไม่มีท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนเมื่อครู่ แถมยังส่งใบหน้าระรื่นมาให้อีก


“อะไรนะ! คุณจะบ้าหรือเปล่า เรื่องอะไรต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย”


ปานรีย์ร้องแห้ว เขาจะเล่นอะไรอีกเนี่ย เมื่อกี้ยังว่าเธออยู่แมบๆ ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวกำลังโวยจึงรีบขัดขึ้นก่อนที่เธอจะคิดเลยไปไกล


“ฟังให้จบก่อน ที่ผมบอกก็เพื่อจะช่วยคุณ”


“ช่วยฉัน? เรื่องอะไรไม่ทราบ” ชักงงเข้าไปใหญ่ เขาจะมาช่วยเธอด้วยเรื่องอันใด เอไม่เห็นความจำเป็นนั้นเลยด้วยซ้ำไป


“คุณบอกว่าเคนอิจิต้องการตัวคุณไปเป็นนางบำเรอใช่ไหม ถ้าเขารู้ว่าคุณโกหก คุณคิดหรือว่าเรื่องจะจบ ที่เป็นอยู่ก็น่าจะบอกได้แล้วว่าเขาจะทำอะไรต่อ และผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าคุณไม่รอดแน่”


สีหน้าและแววตาที่จริงจังของชายหนุ่มทำเอาเจ้าของห้องพลอยกลัวไปด้วย ใบหน้านวลเงยขึ้นจะปฏิเสธ


“แต่ว่า...” ปานรีย์ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจบประโยค เสียงทุ้มกังวานก็ขัดขึ้นเสียก่อน


“ตามใจคุณล่ะกัน ที่ผมทำก็เพราะเราตกที่นั่งเดียวกัน”


“เดี๋ยวก่อนนะ เราหรือ? คุณหมายความว่ายังไง” คิ้วเรียวขมวดยุ่ง เอียงหน้ากลับมาเพื่อขอคำอธิบายที่มากกว่าที่ได้ฟังนั้น


“เคนอิจิกำลังแฮคข้อมูลบริษัทผม ป่วนงานและยังพยายามล้วงเอาข้อมูลลูกค้าผมด้วย เราสองคนก็ไม่ต่างกัน อีกอย่างนะ มันเป็นความผิดของคุณที่ไม่พูดกับเขาแบบนั้น”


“อ้าว ไหนมาลงที่ฉันคนเดียว”


“คุณเป็นเริ่มเรื่องนี้นะเองนะ อย่าลืม”


“ฉันรู้แล้วน่า ไม่ต้องมาย้ำหรอก”

..................................................

กด Favorite หรือ Vote

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่...

เฟชบุ๊คแฟนเพจ : ลานีญา/รัมย์ดาว

ปล. อ่านแล้วคิดอย่างไรกับนิยาย คอมเมนต์ติชมกันได้ เป็นกำลังใจให้กัน

หรือจะมาพูดคุยกันได้นะคะ.... >>___<<


*** มาแล้วเด้อค้า***

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาทักทายกันนะคะ ขอขอบคุณมากๆ

อยากได้เนื้อเรื่องประมาณไหนบอกได้ เดี๋ยวมาจัดเต็มให้แน่นอน เอิ้กกกก

พูดมากเกินแล้วฉัน ไปติดตามกันได้แล้วจ้า...

ฝากติดตาม ชุด Men Of Lions ไว้ด้วยนะจ้ะ