จับรักมาขังใจ
รักโรแมนติก
จับรักมาขังใจ
รักโรแมนติก
สายฟ้าไปรับงานออกแบบให้โรงแรมแห่งหนึ่งแต่กลับต้องพัวพันกับสาวน้อย เพราะต้องคอยเธอแก้ปัญหาจนเขาต้องแสดงตัวเป็นเจ้าหนี้ใจโหด สุดท้ายก็ตัดสินใจยึดตัวไว้ใกล้ตัว!
  • 6 ตอน
  • 162
นิยายโดย
  • 1 คนติดตาม
บทนำ

สายลมเยือกเย็นที่เล็ดลอดช่องว่างลดเลี้ยวระหว่างผู้คนที่ยืนเบียดเสียดบนรถไฟพอจะช่วยให้ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าคมเข้มที่ยืนสะพายเป้ขนาดใหญ่พอได้หายใจออกบ้าง เขาขยับตัวและหันหน้าไปทางหน้าต่างเพื่อหวังจะได้อากาศจากภายนอกมาช่วยอีกสักเล็กน้อย

เขายืนกระสับกระส่ายเพราะความแออัด และเมื่อยล้าจากการยืนมาเป็นเวลานาน กว่าสองชั่วโมง จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากทุกสถานีที่ผ่านโดยไม่มีทีท่าว่าจะบางตาลงเมื่อใด

‘เฮ้อ! ไม่น่าดันทุรังเล้ย ขับรถมาเองก็สิ้นเรื่อง’

เขารำพึงอย่างอ่อนล้า ความปวดเมื่อยค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาจากปลายเท้าจนถึงไหล่ทั้งสอง

ไม่ถึงอึดใจต่อมาผู้คนรอบข้างเริ่มขยับตัวกันทั่วหน้า เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า สถานีข้างหน้าต้องเป็นสถานีหลักสักแห่ง แต่ก็ช่างเถอะ เขาเองก็ไม่มีแก่ใจจะคิดแล้วว่าถึงที่ไหน ขอแค่ให้มีที่นั่งเหลือบ้างก็พอ

รถเทียบชานชลาสถานีใหญ่ประจำจังหวัด คนกว่าครึ่งทยอยเดินลงบันไดเล็กๆ ข้างโบกี้เป็นแถวยาว ชายหนุ่มขยับตัวไปใกล้หน้าต่าง เขารีบหย่อนตัวลงนั่ง ก่อนจะสังเกตคนตรงหน้า

ที่นั่งบนรถไฟเป็นเก้าอี้ยาวสองตัวหันหน้าเข้าหากัน มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ต้องเปิดโดยดันกรอบกระจกลงด้านล่าง เขาเริ่มสังเกตเพื่อนร่วมทางตรงหน้า เสื้อยาวตัวใหญ่มีฮู้ดช่วยปกปิดให้เจ้าตัวหลบพ้นจากความสนใจของคนรอบข้างได้ดี กางเกงยีนส์ที่เข้มทรงกระบอกกับรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินดูทะมัดทะแมง ท่านั่งกอดเป้ขนาดใหญ่ทำให้เดายากนักหนาว่าหญิงหรือชาย ถัดจากหนุ่มเสื้อฮู้ดเป็นหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีน้ำตาล กางเกงผ้าสีดำทรงสุภาพ

‘เอาน่า คนนั่งใกล้ก็ดูท่าจะไว้ใจได้ ค่อยกล้านอนหน่อย’

เขาเลียนแบบท่าทางของหนุ่มฝั่งตรงข้าม เอาหัวพิงกรอบหน้าต่างกระจก สายตาทอดยาวทะลุกระจกบานกว้างที่เปิดไว้เพียงครึ่งออกไป


เปลือกตาที่แข็งขืนเริ่มจะทนการรุกรานของความปวดเมื่อยไม่ไหว เขาหลับตาลงช้าๆ ในขณะที่รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง เสียงฉึกฉักค่อยๆ แผ่วเบาลง ผสานกับลมที่พัดแรงผ่านเข้ามาทางช่องแคบยาวของหน้าต่างบานกว้าง ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มไป

“เอี๊ยด! ตึ้ง!”

แรงกระแทกจากสิ่งที่มาปะทะอย่างแรง ทำให้คางของเขาถึงทำชาไป เขาลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็พบว่ามีใบหน้าของใครอีกคนจ่ออยู่ตรงหน้า ร่างนั้นคร่อมร่างของเขาอยู่ ปากต่อปากทาบทับกันในท่าเฉียงเล็กน้อย ดวงตากลมโตของฝ่ายตรงข้ามเบิกกว้างอย่างตกใจสุดขีด

“โอ๊ะ!”

เธอผงะออกแต่ฮู้ดเสื้อตัวใหญ่ครอบหัวเขาอยู่ ทำให้หน้าของเธอเขากับยังอยู่แนบชิดกัน ปลายจมูกรั้นๆ ของเธอเบียดแนบอยู่กับจมูกโด่งคมสันของเขา ลมหายใจรดกันเบา

เขาสูดหายใจเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของหญิงสาวตรงหน้าเข้าไปเต็มปอด กลิ่นจางของแป้งเด็กผสมกับกลิ่นผิวของเธอ ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์

เธอดิ้นอยู่สักครู่ จึงเอามือสองข้างดึงฮู้ดที่คลุมหัวเขาอยู่ออก แต่กลับทำให้หน้าอกของเธอเบียดเข้ากับหน้าอกของเขา ด้วยความตกใจที่ร่างของเธอทับลงมือ สายฟ้าจึงอยู่ในท่าที่กอดเธอไว้

“อึ๊ยย....”

สิ้นเสียง ร่างเล็กนั้นผลักอกเขาเต็มแรง

“อ้าวคุณ คุณล้มทับผมเองนะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

อีกฝ่ายถลึงตาขึ้น ดวงตากลมโตมีประกายวาววามอย่างเอาเรื่อง

“คุณน่าจะระวังกว่านี้นะ”

“เหตุสุดวิสัยนะครับคุณ”

‘เขา’ แม้จะทำหน้าตาซื่อปนเย้าในที คิ้วหนาสั้นตัดเฉียงลงเท่าหางตา จมูกโด่งสวยได้รูป ริมฝีปากสีชมพูมีรอยหยักมุมปากดูราวกำลังยิ้มเยาะ

ผิวขาวจัดเกือบซีด ทำให้เขาดูแตกต่างจากคนรอบข้างอย่างชัดเจน แถมยังแขนขาที่ยาวเกะกะนี่เอง ประเมินได้ว่า เขาคงจะมีความสูงมากกว่ามาตรฐานชายไทยอยู่ไม่น้อย

แก้มขาวใสอมชมพูนั้นจึงยิ่งเพิ่มความเข้มขึ้นเป็นลำดับ เธอเสก้มลงเก็บเป้ที่ตกอยู่บนพื้น แล้วรีบก้มหน้างุดเดินหนีออกจากโบกี้ไป

“เฮ้! เดี๋ยวสิคุณ” เขาร้องตาม แต่ไม่ทันเสียแล้ว

หญิงสาวเอาฮู้ดขึ้นปิดศีรษะ เร่งจากไปด้วยความอาย

‘โอ๊ย! นี่มันจูบแรกของฉันเลยนะ’

เธอหยิบผ้าเช็ดหน้ามาถูริมฝีปากไปมา ไออุ่นจากริมฝีปากของเขายังติดตรึง กลิ่นโคโลญจ์อ่อนๆ จากผิวกายเขาที่เธอเผลอสูดเข้าไป

ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบหนี!