เหนือรักยังมีเธอ
Romance Lover
เหนือรักยังมีเธอ
Romance Lover
กัณนรัถ
'เมียนี่คือคนที่เป็นให้มึงทุกอย่างนะ แต่มึงคอยกรอกหูเขาตลอดว่าเขาเป็นเด็กเสี่ย เขาก็ต้องคิดดิวะว่าเขาเป็นให้มึงได้แค่อย่างเดียว พอมึงไม่เอาแล้วเขาก็หมดประโยชน์ แล้วควายที่ไหนจะไปทนอยู่กับมึงต่อวะ'
  • 0 ตอน
  • 0
นิยายโดย
  • 8 คนติดตาม
บทนำ

บทนำ


“ทำสิ” เมธาสิทธิ์นั่งมองหญิงสาวที่เขาช่วยจัดท่านั่งกึ่งนอนและสอนทฤษฎีให้แล้วอย่างรอคอย

“เม คือหนู... หนูอยากได้อุปกรณ์เพิ่ม”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นอย่างแปลกใจ ไม่ได้พูดออกมา แต่สีหน้าเช่นนั้นเองคือคำถาม

“หนูอยากได้เสื้อทำงานของเม” กัตติกาเม้มปากแน่น กล้าๆ กลัวๆ

เขานิ่งไปครู่หนึ่งจึงยกยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะลุกไปหยิบเอาเสื้อเชิ้ตทำงานสีฟ้าอ่อนจากในตู้เสื้อผ้ามายื่นส่งให้ แล้วกลับมานั่งมองอย่างเดิม

ก็เล่นมานั่งจ้องกันแบบนี้แล้วเธอจะกล้าทำได้ยังไงเล่า โอ๊ย~ ที่เขาทำอยู่นี่น่ะ ทำในฐานะหมอที่คิดจะช่วยคนไข้หรือยังไงกันนะ ...แต่ว่าพอคิดไปแบบนั้น เธอก็เบาใจขึ้นมาได้หน่อยนึงเหมือนกันแฮะ

“เมต้องจ้องหนูขนาดนี้เลยเหรอ”

“ก็ถ้าไม่ดูจะรู้ได้ไงว่าทำเป็นหรือเปล่า เอ้า! เอาเลยเร็ว อุปกรณ์เสริมก็มีแล้ว ไม่ต้องเขิน ทำตัวตามสบาย”

“หนูถอดชุดออกหมดเลยได้มั้ย”

“เอาสิ”

กัตติการู้สึกขนลุกไปทั้งตัว อายก็อาย เกร็งก็เกร็ง ถึงเขาจะใจกว้างและใจดีกับเธอทุกอย่าง แต่ว่า... สายตาของเขาที่กำลังจับจ้องมานั้น... มองลงต่ำ ขณะที่หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าและออกช้าๆ พยายามจะสงบสติอารมณ์ไม่ให้กระเจิดกระเจิงจนถึงขั้นวิ่งหนีเขาไปเสียก่อน หล่อนก็ค่อยๆ ดึงเสื้อยืดออกทางศีรษะและปลดตะขอบราถอดออกวางข้างตัวช้าๆ อาภรณ์ส่วนล่างนะเหรอ... เขาจัดการถอดออกไปตั้งแต่เมื่อสิบนาทีก่อนแล้ว และมันก็ไปนอนกองอยู่บนพื้นนั่นไงล่ะ

เมื่อบนเรือนร่างอวบอิ่มไร้ซึ่งปราการใดๆ ที่จะปกปิดสายตาชาย หญิงสาวเอาเสื้อเชิ้ตทำงานของเขามาห่มปิดส่วนสงวนและสองเต้าอวบอิ่มไว้

“ดึงเสื้อขึ้นไปอีก” เขาสั่งเสียงเรียบ ภายในสั่นไหวอย่างรุนแรง แต่เขาจะหลุดตบะแตกตอนนี้ไม่ได้ เขากำลังจะสอนให้เธอรู้จักสร้างความสุขให้ตัวเอง รู้จักระบายความเครียดอย่างถูกวิธี สอนให้เธอเอาชนะความล้มเหลวในอดีต

ก็มันอายนี่นา เขาเล่นจ้องแต่ตรงนั้นเขม็ง อย่างกับจะมองทะลวงเข้าไปถึงข้างใน หญิงสาวดึงเสื้อเชิ้ตขึ้นเปิดเผยส่วนล่าง ตำแหน่งของเธอกับเขาในตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรจากหมอและคนไข้ในห้องตรวจภายในเลยสักนิด

“อย่างนั้นแหละ” เขาพูดอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่ากัตติกายื่นมือมาไล้ส่วนสาวของหล่อนเนิบช้า

“เม เสื้อพี่...ถ้าเกิดมันเปื้อนหนูจะซื้อคืน...”

“ไม่เปื้อนหรอกน่า มันซักออก ขยับมืออีกซิ” เขาขมวดคิ้วนิดหนึ่ง เหมือนจะแอบรำคาญที่หล่อนเอาแต่พูดและไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตาเขาจ้องมองนิ้วเรียวไม่กะพริบตา ปากก็พร่ำสอนทฤษฎีให้อย่างจริงจัง “ไม่ต้องสนใจพี่ ทำไปเลย แล้วอย่าเพิ่งเอานิ้วเข้าไปนะ”

“อืมมม~ อูย” กัตติกากัดริมฝีปากแน่นขณะแหงนหน้าขึ้นดวงตาหลับพริ้มบอกอารมณ์หวามสะท้านได้เป็นอย่างดี

นิ้วเล็กละเลงพรมลงบนติ่งสวาทกลางกาย มันก็ดูไม่เห็นยากอย่างที่คิดนี่นา แล้วทำไมเมื่อก่อนเธอถึงไม่เคยทำได้ ตรงนั้นมันส่วนอ่อนไหวไม่ใช่หรือไง แค่จับๆ แตะๆ เข้าหน่อยก็ควรจะรู้สึกแล้ว แต่ตอนนั้นเธอไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ไม่เหมือนกับตอนนี้เลยสักนิด แล้วที่รู้สึกวูบโหวงในท้องอยู่นี่มันเป็นเพราะระลึกได้ว่ามีสายตาของเขาคอยมองจ้องอยู่ใช่มั้ยนะ

ชายหนุ่มเริ่มเหงื่อซึมที่บริเวณหน้าผาก หญิงสาวกำลังปฏิบัติในสิ่งที่เขาสอน และหล่อนก็ทำได้ดีเสียจนเขารู้สึกทรมานกาย ไม่ได้เด็ดขาด! เขาต้องคอยให้เธอทำให้สำเร็จก่อน

“อ๊ะ อ๊ะ เม~ หนูเอานิ้วเข้าไปเลยนะ”

“อืม ช้าๆ นะ” แม้จะบอกอย่างสุขุมมากเพียงใด แต่ใจที่กำลังเต้นรัวกลับทำให้เสียงที่เปล่งออกไปสั่นเครืออยู่บ้าง ก็หวังว่าเธอจะไม่ทันได้สังเกต

“อูยยย~ อ๊ะ อาาาา อืม” หญิงเอามือข้างที่ไม่ได้สาละวนอยู่เบื้องล่างดึงเอาส่วนของเสื้อเชิ้ตที่วางคลุมกายอยู่ขึ้นมากัดเอาไว้ ขณะที่เลื่อนเสื้อขึ้นไปยอดอกสีเข้มข้างหนึ่งก็เผยออกมาท้าทายลมเย็นของเครื่องปรับอากาศในห้อง

สายตาเขามองเหลือบขึ้นไปเห็นปลายยอดนั้นเข้าก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ ก่อนจะวกกลับมามองด้างล่างอีกครั้ง หล่อนทำสำเร็จแล้ว บริเวณนั้นแฉะฉ่ำไปหมด ผ้าปูที่นอนก็เปียกชุ่มไปด้วย

เสื้อเชิ้ตทำงานสีฟ้าจางของเขา...ช่างเป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำให้หญิงสาวดูมีเสน่ห์เหลือล้น อย่างนี้ต้องให้รางวัลแล้วสินะ คิดดังนั้นก็ขยับกายเข้าไปใกล้ร่างที่ยังคงแหงนเงยหลับตาครวญครางอยู่ไม่ได้หยุด

มือใหญ่ขาวเกลี้ยงยื่นไปจับดึงมือเล็กที่นิ้วหนึ่งสอดหายเข้าไปในกลีบกายให้หลุดออกมาช้าๆ กัตติกาจึงเปิดเปลือกตาขึ้นมองอย่างประหลาดใจ แล้วก็ต้องสะดุดลมหายใจเมื่อใบหน้าของเขาอยู่ใกล้กันแค่ไม่กี่นิ้ว

“เก่งมากอ้วน พี่จะให้รางวัล อยากได้อะไร หืม?” เมธาสิทธิ์ยิ้มกว้างแล้วขยับมือมาดึงเสื้อเชิ้ตที่คลุมกายเปลือยเปล่าใต้ร่างออก

“เม หนูหิวข้าวแล้ว”

“เดี๋ยวสิ พี่จะให้รางวัลเราก่อน ให้เลือกระหว่าง นิ้วพี่ กับ ...น้องพี่”

“เอ๊ะ!?”

“ไซส์อาจจะต่างกันเยอะ แต่รับรองว่าดีต่อใจทั้งคู่”

“คะ คือ รางวัลน่ะ หนูขอเป็น ...ขอกินข้าวฝีมือพี่ไม่ได้เหรอคะ”

“อะไร เอาแค่นั้นเองเหรอ”

“ค่ะ”

“ก็ได้ งั้นถือว่าพี่แถมให้ก็แล้วกัน” พูดจบก็ค่อยๆ วางปลายนิ้วหัวแม่มือลงคลึงใจกลางกายสาวอย่างนิ่มนวล แสดงให้รู้ว่าชั้นเชิงของคนเป็นครูนั้นเขาทำอย่างไร

“เม...” กัตติกาหายใจหอบด้วยความตื่นเต้น ขยับลุกขึ้นเพื่อจะมองมือขาวของเขาซึ่งกำลังวุ่นวนอยู่ที่ส่วนอ่อนไหว ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก มือข้างหนึ่งประคองแผ่นหลังของเธอไว้ ใบหน้าคมก้มมองไปยังจุดเดียวกับหญิงสาว

“ทำเป็นแล้วนะทีนี้ เห็นมั้ย ถ้าทำถูกก็จะไม่เจ็บ แต่จะ...” เขาเว้นไว้ไม่พูดต่อ แต่เลือกพูดอย่างอื่นแทน “เอื้อมไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงหยิบคอมดอมมาอันนึงซิ”

ใบหน้าของเขาที่เกือบจะชนกับใบหน้าเธออยู่แล้วมีแววเครียด หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย หญิงสาวชอบสัมผัสของเขาจนไม่อยากขยับไปไหน แต่ก็ตัดใจเอื้อมไปทำตามที่เขาบอก ยื่นส่งมันให้เขา ชายหนุ่มเอาปากยื่นมาคาบไว้ นิ้วที่แสนจะพลิ้วไหวขยับอีกครั้งทำให้หญิงสาวถึงกับอ่อนปวกเปียกแทบหงายท้องล้มลงไปกับเตียง แต่ยังยันศอกเอาไว้ทัน

“เม หนูว่าเราอย่าเพิ่งทำเลยนะ ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า”

เมธาสิทธิ์ละมือจากหลังบางมาถือซองถุงยางที่คาบอยู่ก่อนจะพูด “ไม่ได้ พี่ปวดมากเลยนะอ้วน”

“คะ?”

“นั่งมองเราเสร็จต่อหน้าต่อตาขนาดนี้ คิดว่าพี่เป็นรูปปั้นหรือไงถึงจะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย”

“แต่พี่เป็นหมอนะเม พี่ก็แค่สอนให้คนไข้รู้วิธีบรรเทาความตึงเครียด”

“นี่คิดว่าพี่จะมองเราเป็นคนไข้ได้เหรอ แล้วเป็นโรคอะไรถึงได้เรียกตัวเองว่าคนไข้ กามตายด้าน? ยัยอ้วนเอ๊ย”

เมื่อหญิงสาวเงียบไป เขาที่กำลังรูดซิปกางเกงชะงักมือ เหลียวมองหน้าเธอนิ่งๆ “หิวมากเลยเหรอ?”

“คะ?”

“ก็ถ้าหิวมากจะไปเจียวไข่ให้กินก่อน”

“เอ่อ ก็ไม่มาก หนูกินพร้อมพี่นั่นแหละ หิวหรือยังล่ะคะ”

“หิวข้าวน่ะยัง แต่หิวเธอน่ะ...มาก”

นิ้วแข็งเขื่องที่ค่อยๆ ดันเข้าไปอย่างถูกจังหวะสร้างความสุขให้หญิงสาวจนเผลอครางชื่อเขาออกมาติดต่อกันหลายครั้ง ...แต่จิตใต้สำนึกที่ยังค้างคากับอะไรบางอย่างเพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน

“หนูอ้วนมากเลยเหรอ”

“ฮะ!?”

“ทำไมไม่เรียกหนูว่าบี๋ ว่าเบ๊บ เรียกหนู หรือเรียกกิ๊บก็ได้ ทำไมต้องเรียกว่าอ้วนด้วย”

“เรียกอ้วนน่ารักดีออก ทำไมต้องเรียกอย่างอื่น”

“น่ารักตรงไหน น่าเกลียดจะตาย” หญิงสาวเบือนหน้าไปทางอื่นขณะพึมพำงึมงำคนเดียว

นายแพทย์หนุ่มยิ้มขันท่าทางเหมือนเด็กเล็กๆ ของเธอแล้วอดจะรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ ต้องยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่จมูกเธอทีหนึ่ง ดึงมือออกมาจากกายสาวเพื่อจับพลิกดูซองถุงยางอย่างละเอียด ก่อนจะเอ่ยปากถาม “เคยใส่คอนดอมมั้ย?”

กัตติกาหันกลับมามองหน้าเขาอย่างตกตะลึง หน้าเธอแดงก่ำขึ้นมาทันทีทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาถามเพื่ออะไร และทั้งๆ ที่น่าจะเลิกเขินอายได้แล้ว เพราะเธอเองก็เปลือยกายต่อหน้าเขาซึ่งยังอยู่ครบชุดมาได้ตั้งนานสองนาน

“ทำไมคะ?”

“เคยหรือเปล่า?”

“ไม่เคย”

คำตอบของเธอทำให้เขายิ้มกว้างขึ้นอีกครั้ง ขณะยื่นส่งซองสีเงินใส่มือหญิงสาว

“ลองดู”

“เม นี่พี่จะให้หนู...”

“อืม นี่พี่เสียสละใช้เรือนร่างของตัวเองให้เราได้เรียนโดยเฉพาะเลยนะ”

“พี่ไม่ต้องอุทิศตัวขนาดนั้นก็ได้ หนู หนูยังไม่...” หญิงสาวชะงักไปทันทีเมื่อเขาไม่สนใจเธอ หันไปดึงรั้งบางอย่างออกมาจากกางเกง แค่มองก็ถึงกับผวา มันดีดเด้งออกมาจากกางเกงในสภาพที่มองเห็นเส้นเลือดบางๆ ปูดขึ้นมาเป็นทางและขนาดก็คงจะพอๆ กับข้อมือของเธอ

โอ๊ย~ ตายๆๆ นังกิ๊บจะเป็นลม ครั้งก่อนๆ ไม่เคยได้มองจะๆ ขนาดนี้ แต่นี่... วันนี้เขาถึงกับจะให้เธอลองสวมถุงยางให้ ฮือ~~~ แตะได้เหรอนั่น ต้องพยายามบอกตัวเองหลายล้านรอบว่านั่นมันคืออวัยวะของมนุษย์ไม่ใช่เอเลี่ยนที่ไหน กลัวอะไรขนาดนั้น

“มองขนาดนี้ไม่คิดว่าพี่จะอาย?”

“ทีเมื่อกี้พี่ยังจ้องของหนูตาแทบหลุดเลย หนูก็อายเหมือนกันนั่นแหละ”

“ฮะฮะฮ่า ...งั้นถือว่าหายกัน ฉีกซองเร็ว ฉีกเบาๆ นะ มันบางเดี๋ยวขาด” คนอารมณ์ดีบอก ใบหน้าที่มักประดับด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ทำให้กัตติการู้สึกอบอุ่นปลอดภัยอยู่เสมอ

“พี่จะไม่ถอดชุดออกให้หมดก่อนเหรอ หนูยังถอดหมดแล้วเลย”

“ไม่ล่ะ ขี้เกียจใส่ เสร็จตรงนี้แล้วพี่จะไปทำกับข้าวให้เรากินเลย”

มองค้อนให้ทีหนึ่งก่อนจะฉีกซองออกมือไม้สั่นเล็กน้อย

“จับตรงปลาย บีบไว้อย่าให้มีลมเข้า ยื่นมือมานี่” สอนไปก็พาทำไป

“พี่ไม่ต้องสอนหนูขนาดนี้ก็ได้นะ หนูว่ามันก็ไม่ได้ยากอะไร...”

“ใครๆ ก็คงคิดอย่างเรานี่แหละ ถึงได้ท้องกันระนาว ป้องกันไม่ถูกวิธีก็เท่ากับไม่ได้ป้องกันเลย”

“โอเค หนูใส่เป็นแล้ว พี่ถอดออกเหอะ”

“ตลกหรือเปล่าอ้วน นี่ไม่ได้ให้ลองใส่เล่นๆ นะ พี่อยาก เข้าใจมั้ยว่า อยาก!”

“เม หนูกลัว”

“กลัวอะไร เคยทำกันมาตั้งกี่ครั้งแล้วเนี่ย”

“บ้า!” กัตติกาตีเผียะที่ต้นแขนเขาอย่างแรงจนอีกฝ่ายถึงกับสูดปากเสียงดัง

“พี่รู้ว่าเราชอบท่ามิชชันนารี เดี๋ยวจัดให้นะอ้วน อย่าหนีสิ”

เมธาสิทธิ์เดินเข่าเข้าไปหาหญิงสาวที่ขยับถอยจนหลังแทบจะติดหัวเตียง เขาพูดถูก เธอชอบท่านั้น...แต่เขารู้ได้ไงนะ หรือว่าเขาแอบมาเปิดโทรศัพท์เธอ หญิงสาวเคยอยากรู้ว่าท่าที่เขาอยู่ด้านบนสอดประสานกายและตระกองกอด เหมือนจะคอยปกป้องคุ้มครองเป็นเกราะให้นั้น มีชื่อท่าว่าอย่างไร ครั้งหนึ่งก็เลยลองไปเสิร์ชหาดู แล้วก็ยังไม่ได้ลบหน้าค้นหานั้นทิ้งไป ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมาเปิดโทรศัพท์เธอดูแล้วเปิดเบราเซอร์เข้าไปเห็นพอดีก็ได้

“พี่รู้ได้ไงว่าหนูชอบท่านั้น”

“พี่รู้ใจเราไง”

“ไม่จริงอ่ะ พี่แอบดูโทรศัพท์หนูใช่มั้ย?”

“ทำไมต้องดูโทรศัพท์เรา อย่าบอกนะว่า...แอบดูคลิปโป๊อ่ะ”

“เปล่านะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ดูๆ ไปเหอะ คลิปไหนเด็ดก็ส่งมาให้พี่บ้าง”

“เม! หนูไม่ได้ดูคลิปโป๊”

“ก็ได้ นิ่งๆ นะ พี่เริ่มจะหิวข้าวหน่อยๆ แล้ว”

“อะ ...อึก เม มันแน่น” เธอถึงกับต้องยื่นมือออกไปคว้ากอดคอเขาไว้ ทันทีที่ชายหนุ่มขยับท่อนลำเข้าไปแตะคลึงเรียกน้ำหวานออกมาสายหนึ่ง แล้วค่อยกดกายดันตัวตนเขาไปอย่างใจเย็น

“อืม” เขารู้ เธอแน่น เขาก็รัด ขยับลำบากแต่ต้องขยับ ไม่อย่างนั้นร่างกายจะไม่ปรับเข้าหากัน

“มีคนถามหนูว่าเมเป็นใครด้วยแหละ”

ยัยจอยไงจะใครล่ะ ยัยคนจอมจุ้น เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ ก็รู้อยู่ว่าเธอกับเขาอยู่ในสถานะอย่างไรยังจะถาม รู้หรอกน่าว่าห่วง แต่มันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ เธอไม่ได้เป็นเมียน้อยหรือกิ๊กของเขาสักหน่อย ก็แค่...เด็กเสี่ย

“แล้วตอบเขาว่า?”

“เพื่อน”

“friends with benefits เหรอ”

“หนูไม่รู้จะบอกเขายังไงนี่นา”

“ก็บอกว่ามีเสี่ยเลี้ยง”

“หนูยี่สิบห้าแล้วนะ”

“ยี่สิบห้าแล้วมีเสี่ยเลี้ยงไม่ได้?”

“ยี่สิบห้ามีแต่ใช้คำว่าอยู่กินกับแฟนก่อนแต่ง เสี่ยเลี้ยงต้องเด็กต่ำกว่ายี่สิบ”

“ซับซ้อนนะเราน่ะ งั้นอยากบอกใครว่าอะไรก็บอกไปเถอะ”

“อีกหน่อยพี่เบื่อหนูแล้ว หนูจะได้บอกคนอื่นได้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว”

“อ้วนเอ๊ย”

“แล้วเมล่ะ เคยมีคนถามเรื่องหนูมั้ย”

“ถ้ามีก็จะบอกไปตรงๆ ว่าเป็นเด็กพี่ แค่นั้น”

“เฮ้อ ทำไมดูพูดง่ายจัง”

“ถ้าเบื่อแล้วจะทำยังไง จะขนของออกจากที่นี่ไปเลยงี้?”

“ก็หนูเป็นเด็กเสี่ย ถ้าเสี่ยไม่เลี้ยงแล้ว จะให้หนูหน้าด้านอยู่ได้ไงล่ะ ถึงหนูจะไม่ได้หน้าบาง แต่ก็ไม่ได้หนามากขนาดนั้นนี่”

“นั่นสินะ งั้นก็อย่าไปนึกถึงมันเลย อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด” พูดจบก็ขยับกระหน่ำกายหนักหน่วงขึ้น กัตติกาเห็นด้วยกับเขา ตอนนี้หล่อนมีความสุขดี ได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างๆ หนุ่มหล่อทะเล้นอารมณ์ดี แม้บางครั้งเขาจะดูขรึมและเครียดไปบ้างก็เป็นธรรมดาของคนจะต้องมีหลายด้านหลายมุม

“อื้ม เม~ อูย เม~ เมขา~”

เมธาสิทธิ์โน้มตัวเข้าหาร่างอวบอิ่มในท่าที่เธอชอบ หัวเราะร่วนเบาๆ ข้างหูคนที่ร้องครางชื่อเขาอย่างกระตือรือร้น

...เขาเองก็คิดและสงสัยอยู่เหมือนกัน วันที่เขาจะเบื่อหล่อน และปล่อยหล่อนไปตามทางของตัวเองน่ะ ...มันเมื่อไหร่กันนะ