ซาตาน ทาสรัก
ดราม่าน้ำตาริน
ซาตาน ทาสรัก
ดราม่าน้ำตาริน
Mikey
หลังจากที่พ่อเธอเสียชีวิต เธอก็ใช้ชีวิตทุลักทุกเล จนถูกแม่ขายให้แก่เจ้าหนี้ ทำให้เธอได้พบกับมอร์แกน ชายหนุ่มผู้ที่มีความลับบางอย่าง
  • 65 ตอน
  • 15K
  • 4.63 จาก 8
นิยายโดย
  • 1 คนติดตาม
  • Tag
  • #
บทนำ

บทนำ

“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Spear Club คลับของคนรักอิสระ คลับของคนรักเงิน และคลับของคนที่รักความเสี่ยง เรามาเจอกันเป็นประจำทุกเดือนกับกิจกรรมการประมูลของล้ำค่ามหาศาล ที่แม้แต่ของบางอย่าง ก็ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ทุกท่านพร้อมกันหรือยังครับ” เสียงโห่ร้องของบรรดาแขกเหลื่อภายในคลับหรูย่านเขต C คลับที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตึกขนาดใหญ่สไตส์โมเดิร์นสูงสิบชั้น ตกแต่งด้วยไฟคริสตัลระยิบระยับ ส่องแสงกระทบกันไปมาราวกับต้องการอวดว่าตัวเองมีแสงที่ส่องสว่างที่สุด

“เมื่อเดือนที่แล้ว เราประมูลภาพวาดอายุหลายร้อยปี ไปด้วยเงินถึงยี่สิบล้านบาท เราคงไม่พูดถึงไม่ได้ ทาง Spear Club ต้องขอบขอบคุณท่านอารามเป็นอย่างยิ่ง” พิธีกรหันไปโค้งให้แก่ชายวัยสามสิบปลายในชุดสูทสีแดงสด อารามยกแก้วแชมเปญขึ้นพร้อมส่งยิ้มทักทาย

“และในเดือนนี้ ผมขอบอกเลยว่าของของเรานั้น ประเมินค่าได้ยาก อย่างที่เราทราบกันดี ทางคลับของเรามีตั้งแต่ของที่หายาก ของถูกกฎหมาย รวมไปถึงของผิดกฎหมายทุกประเภท และผมต้องขอบอกเลยว่า วันนี้ของของเราบรรดาคุณผู้ชายไม่ควรพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว” เสียงโห่ร้องของบรรดาชายหนุ่มดังขึ้นเกรียวกราวพร้อมกับเสียงปรบมือชอบใจ

“กุมเงินและหัวใจของท่านให้ดี ขอเชิญทุกท่านพบกับราชินีของวันนี้ครับ” สิ้นเสียง ม่านสีแดงเพลิงค่อยๆ เลื่อนออกช้า ๆ เผยให้เห็นร่างนวลระหงส์อยู่ชุดซีทรูสีขาว ผิวขาวอมชมพูกระทบกับแสงไฟอย่างอวดดี ส่วนสูงราว170กับส้นสูงส้นเข็มทำให้เธอเด่นเป็นสง่า ผมยาวขลับถึงกลางหลังดึงดูดสายตาทุกคนไม่ให้มองไปไหน พร้อมกับใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต กับปากเรียวบางสะกดทุกคนให้ตกอยู่ในภวังค์ ดวงตากลมโตมองไปข้างหน้าอย่างตื่นกลัว มือทั้งสองข้างถูกมัดติดอยู่กับเสากลางเวทีขนาดใหญ่ภายในคลับ เสียงปรบมือพร้อมเสียงโห่ดังขึ้นราวกับเสือที่เจอเหยื่อ

“มีใครอยากแก้มัดให้สาวน้อยขี้กลัวคนนี้บ้างครับ” เสียงผิวปากดังไปทั่วทุกสารทิศ น้ำตาค่อยๆ เอ่อคลอจนเต็มดวงตาของหญิงสาว ยิ่งเธอมองภาพตรงหน้านั่นยิ่งอยากทำให้เธอตายไปเสียตรงนี้

“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของแขกทุกท่าน เรามาฟังคุณสมบัติของสินค้าชิ้นนี้กันดีกว่าครับ สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่าอันนา ความสวยของเธอทุกคนคงได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว ว่าเธอไร้ที่ติขนาดไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือร่างกายของเธอ ไม่เคยตกเป็นของใครมาก่อน เราขอเปิดประมูลที่ หนึ่งล้านบาทครับ” สิ้นเสียง เสียงข้างล่างต่างฮือฮากันดังไม่ขาดสาย

“ผมให้สิบล้าน” เสี่ยพุงพลุ้ยยกมือก่อนจะเสนอเงินในราคาสูง

“ผมให้สิบห้าล้าน”

“ยี่สิบล้าน”

“สามสิบล้าน”

“สามสิบห้าล้าน”

“ห้าสิบล้าน” ความสงบเกิดขึ้นเมื่อราคาของหญิงสาวสูงถึงห้าสิบล้าน ร่างเล็กมองไปยังต้นเสียงพบกับชายคนหนึ่งอายุราวยี่สิบปลายๆ เขานั่งจิบไวท์ด้วยท่าทางเรียบเฉย แต่ความมืดสลัวในคลับทำให้เธอมองเห็นหน้าเขาไม่ชัดนัก

“ตอนนี้ราคาพุ่งถึงห้าสิบล้านแล้วนะครับ ห้าสิบล้านครั้งที่หนึ่ง ห้าสิบล้านครั้งที่สอง”

“เจ็ดสิบล้าน” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกระลอก คราวนี้คนที่ประมูลคืออาราม คนที่เป็นเจ้าของสินค้าในการประมูลครั้งที่แล้ว

“โอ้โหแขกทุกท่านครับ บัดนี้ราคาสาวสวยคนนี้พุ่งสูงมากที่สุดตั้งแต่เราเปิดคลับมาเลยล่ะครับ เจ็ดสิบล้านครั้งที่หนึ่ง เจ็ดสิบล้านครั้งที่สอง เจ็ดสิบละ..”

“ร้อยล้าน” แขกในคลับต่างอ้าปากค้าง หลังชายหนุ่มคนเดิมเสนอเงินมากถึงหนึ่งร้อยล้าน อารามทำหน้าหัวเสีย เพราะเงินจำนวนนี้มากเกินไปสำหรับผู้หญิงคนเดียว

“มีใครต้องการจะเสนอเงินที่มากกว่านี้ไหมครับ” ความเงียบเข้าปกคลุมคลับอีกครั้ง สายตาทุกสายตาจับจ้องไปยังหนุ่มเจ้าของเสียง

“หนึ่งร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง หนึ่งร้อยล้านครั้งที่สอง และหนึ่งร้อยล้านครั้งที่สาม เคาะครับ สาวน้อยอันนาถูกประมูลในราคาหนึ่งร้อยล้านบาท” ชายหนุ่มคนเดิมวางแก้วไวท์ลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาเดินเอาเช็คไปวางที่เคาร์เตอร์ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที มือหนาค่อย ๆ แก้มัดให้ร่างบางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะจับมือเธอพาเดินออกจากร้านไปอย่างเงียบ ๆ


รถสปอร์ตคันสีดำสนิทพุ่งดิ่งไปข้างงหน้าราวกับจรวดบนท้องถนน ร่างหญิงสาวนั่งร้องไห้เงียบ ๆ เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคนขับรถด้วยซ้ำ

“คุณจะพาฉันไปไหนหรอคะ” ไม่มีเสียงตอบรับใดใดทั้งสิ้นจากคนข้างๆ

“ฉันจะใช้หนี้คืนให้ ฉันขอแค่คุณอย่าทำอะไรฉันได้ไหม ปล่อยฉันไปได้ไหม” หญิงสาวพูดขณะก้มหน้า

“ถ้าเธอมีเงินมาใช้หนี้ฉัน เธอคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้” เสียงทุ้มดังขึ้น หญิงสาวค่อยๆ มองหน้าเขา ใบหน้าคมเข้มกับผิวขาวช่างดูขัดกัน แต่เขากลับหล่อราวกับเจ้าชาย

“ฉันสัญญาว่าฉันจะทำงานมาใช้หนี้ให้คุณทั้งหมด ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้” หญิงสาวยกมือไหว้ขอร้องคนตรงหน้า แต่เขากลับเพิ่มความเร็วยิ่งไปกว่าเดิม อันนาเอามือมาจับเบาะไว้แน่น ถ้าหากเสียหลักขึ้นมาเธอต้องตายแน่ๆ ความเร็วของรถเริ่มลดลงจนจอดสนิท อันนามองหน้าคนข้างๆ อย่างไม่ไว้วางใจ ถึงเขาจะหล่อมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนดี

“เธอไปอยู่ที่คลับนั้นได้ยังไง” ร่างสูงหันมาถามเธอ

“ฉัน..ฉัน ฉันถูกขายมา”

“ใคร”

“พ่อเลี้ยงของฉัน เขาติดหนี้ เขาเลยขายฉันให้เจ้าหนี้”

“เท่าไหร่” เสียงเข้มดังขึ้น เธอรู้สึกกลัวเขาขึ้นมาแล้วสิ

“สองแสน แล้วเขาก็ขายฉันต่อให้ที่คลับ ในราคาสองล้าน” อันนามองคนข้างๆ อีกครั้ง เขายังคงมองตรงไปข้างหน้าด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงรึป่าว แต่ฉันคงปล่อยเธอไปฟรีๆ แบบนี้ไม่ได้ เงินหนึ่งร้อยล้านเธอคงรู้ว่ามันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย”

“คุณช่วยฉันทำไม”

“ฉันไม่ได้ช่วย ฉันแค่...ช่างมันเถอะ คืนนี้ไปพักที่บ้านฉันก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยตกลงเรื่องหนี้ที่เธอติดค้างฉัน” รถคันเดิมเริ่มทะยานออกไปบนท้องถนนอีกครั้ง ก่อนจะมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่งที่กินเนื้อที่กว่าสิบไร่ ชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำสนิทราวกับพวกมาเฟียยืนเต็มไปหมด ทุกคนต่างมีอาวุธประจำตัวกันครบมือ

“คลุมนี้ไว้” เสื้อสูทสีดำสนิทถูกโยนมาที่เธอ

“ถ้าเธอลงไปชุดนี้ คืนนี้คงไม่รอดแน่” เธอใช้เสื้อคลุมตัวเองอย่างไว พร้อมรีบลงจากรถเดินตามเขาไปติดๆ บ้านหลังใหญ่ตกแต่งด้วยสีเทาซะเป็นส่วนใหญ่ กลิ่นหอมอ่อนๆ กระทบเข้าจมูก ชายชุดสูททั้งหลายต่างโค้งคำนับเมื่อผู้ประมูลเธอนั้นเดินผ่าน

“คุณมอร์แกนจะพักที่นี่เลยไหมครับ” ชายคนหนึ่งอายุราวๆ สามสิบปลายๆ ถามขึ้น เขาดูต่างจากทุกคนในบ้านและนอกบ้านโดยสิ้นเชิง

“หาที่พักให้เธอด้วย คืนนี้ฉันจะไปนอนที่คอนโด ยังไงก็ฝากด้วย”

“ครับ”

“นี่คือคุณอานัน เป็นเลขาส่วนตัวของฉัน ถ้าขาดเหลืออะไรบอกเขาได้เลย” มอร์แกนพูดเสร็จก็เดินกลับไปยังรถของเขาก่อนจะขับออกไป

“คุณชื่อ...”

“เอ่อ..อันนาค่ะ ฉันชื่ออันนา”

“คุณอันนา เชิญทางนี้เลยครับ” อานันพาเธอเดินขึ้นมายังชั้นสองก่อนจะพาเข้าห้องรับแขก ห้องรับแขกที่นี้ใหญ่กว่าบ้านเธอทั้งหลังซะอีก

“ตามสบายนะครับ ขาดเหลืออะไรบอกได้เลย”

“ขอบคุณค่ะ” อานันเดินออกไป ปล่อยหญิงสาวให้อยู่เพียงลำพัง เธอทิ้งตัวลงบนโชฟาขนาดใหญ่ ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจ เขารวยขนาดนี้ ขนาดที่ยอมเสียเงินร้อยล้านประมูลเธอมา เขาจะเอาเธอไปทำอะไรกันนะ อันนาลุกขึ้นสำรวจรอบห้อง เธอมองไปยังเบื้องล่างผ่านหน้าต่าง ชายฉกรรจ์มากมายต่างเดินไปมาเพื่อรักษาความปลอดภัย

“เป็นมาเฟียรึป่าวนะ” เธอพึมพำกับตัวเอง พรุ่งนี้เธออาจถูกขายไปยังต่างประเทศก็ได้ ใครกันจะบ้าซื้อผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาด้วยราคาร้อยล้าน ความคิดฟุ้งซ่านพาเธอนั่งไม่ติด ถ้าเป็นอย่างงั้นเธอต้องแย่กว่าเก่าแน่ๆ ถ้าเธอหนี เธอจะหนีไปได้ยังไงในเมื่อคนเต็มบ้านขนาดนี้

ก๊อก ๆ ๆ ๆ

หญิงสาวเปิดประตูก็พบกับอานันที่ถือนมไว้ในมือ

“เผื่อหิวน่ะครับ ตอนนี้แม่บ้านหลับหมดแล้วผมเลยเอามาให้” ท่าทางสุภาพของอานันไม่ทำให้เธอเบาใจขึ้นมาได้เลย

“คุณอานันคะ พอดีฉันมีของที่จำเป็นต้องซื้อตอนนี้น่ะค่ะ”

“คุณต้องการอะไรครับ” อานันถามกลับด้วยท่าทางอ่อนน้อม อันนาเงียบไปชั่วครู่ ถ้าเธอไม่หนีเธออาจจะต้องตายก็ได้ ที่นี่ไม่มีอะไรน่าไว้ใจสำหรับเธอเลย

“ของผู้หญิงน่ะค่ะ ฉันอยากไปซื้อด้วยตัวเอง” อานันมองหน้าเธอสักครู่ก่อนจะยิ้มออกมา

“ได้ครับ ตามผมมาได้เลย” อานันพาเธอขับรถออกมาที่ร้านสะดวกซื้อซึ่งไกลจากบ้านของมอร์แกนมาเกือบสิบกิโล

“ผมรอบนรถนะครับ” อานันเอ่ยอีกครั้ง เห็นท่าทางแบบนี้แล้วเธออยากจะขอโทษเขาสักพันครั้ง ร่างบางเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ เธอเดินไปรอบๆ ร้านก่อนจะหลบเข้าไปยังหลังร้าน ก่อนจะหนีออกไปทางข้างหลัง เสื้อสูทตัวใหญ่คลุมร่างเธอไว้มิดชิด เธอเดินไปตามซอกซอยเพื่อไม่ให้ใครตามเธอได้ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรหาใครสักคน

“มีมี่”

“ว่าไงอันนา ทำไมโทรมาดึกขนาดนี้”

“ช่วยฉันด้วย ตอนนี้ฉะ...” โทรศัพท์ถูกใครบางคนด้านหลังดึงออกไป อันนาหันหลังกลับไปมองก็พบว่ามันถูกเก็บเข้ากระเป๋าไปแล้ว เธอไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“มอร์แกน” เธอเอ่ยชื่อของเขาออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างกายเธอเหมือนถูกตรึงเอาไว้ให้ขยับไปไหนไม่ได้

“ผู้หญิงที่ติดหนี้ฉันอยู่ร้อยล้าน กำลังจะหนีหรอเนี่ย” น้ำตาเอ่อล้นเต็มดวงตาก่อนจะไหลลงมา เธอกลัวเหลือเกิน

“ฉัน..ฉัน” อันนาหันหลังกลับพร้อมออกตัววิ่ง แต่มือหนาคว้าเอวเธอเอวไว้ก่อนจะดึงกลับมา

“ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ”

“เธอไม่มีสิทธิ์ร้องขอชีวิตกับฉัน” เสียงทุ้มตวาดดังลั่น ก่อนจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ร่างบางนั่งลงไปกับพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมา

“คุณจะฆ่าฉันหรอ หรือคุณจะขายฉันต่อ” อันนาเช็ดน้ำตาออกลวกๆ ก่อนจะยืนขึ้น

“ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันไว้ใจอะไรไม่ได้จริงๆ” มอร์แกนพูดก่อนจะคว้าแขนเธอให้เดินตามไป

“ปล่อยฉันนะ คุณจะทำอะไร” ไม่มีเสียงตอบรับเกิดขึ้น ร่างสูงพาเธอเดินมายังรถส่วนตัวก่อนจะจับเธอยัดลงไปในรถท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายของหญิงสาว

“หุบปากสักที ถ้าเธอไม่เงียบ ฉันจะฆ่าเธอจริงๆ ด้วย” แววตาจริงจังกับน้ำเสียงทุ้มทำให้อันนายอมสงบปากสงบคำ รถคันเดิมมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านหลังที่เธอเพิ่งจากมา เมื่อถึงจุดหมาย มอร์แกนกระชากร่างบางให้ลงจากรถก่อนจะเดินไปยังห้องโถง เขาเหวี่ยงเธอลงพื้นด้วยความโมโห

“อานันอยู่ที่ไหน” มอร์แกนตะโกนถามดังลั่น

“....” ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากเลยสักคน ลูกน้องทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ฉันถามว่าอานันอยู่ที่ไหน ไม่ได้ยินรึไง”

“ผมอยู่นี่ครับ” อานันที่เพิ่งลงจากรถ รีบวิ่งมาด้วยหน้าตาตื่นตระหนก

“ฉันเจอผู้หญิงคนนี้กำลังหนี ฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี” มอร์แกนถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย อานันก้มหน้าราวกับว่าสิ่งที่เขาทำกำลังนำหายนะมาเยือน

“ฉันขอให้เขาพาไปเอง” อันนาพูดขึ้นก่อนจะเดินไปหาอานัน

“เขาไม่ผิดอะไรเลย” เธอหันไปมองอานันที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่

“ผมทำหน้าที่บกพร่อง ผมสมควรได้รับโทษครับคุณมอร์แกน” เสียงแหบพร่าดังขึ้น ทำเอาอันนารู้สึกผิดตามไปด้วย ถ้าเธอไม่คิดหนีคงไม่เกิดเรื่องวุ่นแบบนี้

“ฉันผิดเอง ฉันขะ..”

“ฉันไม่ได้ถามเธอ” ร่างสูงมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา

“คนทำผิดต้องได้รับโทษ คงรู้นะว่าต้องทำยังไง”

“ครับคุณมอร์แกน” อานันเดินออกไปจากห้องโถงพร้อมลูกน้องของมอร์แกนอีกสี่ห้าคน อันนามองตามไปจนสุดสายตา นี่เขากะจะฆ่าจะแกงกันเลยรึไง

“อย่าทำอะไรเขานะ”

“เธอมีสิทธิ์พูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่คุณอานันเขาไม่ผิด ฉันขอให้เขาพาฉันไปเอง คุณอย่าทำอะไรเขาเลยนะ ฉันยอมรับผิดเอง คุณจะทำอะไรฉันก็ได้ จะขายฉันให้คนอื่นก็ได้” ร่างบางเช็ดน้ำตาที่ไหล่ออกมา เธอรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้เหลือเกิน

“ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่ได้ถามเธอ กลับไปที่ห้องเธอซะ แล้วอย่าคิดที่จะทำแบบนี้อีก” มอร์แกนพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไป อันนามองตามแผ่นหลังนั่นไป ทำไมเขาถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ ร่างบางเดินกลับมายังห้องเดิม เธอทิ้งตัวลงบนที่นอนก่อนจะถอนหายใจออกมา ทำไมชีวิตเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เธอลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อานันนำมาไว้ให้ ป่านนี้อานันจะเป็นยังไงบ้างนะ เพราะเธอแท้ๆ เขาถึงต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ จากคนใจร้ายอย่างมอร์แกน สักวันเถอะ เธอจะต้องหลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆ และคนบ้าๆ อย่างเขาให้ได้