บทนำ
ยะหยาแต่งงานเข้ามาอยู่ในครอบครัวของสามี เนื่องจากบ้านสามีมีสมาชิกน้อยคน บ้านหลังใหญ่ไม่มีใครอยู่ หญิงสาวไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่อยากมาอยู่บ้านหลังนี้ เพราะก็รู้อยู่เต็มอกว่าอย่างไรเสียบ้านหลังนี้ก็ต้องตกเป็นของทิมสามีเธออยู่แล้วในสักวัน
เทพคือพ่อสามีที่อยู่บ้านบ้าง ไม่อยู่บ้าง เพราะเขาอาศัยอยู่ในเมืองส่วนใหญ่เนื่องจากเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยนดังนั้นความชอบในเรื่องอาหารฝรั่งของเขาจึงมีไลน์ให้ต้องทำและใช้ชีวิตในเมืองเป็นส่วนมาก เทพจึงมักจะนอนที่ร้านมากกว่ากลับมาบ้าน ถ้าไม่จำเป็น หลังจากที่ทิมแต่งงานแล้วเทพก็ปล่อยวางเรื่องบ้านมากขึ้น บ้านหลังใหญ่ส่วนมากทิมกับยะหยาจะเป็นคนอยู่อาศัยมากกว่า
อย่างเช่นวันนี้ ... เมื่อยะหยากลับมาบ้านหลังเลิกงาน หญิงสาวก็จะง่วนอยู่แต่ในห้อง เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร สามีก็ไม่ค่อยอยู่เนื่องจากเขาต้องออกไปดูงาน ดูแลรักษาสัตว์ตามหน้าที่ บ้างครั้งจำเป็นเขาก็นอนแคมป์
ก่อนสามีจะออกไปทำงานตอนเช้า ทิมได้เข้ามาสวมกอดเมียรัก ตามประสาผัวหนุ่มเมียสาวที่ยังไม่มีทายาท ความสวีทจึงยังมีเต็มเปี่ยมที่มันจะขาดหายไปบ้างก็เรื่องของเวลาเท่านั้น
“หยาไปทำงานขับรถดีๆ นะ ผมต้องออกก่อนเพราะวันนี้มีแจ้งว่าอาจมีเคสสัตว์ใหญ่”
“ช้างอีกแล้วเหรอคะทิม”
“ใช่ครับ”
“ระวังตัวด้วยนะ คุณทุ่มเทให้งานมากเกินไปแล้ว ออกเคสแต่ละทีก็เจอแต่น้องๆ ทั้งนั้น”
พยาบาลสาวที่ประจำอยู่โรงพยาบาลต่างอำเภออย่างยะหยา ไม่ได้ชอบสิ่งที่สามีทุ่มเทสักเท่าไหร่ แต่เพราะเขาก็คือสามีเขามีสิ่งที่ชอบเธอจึงขัดเขาไม่ได้
บ่อยครั้งที่ยะหยา คิดอยากให้ทิมกับพ่อของเขาเปลี่ยนอาชีพกัน เพราะเทพมีชีวิตที่สุขสบายมาก ทำธุรกิจร้านอาหาร มีเพื่อนฝูง มีสังสรรค์บ้าง ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยในอาชีพ มีเวลาเที่ยวพักผ่อนมากกว่าทิม”
“ทิมคะ คืนนี้อย่าปล่อยให้หยานอนคนเดียวนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นเป็นประโยคเชิงขอร้อง มากกว่าจะใช้ประโยคห้ามปรามให้เขาต้องอึดอัดใจ เมื่อเธอรู้ว่าเขาต้องเข้าป่าอีกแล้ว
ทิมจูบเน้นๆ ที่พวงแก้มของเมียรัก แล้วสูดดมกลิ่นหอมของผิวกายเธอแทนคำตอบ เขาไม่อาจบอกได้ว่า จะกลับบ้านได้หรือไม่ เพราะงานของเขานั้น สัตว์คือตัวแปร ไม่ใช่เขาอยากทำก็ไป อยากกลับก็กลับ อาชีพของทิมจึงดูเหมือนแน่นอนแต่ไม่แน่นอนในเรื่องของเวลา
♦♦……….♦♦……….♦♦