คุณชายร้ายพ่ายรัก
รักโรแมนติก
คุณชายร้ายพ่ายรัก
รักโรแมนติก
Smile forever
เซน (คุณชายโรคจิต ปากแข็ง) เมื่อคุณชายผู้เหย่อหยิ่ง ผู้เกิดมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ หน้าตาที่หล่อร้าย เจ้าเล่ห์ เจ้าอารมณ์เป็นที่สุดแถมยังเป็นทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจบ่อน้ำมันในมหานครดูไบ ชอบกลั่นแกล้งดาหลาเพราะหมั่นไส้ในความหยิ่ง บังอาจมาลองดีกับเขา สุดท้ายก็ตกหลุมรักเด็กสาวชาวสลัมผู้แสนจิตใจดี หน้าตาสวยสะพรั่งราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย ทำตัวเป็นคนโรคจิตแอบด้อมๆ มองๆอยู่นาน ทว่าไม่กล้าบอกใคร เพราะศักดินาและเพื่อนฝูงบรรดาไฮโซทั้งหลายที่ล้อมรอบตัวอยู่ ทำให้ต้องปิดบังซ่อนเร้นความจริงอยู่นานแสนนาน “คนต่ำต้อยอย่างเธอ เด็กสลัมอย่างเธอ ไม่เคยอยู่ในสายตาฉัน”  ดาหลา (สาวน้อยผู้แสนอ่อนโยน) สาวน้อยดาหลา เกิดมาพร้อมรูปโฉม ความงามที่คลาสสิค ใครที่เผลอสบตาเป็นต้องหลงใหลหัวทิ่มหัวตำ แต่โชคร้ายเกิดมาในซอยสลัมอยู่กับแม่และยาย สาวน้อยผู้ขยันขันแข็ง ถูกคุณชายกลั่นแกล้งทุกครั้งที่มีโอกาส สาวน้อยผู้เดียวที่มองไม่เห็นความหล่อของคุณชาย “ฉันสนใจลูกแมวมากกว่าคุณ”
  • 12 ตอน
  • 1,885
นิยายโดย
  • 0 คนติดตาม
บทนำ

เด็กสลัม


ปลายฝนต้นหนาวในเดือนกันยายน เด็กหญิงวัยสิบห้าปีตื่นนอนตั้งแต่ตีห้าขะมักเขม้นช่วยแม่และยายเตรียมขนมหลากหลาย หน้าตาน่ากินแบบชาววังเพื่อไปขายในตลาด เช้ามืดวันนี้ฟ้าฝนช่างไม่เป็นใจเสียจริง ตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนทิ้งช่วงก่อนจะเข้าสูฤดูหนาว ดาหลากางร่มช่วยแม่ที่ถือถาดขนมห่อพลาสติกอย่างดีใส่รถเข็นคันเก่าคร่าคร่ำ จากนั้นทั้งสามคนช่วยกันเข็นอย่างทุลักทุเลไปที่ตลาดในซอย ห่างจากที่บ้านออกไปราวสามกิโลเมตร ตลาดสดผู้คนต่างมาจับจ่ายซื้อกับข้าวตั้งแต่เช้า ดาหลาในชุดนักเรียนตัวเปียกเพียงเล็กน้อยเพราะเอาพลาสติกขนาดใหญ่ห่อตัวเองไว้กันเปียก เธอช่วยแม่กับยายจัดร้านจนเสร็จใกล้เวลาหกโมงเช้า วันนี้แม่เธอผัดไข่ใสตำลึงใส่กล่องข้าวให้เธอไปทานที่โรงเรียนมื้อเที่ยง
เมื่อจัดร้านเสร็จแล้วดาหลากางร่มเดินไปรอรถเมล์ป้ายประจำหน้าตลาด ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เป็นแบบนี้มานานตั้งแต่เธอจำความได้ พ่อเธอเสียตั้งแต่เธอยังเล็ก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม่เธอเลี้ยงดูมาเพียงลำพังด้วยความยากลำบาก ปีนี้เป็นเทอมสุดท้ายมอสามหลังจากนี้ ดาหลาเตรียมตัวสอบเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง ทว่ากลับเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เป็นศูนย์รวมเด็กหัวกะทิเอาไว้ที่แห่งนี้มากมาย ลูกหลานใครที่ได้เข้าเรียนที่นี่ บรรดาพ่อแม่ต่างคุยฟุ้งอวดกันราวกับถูกล็อตเตอรีรางวัลใหญ่เลยทีเดียว วันนี้สอบเป็นวันสุดท้ายของเทอม หลังจากนี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์เธอต้องเตรียมตัวไปสอบชิงทุนเพื่อเข้าโรงเรียน เธอใฝ่ฝันอยากจะเข้าเรียนที่นี่ แต่เนื่องจากเข้าใจฐานะทางบ้านดี เธอจึงพยายามอ่านหนังสือเพื่อจะสอบเข้ารับทุนเรียนฟรีจนจบมอหกลดภาระค่าใช้จ่ายให้แม่ หลังสอบเสร็จ ดาหลา โบตั๋น ตะวัน สามสาวเพื่อนซี้เดินออกมาอย่างหมดเรี่ยวแรง

“นี่เหนื่อยกันไหมอ่ะ อยากนอนจัง” โบตั๋นเอ่ยบอกเพื่อนในสภาพตาโหลเนื่องจากอ่านหนังสือจนดึกดื่น ตะวันที่มีสภาพไม่ต่างกัน ดาหลาหันไปมองยิ้มๆ


“ไม่เหนื่อยหรอก แค่นี้เองยังไม่ได้ออกแรงอะไรเลย” เธออมยิ้มพูดแหย่เพื่อนซี้ สองสาวหันควับมามองเป็นตาเดียวกัน


“นี่ใครจะไปกระดูกเหล็กเหมือนเธอล่ะ พวกฉันต้องกลับไปนอนแล้ว แล้วเธอจะไปตลาดเลยเหรอ”


“อืม ฉันจะต้องไปหาแม่ก่อน ไปละนะ” พลางโบกมือให้สองสาว โบตั๋นกับตะวัน


ทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเด็ก โบตั๋นเองเป็นลูกคนจีน เถ้าแก่เจ้าของโรงสีในย่านไม่ห่างกันมากนัก และส่วนตะวันพ่อกับแม่เป็นเจ้าของห้องเช่าขนาดกลางแห่งหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วทั้งสองสาวก็นับว่ามีฐานะดีอยู่มากโข อยู่ได้แบบสบาย สามารถเรียนได้โดยไม่ต้องสอบชิงทุน

ดาหลาเดินมาในตลาด แม่ค้าที่รู้จักกันดี เห็นเธอมาตั้งแต่เป็นเด็กตัวเล็กๆ เอ่ยทักทายสาวน้อยเจ้าของดวงหน้าสวยหวานราวกับเจ้าหญิงซึ่งดูขัดกับฐานะที่เป็นอยู่ ผิวขาวอมชมพู ริมฝีปากอวบอิ่ม ใบหน้าได้รูป คิ้วโก่งได้รูป ผมดำหนาเหยียดตรงสลวยถูกมัดรวบ ดึงดูดสายตาผู้คนให้ชะงักนิ่ง เธอชินเสียแล้วกับการที่มีคนพากันมองมาด้วยความอิจฉาทั้งจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน และสายตาแทะโลมจากหนุ่มน้อยใหญ่


“แม่กลับมาแล้วค่ะ” น้ำเสียงใสเอ่ยเจื้อยแจ้วเหมือนอย่างเคย พัดชาหันมามองลูกสาวแล้วส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น เธอสอบให้ลูกพูดเพราะตั้งแต่ยังเล็ก อีกทั้งอบรมกิริยามารยาทให้ลูกสาวเพียงคนเดียวมาอย่างดี ดาหลาจึงเป็นเด็กที่รู้จักมารยาทการเข้าสังคม การแสดงสีหน้า กิริยามารยาทเรียบร้อยราวกับคุณหนูที่มาจากตระกูลผู้ดี จึงมีผู้ใหญ่หลายคนที่รู้จักกันต่างก็เอ็นดูเธอ อีกทั้งหน้าตาที่สวยสะพรั่งนั้นยิ่งเสริมให้เธอดูแตกต่างจากเด็กสลัมทั่วไป
“เหนื่อยมั้ยลูก” หันไปเอ่ยถามดาหลาที่ลงมานั่งหน้าร้านคอยขายของให้ลูกค้า เด็กหญิงสาละวนกับการจัดแจงกางหนังสือมาอ่านฆ่าเวลาในระหว่างขายของ
“ไม่เหนื่อยค่ะ สบายมาก แม่คะ วันมะรืน ดาหลาต้องไปสอบคัดเลือกทุนแต่เช้านะคะ” พัดชาได้ยินก็อมยิ้มมองไปทางลูก ดาหลาเป็นเด็กขยัน ตั้งใจเรียนเพื่อจะสอบชิงทุน เธอสอบได้ที่หนึ่งทุกเทอม ไม่เคยบ่นเหนื่อยหรือขี้เกียจให้ได้ยินแม้สักครั้ง เธอเองก็หวังอยากให้ลูกเรียนสูงๆ มีอนาคตที่ดี จึงทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำทุกวันไม่เคยหยุดพักแม้สักวันเดียว เก็บเงินไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูก เธอเองนั้นจะไม่เคยซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกมาหลายปีแล้ว แต่ดาหลาเองก็ไม่เคยเรียกร้องอยากได้อะไร นอกจากค่าอุปกรณ์การเรียนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเย็นมากแล้ว ขนมขายดีจนหมดเกลี้ยง ฝีมือการทำขนมของแม่และยายเธอนั้นอร่อยขึ้นชื่อ มีลูกค้าขาประจำมากมายมาอุดหนุนทุกวัน ดาหลาทยอยเก็บของลงในรถเข็นคันเล็กเก่าคร่ำ มือคู่สวยหยิบจับสิ่งอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานจึงเรียบร้อย ทั้งสามช่วยกันเข็นรถคันเล็กเดินลัดเลาะริมถนนในตลาด จนพ้นตลาดเดินมาเรื่อยๆ ตามทางคอนกรีต จนเลี้ยวเข้าซอยแคบคนในรถบนท้องถนนที่ขับผ่านต่างหันมอง หน้าตาที่สวยสะดุดของสาววัยแรกแย้ม เธอไม่เคยอายที่ต้องมาเข็นรถริมถนนแบบนี้ ถึงแม้จะโดนล้อมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็ไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อยแต่อย่างใด เธอห่อข้าวไปกินมื้อเที่ยงที่โรงเรียนทุกวันเพื่อประหยัดเงินเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น เมื่อเข็นมาถึงหน้าบ้านไม้สองชั้นขนาดเล็กที่หลังคามุงสังกะสีขึ้นสนิมมีรอยรั่วบางจุด หากฝนตกเมื่อใดก็ต้องกากระป๋องมารองน้ำ ประตูไม้แบบเก่าที่โยกเอนเล็กน้อยส่งเสียงดัง ..เอี๊ยดด..อ๊าด..เวลาเปิดเข้าเปิดออก ผนังเป็นไม้เก่าโบราณตีปะเป็นผนังไว้หนาแน่น แต่สีเก่าคล้ำลงตามกาลเวลา เธอเคยชินกับที่นี่มาตั้งแต่เกิด ด้านในมีโต๊ะไม้ตัวกลม มีเก้าอี้สามตัวสำหรับนั่งกินข้าว มีโต๊ะตัวยาวสำหรับวางสิ่งของเครื่องครัวถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้านล่างถูกแบ่งเป็นที่สำหรับทำขนมและกันหนึ่งห้องนอนแคบๆ เป็นห้องนอนของแม่และยายเธอ ส่วนชั้นเป็นห้องนอนดาหลาและห้องพระ แม่ดาหลาเคยเล่าให้เธอฟังว่า บ้านในซอยนี้ราคาถูก พ่อของเธอซื้อไว้ก่อนจะป่วยเสียชีวิต
เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วจึงลงมากินข้าวข้างล่าง กับข้าวง่ายๆ แม่เธอทอดชะอมใส่ไข่ มีปลาทูทอดละน้ำพริกกะปิ เธอชอบฝีมือการทำกับข้าวของแม่ และกับข้างบ้านๆ แบบนี้ที่สุด ถึงแม้จะไม่มีพ่อ แต่ดาหลาก็ไม่เคยรู้สึกขาดความรักแต่อย่างใด