“เรื่องที่เกิดทั้งหมดนี้หากจะโทษก็โทษตัวท่านเถอะ”
เสียงหวานระคนความรู้สึกผิดดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ก่อนจะปรากฎเรือนร่างของสตรีนางหนึ่ง นางพูดกับบุรุษซึ่งนั่งคุกเข่าใบหน้าก้มต่ำ ยามเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาปรากฎสองตาแดงก่ำ บนใบหน้ายังมีคราบเลือดติดอยู่ดูน่ากลัวทำคนมองถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งพลันรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดเจือจางในอากาศ
สายตาที่เขาใช้จ้องมองนางไม่ใช่ความโกรธแค้นแต่เต็มไปด้วยความเวทนา
เวทนา? นางมีสิ่งใดให้เขาต้องเวทนากันเล่า หากจะกล่าวกันจริงๆ แล้วคนที่น่าเวทนาก็คือเขาต่างหากมิใช่หรือ
ไม่กี่วันก่อนน้องชายคนเดียวของเขาป่วยตาย ส่วนมารดาแม้ไม่ตายแต่ก็อยู่เหมือนตาย มีเพียงลมหายใจสูญสิ้นการรับรู้ทุกอย่างโดยสิ้นเชิง ส่วนตัวเขาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งซื่อจื่อ[1]แห่งจวนอ๋องกลายเป็นคนไร้ค่าในชั่วข้ามคืน
จู่ๆ สายฝนก็เทกระหน่ำ นางยืนมองเขาผ่านม่านสายฝนอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะใช้สองมือยกชายกระโปรงขึ้นแล้วหันหลังวิ่งออกไป นางหันกลับมามองเขาอีกครั้งก็เห็นสายตาของเขายังคงจ้องมองอยู่ที่นางทั้งที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดฝน
ชั่วขณะหนึ่งหัวใจของนางรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างประหลาด อาจเป็นเพราะนางรู้สึกผิด นางหยุดมองเขาครั้งสุดท้ายแล้วจึงตัดใจหันหลังให้เขา
เดิมเขาคือคู่หมั้นของนาง แต่หลายวันก่อนนางได้ถอนหมั้นกับเขาแล้ว และอีกไม่นานนางจะแต่งให้กับบุรุษอีกคน ผู้ที่ทั้งอ่อนโยนและแสนดีต่อนาง เรื่องราวทั้งหมดนี้จะโทษนางไม่ได้
ผู้ใดก็ต้องการแต่งกับบุรุษที่ดีทั้งนั้น ตัวนางเองก็เช่นกัน
ระหว่างนั้นนางก็ได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืด ทั้งรูปร่างและเสื้อผ้าที่หญิงสาวคนนั้นสวมใส่ดูแล้วช่างคุ้นตา กระทั่งแสงไฟจากที่ใดที่หนึ่งส่องกระทบใบหน้านั้นอย่างชัดเจน
“ทำไมเจ้าถึงได้อยู่ที่นี่?” นางขมวดคิ้วหลังจากถามออกไปด้วยความสงสัย
มีเพียงรอยยิ้มเย้ยหยันเป็นคำตอบจากฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่นางจะได้ถามหรือทำสิ่งใดก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางที่นางจากมา เสียงนั้นทำให้นางต้องหันหลังกลับไปมอง
“ซื่อจื่อตายแล้ว”
นางวิ่งกลับมาเห็นร่างของอดีตคู่หมั้นของนางล้มลงนอนอยู่กับพื้น หัวใจพลันเจ็บปวดคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นล้วงเข้ามาบีบเสียจนร่างของนางสั่นเทา
‘เป็นนางที่ทำร้ายเขา’ เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างใน
‘ไม่ใช่’
นางมิได้ตั้งใจอยากให้เรื่องราวลงเอยเช่นนี้ นางทรุดกายลงแล้วเอื้อมมือเล็กๆ ของนางออกไป ใช้ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมยาวสยายที่เปียกชุ่มด้วยสายฝนออกจากใบหน้าของเขา
ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาบัดนี้ขาวซีดราวกับกระดาษ เลือดสีแดงฉานทะลักออกจากปากไหลเป็นทางไปกับหยาดฝน ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงตาดำของเขาคล้ายกำลังจ้องมองมายังนาง
“ข้าขอโทษ” เสียงแผ่วเบาของนางพูดกับเขาเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจแผ่วเบาที่ปลายนิ้ว - เขายังไม่ตาย
“ทำไมเจ้าต้องทำเช่นนี้ด้วย เจ้าได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ปล่อยเขาไปไม่ได้หรือ?”
นางหันหลังกลับไปถามชายหนุ่มอีกคน เขาคือ คนที่ทำให้นางละทิ้งคู่หมั้นของนางเพื่อที่นางจะได้แต่งกับเขาอย่างไม่มีอุปสรรค ทว่าเขาไม่ตอบคำถามของนาง เขาทำเพียงใช้ดวงตาอ่อนโยนของเขา
ไม่สิ! ในตอนนี้มันไม่อ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้งที่มองนาง มันกลับเย็นชาเจือจางความรู้สึกหนึ่งที่ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา นางไม่อยากสบดวงตาคู่นี้ของเขา นางจึงหันหลังให้เขา
“ระวัง” เสียงแหบอ่อนของคนที่กำลังจะหมดลมหายใจร้องเตือน
ฉับพลันนางรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผ่นหลังก่อนจะค่อยขยายออกไปทั่วร่าง นางจึงค่อยๆ ก้มใบหน้าลงมองเห็นส่วนปลายดาบแหลมคมโผล่ออกมาจากช่องอก นางส่งเสียงไอสองทีสายธารสีแดงก็ทะลักออกจากปาก
นางพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดที่แทรกซึมทุกอณูในร่าง ค่อยๆ หันกายกลับไปมองก็เห็นเขา คนที่บอกชอบนางและจะแต่งกับนางหลังจากที่ช่วยให้เขาได้เป็นซื่อจื่อแห่งจวนอ๋อง... เขายืนนิ่งมือข้างหนึ่งของเขาถือดาบปลายของมันอาบชุ่มด้วยหยาดโลหิต
ซึ่งจะเป็นของใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ของนาง
“ทำไม?” นางยังอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ และเหมือนเดิมเขาไม่ตอบคำถามของนาง แต่ถึงเขาไม่ตอบนางคิดว่านางพอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ เมื่อนางเห็นหญิงสาวผู้นั้นเดินเข้ามา
ทันทีที่เขาเห็นหญิงสาวคนนั้นใบหน้าเย็นชาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาอย่างทันที ในตอนนี้เองสมองอันโง่เขลาของนางก็เข้าใจเรื่องราวรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ไม่คิดเลยว่าสองคนที่นางไว้ใจจะทรยศหักหลังนางเช่นนี้ คนหนึ่งคือชายหนุ่มที่นางหวังเคียงคู่จนผมขาว อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของนางนั่นเอง
“ฮ่า ฮ่า” นางเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ข้ามอบความจริงใจให้พวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับทำกับข้าเช่นนี้รึ”
นางไม่อยากมองพวกเขาแล้ว ตอนนี้นางรู้สึกผิดกับชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นของนาง นางก้มลงมองใบหน้าขาวซีดริมฝีปากของเขาขยับน้อยๆ นางได้ยินเสียงแหบอ่อนจากเรียวปากนั้นร้องเรียกชื่อของนาง
“...โจว...เยว่...ซิน...”
กระทั่งลมหายใจสุดท้ายเขาก็ยังเป็นห่วงนาง
หัวใจของนางเจ็บปวดด้วยความรู้สึกผิด ที่เขาเป็นอย่างนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะนางนั่นเอง คนโง่เขลาอย่างนางไม่สมควรได้รับความจริงใจจากเขา
“ซื่อจื่อข้าขอโทษ” นางพร่ำขอโทษพร้อมกระอักเลือดออกมาคำโต หากนางจะตายนางก็ไม่เสียดาย เพียงแต่นางอยากขอโอกาสให้เขาสักครั้ง จะต้องแลกกับวิญญาณของนางก็ยอม นางยอมทุกอย่าง ขอโอกาสให้ชายหนุ่มผู้นี้ด้วย ขอให้เขาได้มีชีวิตอยู่ ได้พบเจอคนที่รักเขามิใช่คนไร้หัวใจเช่นนาง
สายฝนหยุดตกไปนานแล้ว ยามเมื่อใบหน้างดงามแหงนมองขึ้นบนฟ้า จึงเห็นแสงจันทร์อย่างชัดเจน ดวงตามุ่งมั่นมองขึ้นไปบนนั้นจ้องมองบนดวงจันทร์กลมโต หัวใจที่กำลังเต้นแผ่วเบาของนางเฝ้าอ้อนวอนขอให้นางได้มีโอกาสชดใช้ความผิดในครั้งนี้ด้วย โจวเยว่ซินเฝ้าอธิษฐานจนลมหายใจสุดท้าย
ขอให้นางได้มีโอกาสชดเชยความผิดในครั้งนี้
ทว่า...เรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป
เขาตายแล้ว และนางก็ถูกฆ่าตายเช่นกันจากน้ำมือของบุรุษที่นางเลือกเอง
[1] ซื่อจื่อ คือ ตำแหน่งทายาทผู้สืบทอดของเชื้อพระวงศ์และขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์