บทนำ
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะเรียกจากหน้าประตูที่ดังเข้ามาภายในห้องเรียกให้นัยน์ตาคู่หวานผละออกจากการจับจ้องหน้าจอไอแพดที่ค้างอยู่ในโปรแกรมวาดรูปและหันไปมองประตู หญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาหวานละจากประตูกลับมาดูเวลาก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความฉงน
“ห้าทุ่มกว่าแล้ว ใครมาล่ะเนี่ย?”
มันค่อนข้างเป็นเรื่องชวนแปลกใจสำหรับ จิรชา ศรีสุริยกร หรือ ลูกเจี๊ยบ สถาปนิกสาวห้าวจนใคร ๆ ก็เข้าใจผิดว่าเป็นทอมผู้เป็นเจ้าของห้อง เธอพักอาศัยอยู่ที่ห้องนี้เพียงลำพังมานานกว่าห้าปีแล้ว แม้ว่าบางครั้งจะมีเพื่อนแวะมาบ้างแต่ก็ไม่เคยมีใครมาเคาะประตูในช่วงเวลานี้เลยสักคน...ใครกันน๊าที่มากวนเวลาเขียนแบบแปลนโปรเจกต์สำคัญของเธอ
ก๊อก ๆ
“ไปแล้ว ๆ” คนถูกเคาะประตูอีกครั้งเอ่ยทั้งที่ไม่รู้ว่าคนด้านนอกจะได้ยินหรือไม่ก่อนจะวางทุกสิ่งและรีบเดินไปเปิดประตู
ประตูห้องขนาดกว้างถูกเปิดออกในเวลาต่อมา ม่านตาสวยเบิกกว้างขณะทอดมองไปเบื้องหน้า ตรงหน้าของจิรชาคือหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยแต่ใบหน้าไร้รอยยิ้มที่ยืนกอดหมอนอยู่ ตาคู่หวานมองหญิงสาวที่อยู่ด้านนอกตาแทบไม่กระพริบก่อนจะถามออกไปด้วยความสงสัย
“เคท แกกอดหมอนมาทำไมเนี่ย”
“คือ...นอนคนเดียวแล้วรู้สึกแปลก ๆ อะ” คนมาเคาะประตูห้องกลางดึกเอ่ยพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกรงใจ “ขออยู่ด้วยได้มั้ยเจี๊ยบ”
“อยู่ด้วย?”
“อื้อ จนกว่าจะได้กลับบ้าน” หญิงสาวผู้มาใหม่ตอบกลับก่อนจะแทรกตัวเข้าไปภายในห้อง แม้ว่าลึก ๆ แล้วจะเกรงใจเจ้าของห้องแต่คริษฐา มาการิต้า อัศรากุลหรือเคทก็ตั้งมั่นแล้วว่าจากคืนนี้และหลังจากนี้จะมาอยู่ห้องนี้กับจิรชาให้ได้
จิรชามองตามร่างบอบบางแต่ทะมัดทะแมงที่ก้าวเข้ามาภายในห้องก่อนจะลอบถอนใจ คริษฐาเป็นเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่เล็กเพียงแค่มองแผ่นหลังเธอก็รับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายแล้ว
ก่อนหน้านี้คริษฐาอาศัยอยู่กับสามีและลูกชายบุญธรรม แต่อยู่ ๆ พ่อแม่ตัวจริงของลูกชายบุญธรรมก็กลับมาทำให้แม่ลูกบุญธรรมต้องแยกจากกัน มิหนำซ้ำผู้กองคีรินทร์สามีหนุ่มที่แต่งงานกันตามความต้องการของผู้ใหญ่ก็ขอหย่าทันทีที่เด็กชายคีรกรลูกชายบุญธรรมถูกพ่อแม่แท้ ๆ พาตัวไปอยู่ด้วยที่รัสเซียซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เป็นแม่
เพื่อนสาวของเธอตกพุ่มม่ายตั้งแต่อายุยังไม่สามสิบปีด้วยซ้ำ และยังเป็นการตกพุ่มม่ายที่ไม่ทันได้ตั้งตัวคริษฐาคงยังตั้งหลักไม่ได้จริง ๆ แม้ว่าจะรั้นออกจากบ้านมาซื้อคอมโดฯห้องข้าง ๆ ของเธอด้วยใบหน้ามุ่งมั่นแต่พอเอาเข้าจริงก็ยังไม่ชินที่ต้องอยู่คนเดียวสินะ
แหง่ล่ะ อยู่เป็นครอบครัวนอนเตียงเดียวกันมาตั้งห้าหกปีอยู่ดี ๆ ก็ต้องนอนบนเตียงคนเดียวใครมันจะไปชินกันล่ะ
“มาอยู่ด้วยกันได้นะ แต่แกต้องทำกับข้าวนะ” เจ้าของห้องสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานที่เธอวางงานทิ้งไว้ จิรชาไม่ได้ทำงานต่อ เธอทำเพียงบันทึกงานและปิดไอแพดกับจัดของบนโต๊ะให้เข้าที่ก่อนจะเดินมากอดคอเพื่อนสาวที่ยังยืนจ้องอยู่
“ปะ ไปนอนกัน พรุ่งนี้แกต้องไปทำงานวันแรกด้วย เดี๋ยวจะตื่นไม่ไหว”
การปลอบใจเพื่อนเป็นหน้าที่ของเพื่อนที่ดี จิรชาไม่เคยละเลยความรู้สึกของเพื่อน ๆ ดังนั้นแม้ว่าการมาของคริษฐาอาจจะทำให้การใช้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไปแต่หญิงสาวก็ยังไม่คิดจะทิ้งให้คริษฐาเศร้าอยู่ลำพัง โดยที่จิรชาไม่รู้เลยการมาของคริษฐาได้นำพาเรื่องราววุ่น ๆ มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของสาวห้าวที่ไม่คิดจะมีใครเข้ามาในชีวิตไปตลอดกาล...