รวมเรื่องสั้น (ซ่านอารมณ์)
แรงชัดจัดเต็ม
รวมเรื่องสั้น (ซ่านอารมณ์)
แรงชัดจัดเต็ม
พิณแห่งรัก
ความรักอันร้อนรุ่มดุจไฟเผาทรวง
  • 3 ตอน
  • 6,273
นิยายโดย
  • 2 คนติดตาม
บทนำ

เมื่อเขาและเธอที่เปรียบดั่งเปลวไฟมารวมตัวกัน

ความร้อนระอุซาบซ่านอารมณ์เกิดห้ามใจไหวก็บังเกิด

กายเปลือยเปล่าได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง...

เมื่อใจนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยรักและปรารถนา

.............................

นิยายชุดนี้เป็นเรื่องสั้นหมดทุกเรื่อง พิณจะลงตัวอย่างให้อ่านฟรีถึงบทที่ 4 เท่านั้นนะคะ


ล่าสวาทรักร้อน

Chapter 1

เหล่าบรรดาชายงามเดินอวดรูปร่างบึกบึนอยู่บนเวทีที่ประดับไปด้วยแสงสีให้เข้ากับบรรยากาศภายในร้านบีสตาร์ผับ B Star Pub สถานบันเทิงสำหรับนักท่องราตรีชาวสีม่วงและเหล่าสาวขี้เหงาที่ต้องการความแปลกใหม่ เร่าร้อน ดุดัน

ผับแห่งนี้เป็นผับสุดฮิตของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีดีเจมืออาชีพคอยเปิดเพลงสนุกๆ โยกมันเร้าอารมณ์ไปกับแสงสีวูบวาบรัญจวนใจ หรือจะหัวเราะสังสรรค์ เฮฮาปาร์ตี้ในกลุ่มเพื่อนฝูงขณะนั่งชมโชว์หลากหลายที่มีบริการกันทุกคืนโดยเฉพาะโชว์ความใหญ่ล่ำของหนุ่มๆ ด้วยแล้ว ช่างถูกใจลูกค้าภายในร้านจริงๆ

แน่นอน ที่บีสตาร์ผับย่อมมีดาวเด่นประจำซึ่งค่าตัวแพงหูฉี่ เขาคือชายที่ทุกคนหมายปอง ไม่ว่าจะเป็นเก้งกวางหรือหญิงแท้ แม้กระทั่งสาวประเภทสอง ดังนั้นแต่ละคืน ซีอัลโซ่ หนุ่มเชื้อสายอังกฤษ วัย27ปี ต้องรับแขกไม่ต่ำกว่าห้าคนเลยทีเดียว ส่วนลูกค้าที่รับเขาจะเป็นคนเลือกเองเพราะทางร้านไม่ได้บังคับอะไร ก็เขาคือตัวกวักเงินกวักทองเข้าร้านนี่นา จึงต้องตามใจประหนึ่งเทพบุตรก็ไม่ปาน

“ซีสุดหล่อจ๋า คือนี้ไปค้างกับพี่นะคะ” แองจีนาเดินไปกระซิบข้างหูชายหนุ่มขณะที่เขากำลังหย่อนก้นลงนั่งลงบนโซฟาโซนวีไอพี การแต่งกายของเขาจะเนี้ยบตามสไตล์และไม่ต้องขึ้นโชว์ตัวเหมือนคนอื่น เพราะคิวนั้นยาวเหยียดทุกวันแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลยทีเดียว

“นับว่าเป็นเกียรติของผมที่ได้ให้บริการเลดี้แองจีนา” น้ำเสียงนุ่มลึกเอ่ยบอกพลางกุมมือหล่อนไว้ ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หลังมืออย่างอ่อนโยน

“ถ้าเช่นนั้นเราออกไปเลยดีไหม คืนนี้พี่เหมายันเช้า...” สาวใหญ่วัย45ใจร้อนรีบออกปากชวนทันที อยากลิ้มลองชายหนุ่มวัยกำลังน่ากินใจจะขาด

“คนสวยมักเป็นแบบนี้เสมอ แต่ผมคงให้ได้แค่สองชั่วโมงนะครับ เพราะคิวแน่นทั้งคืน”

“ว้า! เสียดายจัง...”

“สองชั่วโมงก็ไม่น้อยนะผมว่า ไปกันเถอะครับจะได้ไม่เสียเวลา” ซีอัลโซ่ลุกขึ้นยืนพร้อมยื่นมือให้แองจีนาจับ

“ที่คอนโดฯ ของพี่นะ เพราะมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน”

“ผมตามใจลูกค้าเสมอ... เชิญครับเลดี้คนสวย” เขาโค้งศีรษะลงนิดหนึ่งพลางผายมืออีกข้างเป็นการเชื้อเชิญ แต่แองจีนาเลือกที่จะเกาะแขนของซีอัลโซ่เดินออกจากผับไปพร้อมๆ กัน ท่ามกลางสายตาอิจฉาของหนุ่มเก้งกวางทั้งหลายที่หมายปองเขาอยู่

“มองซีตาเป็นมันเชียวนะแก” วิลแฮม หนุ่มใหญ่วัย 35 ปี โน้มมากระซิบกระซาบมองเตเพื่อนคู่เกย์คนสนิทอย่างรู้ใจ

“นายก็รู้ว่าฉันหลงรักซีมานานแล้ว แต่เขาไม่สนฉันเลยสักนิด” มองเตกล่าวน้ำเสียงห่อเหี่ยวอย่างที่สุด

“ใช้เงินซื้อสิวะไม่เห็นยาก”

“ซีเขาเลือกนะถ้าเป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างฉันไม่กล้าด้วย”

“ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ หรือว่านายไม่อยากได้ซีล่ะ”

“ฉันอยากเป็นของเขาใจจะขาด”

“ถ้าอย่างนั้นนายควรเดินหน้าลุยได้แล้ว ไม่ใช่มานั่งเฝ้าโดยที่ไม่ได้ลิ้มลองสักที ดูท่าจะใช่เล่น”

“เห็นแอนนิต้าบอกว่าเก่งสุดๆ พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก” มองเตกล่าวพลางแลบลิ้นออกมาเลียที่ริมฝีปาก แววตานั้นพราวระยับเชียวเมื่อจินตนาการถึงรูปร่างบึกบึนในยามไร้ซึ่งอาภรณ์ห่อหุ้มของชายที่ตนหมายปอง

“ถ้าซีตกลงฉันขอร่วมวงด้วยได้หรือเปล่า” วิลแฮมเองก็แอบสนใจซีอัลโซ่อยู่ไม่น้อย คนอะไรหล่อเหลาดูดีหาที่เปรียบ

“ให้ฉันได้ชิมก่อนค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ไปหาตัวช่วยแก้ขัดกันดีกว่า คนกล้ามใหญ่กางเกงในสีแดงก็ดูดีใช้ได้” พูดจบ มองเตก็เดินตรงไปยังเวทีที่หนุ่มๆ กำลังยืนโชว์อยู่เพื่อพาคนที่หมายตาไปขึ้นสวรรค์ ส่วนวิลแฮมเองก็มีเด็กเคยใช้บริการอยู่ประจำ ท่วงท่าลีลาก็พอได้ แม้จะไม่บึกบึนมากเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เด็กนั่นเอาใจเก่งที่สุดจึงไม่แปลกที่เขาจะหิ้วขึ้นห้องเป็นประจำ

ในผับจะมีห้องพิเศษให้บริการสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการเหมาเด็กออกจากร้าน จะคิดเป็นรายชั่วโมงเท่านั้นซึ่งประหยัดกว่าเห็นๆ และส่วนมากมักจะเป็นคนที่นิยมไม้ป่าเดียวกัน โดยต้องการความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเน้นบรรยากาศมากเหมือนกับลูกค้าผู้หญิงขี้เหงาและทรวงแรงเหล่านี้

สาวใหญ่วัย 45 นอนบิดเร้าร่างกายอยู่บนเตียงอย่างเสียวซ่านปนตื่นเต้น ข้อมือของหล่อนถูกล็อกกุญแจติดกับเสาตรงหัวเตียงเพื่อความแปลกใหม่ตามที่ตนอยากลิ้มลอง ดวงตาคู่เฉี่ยวเบิกกว้างเมื่อเจ้าของร่างกายบึกบึนนั่งคร่อมบนหน้าอกหล่อน แองจีนาจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ผ่านชายมาก็เยอะ แต่ไม่เคยพานพบผู้ใดที่มีเกินตัวมากมายเช่นนี้

“ทำตามที่ใจคุณปรารถนาสิครับ” ซีอัลโซ่บอกอย่างรู้ใจ ก่อนจะหลับตาลงเมื่อปลายลิ้นอุ่นชื้นของคนใต้ร่างสัมผัสตน เคล้าคลึงทรวงอกใหญ่ที่ผ่านการศัลยกรรมมาอย่างเบามือ เพราะเขารู้ดีว่าไม่ควรออกแรงมากไป จะเน้นเขี่ยตรงยอดประทุมถันเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านให้กับหล่อนแทน

“ช่วยพี่ด้วยสิซีจ๋า” แองจีนาละปากออกพลางบอกความต้องการ และเขาก็ตอบสนองทันที ทั้งคู่ต่างลากปลายลิ้นเชยชิมของกันและกันอย่างรัวเร็ว นิ้วมือยาวทำหน้าที่ล้วงล้ำเข้าไปมอบความสุขให้หล่อนประกอบกับกระดกลิ้นสัมผัสจุดอ่อนไหวอย่างกระชั้น แองจีนาแอ่นบั้นท้ายรับการปรนเปรอ และหล่อนเองก็ผงกหัวขึ้นลงในจังหวะที่เร็วเช่นกัน ทั้งคู่ทำแบบนี้อยู่นานจนกระทั่งสามารถส่งอีกฝ่ายไปถึงสวรรค์ได้

“เดี๋ยวผมจะไขกุญแจมือให้ แล้วเราก็ไปต่อกันที่ห้องน้ำนะครับ” ซีอัลโซ่เอ่ยบอกเมื่อบทรักทางการสัมผัสรอบแรกจบลง เขาไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยเหมือนกับแองจีนาที่นอนแผ่อ่อนระทวยอยู่บนเตียง

“ซีไปเปิดน้ำรอก่อนนะคะ ขอพี่นอนพักสักครู่”

“รีบตามเข้ามานะครับเลดี้ เพราะตอนนี้หัวใจของผมมันร่ำร้องว่าต้องการคุณ” คำพูดของชายหนุ่มทำให้แองจีนาฮึดสู้ขึ้นมา หล่อนดีดตัวลุกนั่งอย่างรวดเร็ว แล้วพาร่างเปลือยเปล่าที่อวบอิ่มตามเข้าไปยังห้องน้ำ

ภาพชายหนุ่มกำลังยืนหันหลังล้างเนื้อตัว บั้นท้ายของเขาแน่นเปรี๊ยะน่าฟาดมือลงไปแรงๆ สักครั้ง

“นี่แนะ! คนอะไรฟิตทั้งตัว” ในที่สุดหล่อนก็ทำตามที่ใจคิด

“คุณเองก็ยังดูดีแตกต่างจากอายุมากนะครับ” คนปากหวานกล่าวชมเพื่อให้อีกคนรู้สึกพึงพอใจ

“พูดแบบนี้ไม่รักไม่หลงก็โง่แล้ว” แองจีนาตรงเข้าไปประชิดพลางดัดเสียงออดอ้อน ขาของหล่อนตวัดเกี่ยวรอบเอวสอบข้างหนึ่ง วงแขนเรียวโอบกอดรอบคอแกร่งไว้มั่น

“ไม่ลงอ่างเหรอครับเลดี้”

“ไม่จ้ะ พี่ชอบอะไรที่แปลกใหม่ ถ้าเธอทำให้พี่ร้องครวญครางออกมาได้เอาไปเลย 1000 ปอนด์

“เช่นนั้น...” ชายหนุ่มไม่พูดจนจบวลี แต่กลับถาโถมเข้าไปรวดเดียว แองจีนาถึงกับร้องออกมาสุดเสียง หล่อนรับรู้ถึงความอัดแน่นโดยที่ไม่ได้รู้สึกเช่นนี้มานานแล้วเพราะภายในหย่อนยานหมด โชคดีซีอัลโซ่พกพาความเป็นชายมามากกว่าคนอื่น หล่อนจึงได้ลิ้มรสถึงความเป็นสาวอีกครั้ง

“แบบนี้ชอบไหมเลดี้...” เขาเริ่มโยกกายด้วยจังหวะเนิบนาบพลางเอ่ยถาม

“แรงและเร็วสิ มันค่อยถึงใจถึงอารมณ์หน่อย”

“จัดไป...”

“ใช่เลยสุดหล่อ” ดูแองจีนาจะนิยมความรุนแรงมาก เท่าไหร่หล่อนก็ไม่รู้สึกพอ ทำให้ซีอัลโซ่ตัดสินใจใช้ท่วงท่าที่เขาถนัด คือการจับหล่อนหันหน้าเข้ากำแพงและกระหน่ำจ้วงสุดแรงเกิดจนแองจีนาหวีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อสามารถเด็ดดวงความสุขได้ เสียงหายใจหอบแรงดังแข่งกับหยาดน้ำที่ไหลจากฝักบัวกระทบกับพื้นหินอ่อนแทบจับจังหวะไม่ถูก

ครั้นล้างตัวเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ก็ไปต่อกันที่เตียงจนครบสองชั่วโมงที่แองจีนาได้จ่ายไว้กับทางร้าน

“เธอนี่สุดยอดจริงๆ” หล่อนเอ่ยชมชายหนุ่มตัวโตที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้าด้วยน้ำเสียงสุดเซ็กซี่

“ถ้าชอบวันหลังก็มาใช้บริการอีกนะครับ”

“แน่นอนจ้ะซี นี่คือเช็คที่พี่รับปากว่าจะให้ รับไปสิ”

“ขอบคุณครับเลดี้แองจีนา ให้ผมไปส่งที่รถนะครับ”

“ใจจริงอยากให้ไปส่งถึงบ้านด้วยซ้ำ แต่กลัวลูกๆ จะหัวใจวายที่เห็นแม่ควงคนหล่อ” ดูหล่อนมีอารมณ์ขันอยู่เหมือนกัน นึกว่าจะหื่นเป็นอย่างเดียวซะอีก

“คุณนี่น่ารักจริงๆ เชิญครับเลดี้” ซีอัลโซ่เปิดประตูให้ พร้อมผายมือเชื้อเชิญแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่

หลังจากยืนมองท้ายรถยนต์คันโก้ไปจนลับตาแล้ว เขาจึงหยิบไอโฟน ออกมาจากกระเป๋าแล้วเลื่อนไปที่หน้าบันทึก ก่อนจะพิมพ์ตัวเลขลำดับที่สามพันแปดร้อยลงไปตรงตารางหัวข้อที่เขียนว่าล่าสวาทพร้อมกดบันทึกแล้วเก็บลงกระเป๋ากางเกงเช่นเดิม

“นี่เราฟันลูกค้าได้เยอะขนาดนี้เชียว แต่เพื่อสิ่งสำคัญฉันจะต้องชนะแกให้ได้ไอ้แมงดานิสัยระยำ” ครั้นนึกถึงพ่อเลี้ยงตัวแสบที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับตนเขาถึงกับขบกรามแน่น อยากให้หมอนั่นเลิกกับมารดาใจจะขาด แต่แม่ของเขาหลงมันมากจนไม่ฟังคำเตือนจากใคร

ดังนั้นซีอัลโซ่จึงทำทุกวิถีทางเพื่อแยกมารดาออกจากตัวดูดเลือดนั่นซะ วันๆ มันไม่ทำอะไร ดีแต่ขอเงินที่เขาให้แม่มาใช้เที่ยวผู้หญิงและเล่นการพนัน ที่ชายหนุ่มต้องรับลูกค้ามากมายขนาดนี้ก็เพราะคำท้าเพื่อแลกกับการที่มันจะยอมออกไปจากชีวิตแม่ แน่นอนซีอัลโซ่จะต้องทำให้ได้เป้าก่อนสิ้นปี ซึ่งก็เหลืออีกแค่สี่เดือนเท่านั้นเอง แม้จะเหน็ดเหนื่อยร่างกายสักเพียงไรเขาก็ต้องทำ เพราะงานนี้รายได้ดี ขืนไปทำงานบริษัทเหมือนคนอื่นคงจะไม่พอให้มารดาเอาไปเลี้ยงผู้ชายอย่างแน่นอน

“ซานฟาจ๋า อย่าเพิ่งไปได้ไหมเมียขอร้อง” ลิเดียสาวใหญ่วัยห้าสิบปีนั่งราบกับพื้นบ้านกอดขาสามีหนุ่มไว้แน่น นานๆ เขาจะมาหาที มีหรือที่นางจะยอมให้กลับง่ายๆ

“อย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหมลิเดีย ผมต้องรีบไปเสี่ยงโชค” ซานฟาตะคอกด่าภรรยาแก่ พร้อมสลัดขาแรงๆ แต่นางเกาะหนึบเป็นปลิงเชียว

“อยู่ค้างกับเมียสักคืนนะ ถ้าซีกลับมาเมียจะขอเงินให้อีก” เพื่อสามีเด็กนางทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเงิน

“มันจะให้เหรอ ไอ้ซีเกลียดขี้หน้าผมจะตาย ปล่อยเถอะครับ ผมเองก็ไม่อยากเจอมันตอนนี้ เบื่อจะมีเรื่อง”

“ผัวก็ขึ้นไปนอนรออยู่บนห้องก่อน รับรองได้เงินก้อนใหญ่แน่ หรือว่าผัวไม่อยากมีเงินไปเสี่ยงโชคเยอะๆ ล่ะ” ลิเดียยังคงไม่เข็ดหลาบกับผู้ชายคนนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เคยรักและจริงใจด้วย แต่ก็ยังเหนี่ยวรั้งไว้ด้วยน้ำเงินที่ได้มาจากการขายเรือนร่างของบุตรชาย

“ถ้าไม่ได้ล่ะน่าดู ไปสิจะจัดให้สักดอก!” ได้ยินคำพูดประโยคนี้ นางถึงกับยิ้มร่าเชียว เลือดในกายเริ่มสูบฉีดแรง นางกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องนอนของตน เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีอัลโซ่เปิดประตูเข้ามาพอดี เขาถอนหายใจแรงเมื่อเห็นรองเท้าหนังของซานฟา

“มันมาผลาญเงินแม่อีกแล้วล่ะสิ เมื่อไหร่ฉันจะล่าแต้มครบสักที”

เขาบ่นพึมพำ เข้าไปในห้องครัวก็พบถ้วยชามวางกองกันเต็ม ไหนจะขวดเบียร์อีกนับโหลที่รอให้เขาจัดการ นี่ชายหนุ่มต้องทำงานบ้านหนักขนาดนี้เชียวหรือ ถ้าลำพังแค่มารดาเขาจะไม่บ่นเลยสักนิด แต่คนที่ทิ้งร่องรอยความมักง่ายไว้คือคนที่เขาเกลียดด้วยนี่สิ มันเป็นอะไรที่ลำบากใจมาก

“จ้างคนใช้เลยดีไหม!” ปากก็บ่นไม่หยุด ส่วนมือนั้นล้างถ้วยชามอย่างทะมัดทะแมงเพราะทำอยู่เป็นประจำทุกวัน ใจซีอัลโซ่อยากจะจ้างคนใช้ แต่ติดที่ว่าลิเดียไม่ชอบให้ใครมาอยู่ร่วมบ้าน เพราะนางขี้ระแวงเวลาสามีกลับมา กลัวจะคว้าสาวใช้ทำเมีย สุดท้ายคนที่ลำบากก็ต้องเป็นชายหนุ่มอยู่ดี เขารับแขกมาก็เหนื่อยมากพอ ยังต้องทำงานบ้านอีก กว่าจะได้งีบคงเกือบสาย ชีวิตของซีอัลโซ่จึงมักจะใช้ในยามกลางคืน ส่วนกลางวันก็นอนเอาแรงเพื่อใช้งานบนเรือนร่างของลูกค้า อยากเลิกอาชีพนี้ใจจะขาด แต่ติดที่มารดาใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยมาก หามาได้เท่าไหร่นางก็เอาไปหมด แต่หน้าที่ของลูกคือตอบแทนบุญคุณผู้ให้กำเนิด แม้นางจะทำตัวไม่ดีขนาดไหนเขาก็รักและห่วงใยเสมอ ทางเดียวที่ทำได้คือกำจัดตัวปลิงดูดเลือดออกไปก่อน

“โอ้ว!! สุดยอดผัวจ๋า” เสียงร้องของลิเดียดังมาถึงชั้นล่างเชียว นางคงจะมีความสุขมากจึงแหกปากขนาดนี้ คงยังไม่รู้ว่าลูกชายกลับมาแล้ว

“อะไรจะปานนั้นแม่ หลงไอ้ซานฟาจนไม่ลืมหูลืมตา ท่าจะแยกออกจากกันลำบาก” ซีอัลโซ่ส่ายหน้าพลางเก็บถ้วยชามที่ล้างไปคว่ำไว้อย่างเป็นระเบียบ แล้วก้มลงเก็บขวดเบียร์ใส่ถุงพลาสติกให้เรียบร้อย

“ไปนอนโรงแรมดีกว่า ขืนอยู่ต่อมีหวังแม่มาขอเงินไปให้ผัวเด็กแน่ๆ” ว่าแล้วก็รีบเผ่นออกไปจากบ้านทันที ก่อนจะสตาร์ทรถเก๋งคู่ใจขับจากไปด้วยความเร็ว ระหว่างทางเขามองเห็นผู้หญิงเดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนนท่าทางคล้ายจะเป็นลม ซีอัลโซ่ไม่ลังเลที่จะจอดรถเพื่อลงไปถามไถ่

“คุณมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ”

“ชะ...ช่วยรับฉันไปด้วยนะคะ ฉันกลัวเหลือเกิน” น้ำเสียงของเธอสั่นเทา ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงราวกับถูกทำร้ายมา ชายหนุ่มไม่ซักถามเธอมากไปกว่านี้ ที่ต้องทำคือพาไปโรงพยาบาลเสียก่อน

“ไปให้หมอตรวจร่างกายหน่อยนะครับ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางเหล่ตามองคนร่างบางที่เอาแต่ก้มหน้ากุมมือตัวเองแน่น ไหล่มนยังสั่นไหวไม่หยุด

“ฉะ...ฉันไม่ไปโรงพยาบาล กลัวพ่อตามพบค่ะ ได้โปรดพาฉันไปที่อื่น”

“นี่คุณถูกพ่อทำร้ายมาเหรอครับ ผมว่าแจ้งความก่อนดีไหม”

“เขาเป็นพ่อเลี้ยงค่ะ พ่อแท้ๆ ท่านเสียไปแล้ว ฉันกลัวเขาเหลือเกิน” ยิ่งนึกถึงชายตัวโตหัวเถิก ใบหน้าดุร้าย ดวงตาถลนเหลือกเวลาโกรธ เธอก็ยิ่งกลัวจับใจจนต้องร้องไห้พรั่งพรูออกมา

“แบบนี้ต้องแจ้งความ!”

“มะ...ไม่ เขาขู่ฆ่าแม่ถ้าฉันแจ้งตำรวจ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นพลางมองสบตา พร้อมส่ายศีรษะไปมา

“เลวจริงๆ เอาเป็นว่าผมจะพาคุณไปพักที่โรงแรมเพื่อหลบซ่อนตัวก่อน แล้วจะเอายังไงต่อค่อยคุยกันทีหลัง” ซีอัลโซ่กล่าว ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าโรงแรมหรูที่เขามาใช้บริการอยู่ประจำ

เมื่อเปิดห้องเรียบร้อยแล้วเขาจึงบอกสาวน้อยไปอาบน้ำให้สะอาดเพื่อที่จะได้ทำแผล เพราะเธอมีรอยฟกช้ำทั้งตัว คาดว่าน่าจะถูกตบอย่างแรงที่ใบหน้า ส่วนตามแขนก็มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ จนแลดูน่าสงสาร ระหว่างที่เธออยู่ในห้องน้ำ ซีอัลโซ่จึงลงไปขอยืมยาทาแก้ฟกช้ำจากพนักงานซึ่งเขารู้จักดีจนสนิทชิดเชื้อ

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังอย่างต่อเนื่องเพราะยืนรออยู่นานแล้ว คนตัวเล็กด้านในก็ไม่ออกมาสักที

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ!” ชายหนุ่มร้องถามด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะคิดสั้น

“มะ...ไม่เป็นอะไรค่ะ” เธอขานรับพร้อมเปิดประตูออกมา ผมที่เปียกน้ำปกคลุมใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มไว้แทบจะมองไม่เห็น สาวน้อยอยู่ในสภาพเย้ายวนตาด้วยผ้าขนหนูพันกาย แต่ชายหนุ่มไม่รู้สึกอะไรเพราะเขาชินตาไปเสียแล้ว ภายในผู้หญิงก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ เขาสำรวจรู้ทุกซอกมุม จึงไม่ทำให้เกิดความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น อีกอย่างคนตัวเล็กดูบอบบางและยังโตไม่เต็มตัวด้วยซ้ำ ถ้าให้เดาอายุเธอคงจะยังไม่ถึงยี่สิบกระมัง

“นั่งลงสิผมจะทายาให้” ซีอัลโซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นี่ถ้าเขาเกิดเป็นหญิงคงจะถูกพ่อเลี้ยงรังแกเหมือนกัน

“ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉัน ไม่สิ ต้องเรียกตัวเองว่าหนูถึงจะถูก” เธอว่าพลางก้มหน้ามองมือที่กุมกันไว้แน่น

“คุณ เอ่อ...อายุเท่าไหร่แล้ว”

“อีกสามเดือนหนูก็สิบแปดค่ะ”

“ห๊า! นี่เพิ่งจะสิบเจ็ด ไอ้พ่อเลี้ยงระยำนั่นก็คิดจะข่มเหงแล้วเหรอ” คราวนี้ซีอัลโซ่ลืมตัวถามเสียงดังตามอารมณ์โกรธ แถมยังเปลี่ยนสรรพนามการเรียกจากคุณเป็นเธอ เพราะอายุนั้นห่างกันจริงๆ

“เขาพยายามปล้ำหนูตั้งแต่สิบขวบแล้ว แต่แม่ช่วยไว้ได้ตลอด”

“มันเลวจริงๆ ถ้าอยากมากทำไมไม่ไปหาเอาข้างนอก ผู้หญิงหยั่งว่ามีเยอะแยะไป”

“บ้านเราค่อนข้างยากจนค่ะ อีกอย่างแม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนเขานอนอยู่บ้านกินเหล้าทุกวันเลย” ยิ่งได้ฟังเธอเล่า ชายหนุ่มก็ยิ่งเวทนาจับใจ ชีวิตเธอช่างเหมือนกับตนจริงๆ

“ต่อไปนี้ไม่ต้องกลับไปที่นั่นแล้วนะ ฉันจะดูแลเธอเอง”

“แต่หนูเกรงใจค่ะ ถ้าอาการดีขึ้นแล้วหนูว่าจะออกไปหางานทำแล้วหาที่พัก”

“ตัวแค่นี้จะทำอะไรได้ อีกอย่างก็มาแต่ตัว คงเป็นการยากที่จะถูกรับเข้าทำงาน”

“ถึงยังไงก็ต้องหาเพื่อความอยู่รอดของชีวิต”

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะดูแลเธอเอง!” ซีอัลโซ่ขึ้นเสียงสูงเมื่อเด็กหัวดื้อไม่ยอมรับความเมตตาจากตน

“นะ...หนูขอโทษที่ทำให้โกรธ แต่หนูไม่มีอะไรตอบแทน ที่มีก็เพียงร่างกาย แต่คุณคงไม่ต้องการเด็กอย่างหนูแน่ๆ”

“เก็บความสาวของเธอไว้ให้ดีๆ เพื่อตอบแทนฉันก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาอันควรฉันจะทวงสิทธิ์นั้นเอง” เขากล่าวเสียงทุ้ม แววตาดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“หนูสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีเพื่อคุณ...เอ่อ”

“ซีอัลโซ่...”

“ส่วนหนูชื่อพราวเมร่าค่ะ”

“ชื่อเพราะสมตัว มาฉันจะทายาให้ เธอจะได้นอนพักผ่อน ฉันเองก็รู้สึกเหนื่อยและอยากเอนหลังเต็มแก่แล้ว”

“ขอบคุณนะคะ” เธอกล่าวเสียงหวานพลางจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มรูปงามที่กำลังตั้งใจทายาให้ตนอย่างเบามือ ดวงหน้าของเขาช่างหล่อเหลาปานเทพบุตรลงมาจุติ ริมฝีปากบางแดงระเรื่อสวยราวกับผู้หญิง ดวงตาสีเทาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลเมื่อได้สบ เรือนผมน้ำตาลเข้มเงางามดุลเส้นไหม อยู่ๆ เลือดในกายก็วิ่งพล่านและรู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแรง ตั้งแต่เกิดมา พราวเมร่าไม่เคยมีอาการเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตและเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรกัน

หลังจากทายาเรียบร้อยแล้ว ซีอัลโซ่ก็บอกให้เธอนอนบนเตียง ส่วนเขาเดินไปหลบมุมนอนที่โซฟา ทั้งคู่หลับลงได้อย่างง่ายดาย เพราะต่างก็อ่อนเพลียจนเกินจะฝืนสังขารได้

แสงสีทองจ้าในยามบ่ายส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาเพียงน้อยนิด แต่ก็ทำให้ภายในห้องอบอุ่นขึ้น เจ้าของร่างบึกบึนยังคงนอนขดตัวอยู่บนโซฟา เขาหลับสนิทมาก ได้ยินเพียงเสียงกรนที่ดังแผ่วเบา ผ้านวมผืนใหญ่ถูกนำมาห่มให้ซีอัลโซ่อย่างเบามือ เพราะคนตัวเล็กกลัวจะทำให้เขาตื่น

“ขนาดเวลาหลับยังดูดี ตั้งแต่หนูจำความได้ยังไม่เคยพบใครหล่อเหลาเช่นนี้ ถ้าพ่อเลี้ยงเขาใจดีเหมือนคุณ เชื่อว่าแม่คงจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ ที่ผ่านมาหนูเข้าใจผิดคิดว่าผู้ชายจะเลวเหมือนกันหมด เห็นผู้หญิงเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น”

แม้เธอจะพูดไม่ดังนัก แต่ชายหนุ่มก็ได้ยินเพราะเขารู้สึกตัวตั้งแต่มีผ้านวมอุ่นๆ มาคลุมกายให้

“ฉันเองก็ไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิดหรอก” ซีอัลโซ่กล่าว ก่อนจะพลิกตัวนอนหงายพลางจ้องมองใบหน้าขาวผ่องของเด็กสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แม้จะมีรอยเขียวช้ำ แต่เธอก็ยังดูสวยใสสมวัยมาก

“ขะ...โทษค่ะที่รบกวนเวลาพักผ่อน”

“ไม่เป็นไร ตั้งใจจะตื่นขึ้นมาพาเธอไปทานข้าวแล้วซื้อของกินมาตุน เพราะคืนนี้ฉันต้องไปทำงานจึงต้องนอนเอาแรงอาจจะไม่ได้พาเธอไปไหน”

“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง”

“แล้วไม่ถามเหรอว่าฉันทำงานอะไร”

“หนูเป็นเด็กคงไม่เหมาะที่จะเอ่ยถามเรื่องของผู้ใหญ่” พูดราวกับเขาดูแก่กว่ามากๆ “แต่ฉันอยากบอก เพราะอีกหน่อยเราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เธอจะได้ปรับตัวถูก”

“ถ้าคุณเต็มใจบอก หนูก็เต็มใจรับฟังค่ะ” แม้จะเกิดจากครอบครัวที่ยากจนและไม่ได้ร่ำเรียนเหมือนคนอื่น แต่พราวเมร่าก็มีนิสัยอ่อนโยนมารยาทดีเป็นอย่างมาก ไม่แปลกเลยที่ซีอัลโซ่ให้ความเอ็นดู

“ฉันทำงานกลางคืน บริการลูกค้าทุกคนด้วยเรือนร่างเพื่อแลกกับเงิน รู้แบบนี้แล้วเธอยังอยากอยู่กับฉันไหม” แวบหนึ่ง เขาก็นึกกลัวกับคำตอบของสาวน้อยที่นั่งเรียบร้อยอยู่ข้างโซฟา เธอดูตกใจมากจนหน้าซีดเผือด

“ไม่เห็นเป็นไร เพราะนั่นคืออาชีพสุจริต คุณมอบความสุขให้คนเหล่านั้นหาได้ไปปล้นจี้ใครสักหน่อย หนูเชื่อว่าคุณคงมีเหตุผลที่เลือกงานนี้”

คำตอบของพราวเมร่าทำให้ชายหนุ่มเผยยิ้มออกมาอย่างลืมตัว

“ความคิดของเธอโตมากกว่าผู้ใหญ่อย่างฉันเสียอีก ดีใจนะที่เธอไม่รังเกียจชายขายบริการ”

“หนูกลับชื่นชมที่คุณบอกตามตรง ลุกไปล้างหน้าเถอะค่ะ หนูบีบยาสีฟันใส่แปรงไว้ให้แล้ว”

“ยังไม่ทันไรออกคำสั่งกับฉันแล้ว คิดจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวใช่ไหม” คนตัวโตมีพูดประชดกึ่งหยอกล้อ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างอามรณ์ดี ส่วนพราวเมร่าก็นำผ้านวมไปพับไว้ตรงปลายเตียงตามความเคยชินหลังจากตื่นนอน

ภายในร้านอาหารบรรยากาศร่มรื่นข้างโรมแรมโซเฟียที่ซีอัลโซ่เข้าพัก คู่หนุ่มสาวต่างวัยกำลังก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารราวกับอดมาเป็นชาติ โดยเฉพาะพราวเมร่าที่ดูหิวโหยจนใช้เวลาในการเคี้ยวน้อยนิดก่อนจะกลืนลงกระเพาะไป

“กินช้าๆ ก็ได้ไม่มีใครแย่งหรอก”

“ขอโทษนะคะที่เสียมารยาท คือหนูหิวมากจริงๆ”

“นี่เธอยากจนถึงขั้นไม่มีเงินซื้ออะไรกินเลยเหรอ?”

“คือ... เอ่อ หนูต้องขังตัวเองอยู่ในห้องเวลาแม่ไปทำงาน เพราะกลัวพ่อเลี้ยงข่มขืน แต่ตอนที่เกิดเรื่องรู้สึกหิวจนทนไม่ไหวจึงแอบเปิดประตูออกมาแล้วย่องเข้าครัว ใครจะไปรู้ว่าเขานั่งรออยู่ในนั้น” พราวเมร่าเล่าซะเขาเห็นภาพเลย

“ไอ้แก่มันฉลาดจริงๆ ฉันชักอยากจะเห็นหน้าซะแล้วสิ จะจับทิ่มด้านหลังให้ตายไปเลย” ฟังเขาพูดเข้า ลืมไปหรือยังไงว่าคุยอยู่กับเยาวชน

“คือบ้านหนูไม่มีประตูหลังค่ะ คุณคงเข้าไปใช้มีดแทงเขาไม่ได้แน่” เด็กหนอเด็ก ถ้าเธอได้ร่ำเรียนเหมือนคนอื่นคงจะไม่อ่อนเดียงสาขนาดนี้ เขาหมายถึงประตูบ้านซะเมื่อไหร่

“นี่โง่หรือซื่อกันเนี่ยเด็กน้อย...” เขาบ่นพึมพำอยู่ในลำคอ พลางหันหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้คนตรงตัวเล็กรู้ว่าเขานินทาเธออยู่

“คุณไม่โง่หรอกค่ะ อย่าว่าตัวเองเลย”

“ห้ะ! ขะ...ใคร ฉันเปล่าว่าตัวเองสักหน่อย”

“อย่าอายไปเลยค่ะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด ฉันก็อยากให้มีประตูหลังเหมือนกันจะได้หนีสะดวก”

“ไปกันใหญ่แล้ว แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าทุกคนมีประตูหลังโอเคไหม” ซีอัลโซ่กล่าวน้ำเสียงจริงจังเชียว แล้วนี่เขาจะมานั่งเถียงกับเธอทำไมกัน

“ค่ะมีก็มี คุณอิ่มแล้วเหรอคะ”

“อืมม ฉันอยากนอนพักผ่อนมากกว่า คืนนี้ต้องรับลูกค้าห้าคน”

“แค่ห้าคนคุณไหวอยู่แล้ว”

“ไหวน่ะไหว แต่เล่นเอาน้องของฉันชาเลย”

“ดีจังมีน้องชายช่วย นึกว่าคุณเป็นลูกคนเดียวซะอีก” นี่เธอไม่รู้เรื่องที่เขาพูดหรือแกล้งแอ๊บไร้เดียงสากันแน่

“เฮ้อ...ช่างเถอะ ตกลงอิ่มแล้วใช่ไหมถึงได้เอาแต่พูด” ชายหนุ่มถอนหายใจยาวพลางเอ่ยถามกึ่งประชด

“เอ่อ...อิ่มแล้วค่ะ” พราวเมร่าก้มหน้าตอบอย่างนึกอายที่พูดมากเกินไป “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ”

เขาหยิบเงินในกระเป๋าออกมาวางไว้บนโต๊ะเกินจำนวนค่าอาหารที่สั่ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าเธอไป ส่วนสาวน้อยก็เดินตามมาติดๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร บางครั้งเขาก็ดูใจดีสุภาพ บางครั้งดูแปลกพูดอะไรตรงๆ

เวลานับจากนี้ที