“ถือว่าหายกัน... เมื่อวานผมล้มลงแล้วไปจุ๊บปากคุณพอดี วันนี้คุณก็ทำแบบนั้นกับผม” แม็กซิมัสยักคิ้วอย่างกวนๆ ให้เธอ
“คนทุเรศ!” นาริกานต์อยากชกปากเขาให้เลือดกบปาก
“เอ๊... หรือว่าคุณอยากจุ๊บปากผมอยู่แล้ว แต่แกล้งทำเป็นล้มมาทับตัวผม ช่างกะตำแหน่งได้เป๊ะจริงๆ นะ” เขาเลียนแบบคำพูดในท้ายประโยคที่เธอใช้พูดกับเขาเมื่อวานนี้ แม้จะไม่เหมือนกันทุกถ้อยคำ แต่ก็ทำให้นาริกานต์สะสมความเจ็บใจเพิ่มมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
@@@@@@
แม็กซิมัสยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของนาริกานต์ ใจจริงก็อยากจะหอมแก้มข้างขวา แต่ติดตรงที่มีไอศกรีมกั้นกลาง
สัมผัสเย็นๆ จับที่แก้มซ้ายนั้นทำให้นาริกานต์ลืมตาพึ่บ ความโกรธกรุ่นสะท้อนออกจากแววตา เธอจับแก้มข้างนั้นแล้วถูแรงๆ อย่างรังเกียจ
“มันจะมากไปแล้วนะ” นาริกานต์พูดลอดไรฟันแล้วเอาไอศกรีมยัดใส่ปากคนที่ขโมยหอมแก้มเธอ
แม็กซิมัสไอค่อกแค่ก เพราะโคนไอศกรีมติดอยู่ที่คอ “สาวน้อย... คุณนี่... สะ...แสบชะมัด”
“สมน้ำหน้า” นาริกานต์เพิ่มความสะใจด้วยการยัดไอศกรีมที่เขาถือไว้ใส่ปากเขาอีกอันหนึ่งแล้วมองดูผลงานชิ้นโบแดงด้วยความภาคภูมิใจ
@@@@@@
นาริกานต์รู้ว่าแม็กซิมัสจะขออะไร จึงพูดแทรกขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องรักษามารยาท “กลับไปซะเถอะค่ะ อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันและลูกของฉันอีกเลย”
“ลูกของผมด้วย” แม็กซิมัสพูดได้ไม่เต็มเสียง
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน ฉันข้องเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น เขาคนนั้นเป็นพ่อของลูกฉัน”
@@@@@@
“แม่นาวขา... หนูคิดถึงแด็ดดี้จังเลยค่ะ” เดือนเมษาพูดขึ้นก่อนที่นาริกานต์จะออกไป
“แด็ดดี้ก็คิดถึงเอพริลเหมือนกันค่ะ” นาริกานต์รู้ว่าความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอพูด แต่จำเป็นต้องโกหกเด็กน้อย เธอลูบแก้มเดือนเมษาเบาๆ สายตามองลูกสาวด้วยความสงสาร
“หนูอยากกอดแด็ดดี้มากที่สุดในโลก” เดือนเมษาบอกความรู้สึกผ่านน้ำเสียงที่คนฟังแล้วรู้เลยว่าเต็มไปด้วยความโหยหา
นาริกานต์นั่งลงบนเตียง ดึงลูกสาวมากอด ลูบผมลูบหลังด้วยความสงสารเดือนเมษา
@@@@@@