รักซึมร้าย NC 18+ (มีอีบุ๊ก)
รักโรแมนติก
รักซึมร้าย NC 18+ (มีอีบุ๊ก)
รักโรแมนติก
เอลยา
นิยายโรมานซ์ ครบรส ฟินจิกหมอนอีกเรื่องของเอลยา มี 4 คู่ เป็นเรื่องของความรักความผูกพันระหว่างพระ-นางที่แอบมีใจให้กันมานาน ลองดาวน์โหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนซื้อนะคะ จุ๊บๆ ฟาริศ & ปริสา โคแก่อย่างเขาเลี้ยงต้อยโดยไม่รู้ตัว เอ๊ะ! หรือว่ารู้ตัว แต่ไม่อยากยอมรับนะ? ฟารุต & ฉัตรลดา พี่ชายคนสนิทที่แอบจิตคิดไม่ซื่อ แต่ซื่อบื้อไม่ยอมรับ จนเกือบจะเสียสาวหน้าหวานที่เขาไม่รู้ว่าเข้าไปสิงสถิตอยู่ในหัวใจตั้งแต่ตอนไหนไป ปุณณ์ & มัสรินทร์ ชายหนุ่มสุดหล่อแสนเพียบพร้อมเป็นที่หมายปองของทั้งสาวไทยและสาวเทศ แต่เขาก็แทบช็อก หัวใจเกือบสต็อปหยุดเต้นเมื่อได้ค้นพบความจริงว่า เขากลายเป็นพ่อของเด็กอายุสี่ขวบ! เขาไม่รู้เลยว่าไปทำสาวเจ้าท้องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เพราะทุกครั้งที่เจอหน้าก็แทบจะพูดจากันนับคำได้! แล้วนับประสาอะไรกับการฟิเจอริ่งกันบนเตียง มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว What the f...! มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขาวะเนี่ย! หมอธีรดล & ฟาริมาศ หล่อนโกรธเขาจนไม่มองหน้ากันกับเรื่องร้าวฉานในอดีต แต่เขาไม่ยอมรับว่ามันเป็นความผิดของเขา อยากคิดยังไงก็แล้วแต่เจ้าหล่อนสิ! คนอย่างธีรดลไม่เสียเวลาไปกับความไร้สาระของผู้หญิงแสนงอน งอนยาวเป็นสิบปี มันมีที่ไหน จะให้เขายอมอ่อนข้อให้งั้นเหรอ... ฝันไปแล้วน้อง
  • 43 ตอน
  • 3,066
นิยายโดย
  • 8 คนติดตาม
บทนำ

ฟาริศ ศิริวรพัฒน์ อัลบิโน ชายหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน มาด สุขุม รุ่มร้อน ปากคอเราะร้าย ความฮ็อตทะลุปรอท วัย 32 ปี

เขาเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจโรงแรมและที่ดิน เขาเก่ง เขาเท่ เขาร้ายลึก และเขาร้ายกาจ ยี่ห้อฟาริศนั้นเพลย์บอยเรียกป๋า การันตีด้วยจำนวนคู่ควงที่เปลี่ยนหน้าทุกอาทิตย์ มาดแมนเชื่อมั่นเต็มไปด้วยพลังร้อนแรงเร้าอารมณ์แห่งบุรุษเพศ เสน่ห์ร้อนฉ่าทุกองศา สาวๆ เห็นเป็นทุรนทุรายอยากจะวิ่งเข้ามาซบอกกว้างที่มีขนสีน้ำตาลนุ่มของเขาราวกับมีพลังแม่เหล็กดึงดูด โอกาสขึ้นเตียงกับเขานั้นอาจจะไขว่คว้าได้ไม่ยากถ้าหากสวย เอ็กซ์ เซ็กซี่ เรตกระฉูด... แต่โอกาสที่จะเลื่อนปรู๊ดไต่เต้าหรืออาจใช้เต้าไต่ขึ้นมาเป็นเจ้าของหัวใจนั้น... เท่ากับ -10 เพราะมารดาได้หาผู้หญิงที่เพียบพร้อมและคู่ควรเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สาวสวยหมวยเอ็กซ์ที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางจึงเข้าถึงได้แค่เตียงกว้างยามที่เขาเกิดความกระสันอยากและต้องการปลดปล่อยอารมณ์กามตัณหาเท่านั้นเอง

เป้... ปริสา ดุริยพงศ์ หญิงสาวสวยน่ารักวัย 22 ปี

หล่อนเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่เมื่อหล่อนยังเล็ก ตอนอายุสิบสองปีพี่ชายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงหล่อนมาก็ถูกแทงตายในผับเนื่องจากเข้าไปรับมีดแทนเพื่อนรักของเขา พี่ชายได้สั่งเสียฝากฝังหล่อนเอาไว้กับเพื่อนคนนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

*****

คำโปรย

ร่างเพรียววิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในลิฟต์หลังจากได้ยินเสียงเอ็ดตะโรลั่นมาในโทรศัพท์ เจ้าของเสียงกำลังอารมณ์บ่จอยเป็นอย่างยิ่งอยู่ในห้องรอยัลสวีตชั้นยี่สิบของโรงแรมห้าดาวที่ตนเป็นเจ้าของ

ห้องที่หญิงสาวกำลังขึ้นไปนี้มีลักษณะเป็นห้องชุดสวีตหรู มีสองห้องนอน ห้องนอนใหญ่เป็นห้องส่วนตัวของเจ้าของยามที่ต้องมาค้างที่นี่ อีกห้องเป็นห้องนอนขนาดเล็กกว่าหน่อยหนึ่ง เอาไว้สำหรับพาสาวๆ มาหาความสำราญ ด้านนอกมีห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาชุดใหญ่วางอยู่ เมื่อไปถึง ร่างเพรียวระหงก็ยกมือเคาะประตูก่อนจะผลักเข้าไปทันที

"ทำไมช้านัก!" เสียงห้าวตวาดใส่ทันทีที่เห็น

ปริสามองร่างสูงที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง โชว์แผงอกกว้างที่มีขนอุยอ่อนสีน้ำตาลเรียงแถวหายเข้าไปตรงขอบผ้าเช็ดตัว ปริสาบังคับสายตาไม่ให้มองต่ำลงไปกว่านั้น หญิงสาวรีบเงยขวับขึ้นมองใบหน้าหล่อ 360 องศาของฟาริศ ศิริวรวัฒน์ อัลบิโน

"โห ช้านิดเดียว เป้ต้องนั่งมอไซค์จากเซเว่นอีกปากซอยหนึ่งโน่นแน่ะ... ได้มาแล้วค่ะ แต่..."

เสียงใสรีบโต้ตอบปนเสียงหอบเหนื่อยเพราะวิ่งมา รีบยื่นกล่องในมือให้เจ้าของห้อง คนตัวสูงกระชากไปอย่างเร็วด้วยสีหน้าอารมณ์ไม่สบมู้ด ก้มอ่านลวกๆ ผมดกหนาสีน้ำตาลเข้มหล่นมาปรกหน้าผาก คิ้วหนาเป็นปื้นขมวดเข้าหากันเมื่ออ่านเสร็จ

"มันผิดไซส์นี่เป้"

เขาเอ่ยเสียงเข้มขุ่น เงยหน้าขึ้นมามองคนซื้อด้วยสายตาตำหนิอย่างไม่แคร์จะปิดบัง เจ้าหล่อนรู้ดีว่าน้องชายของเขามันไซส์ยุโรปตามหุ่นสูงเกินมาตรฐานชายไทยของเขา สายเลือดไทย-อิตาเลียนเข้มข้นของฟาริศ ศิริวรวัฒน์ อัลบิโนต้องไซส์ 56 เท่านั้นจึงจะรับมือไหว

"ไซส์ 56 มันหมดค่ะ เป้เลยเอานี่มาให้ เล็กหน่อย แฮ่ะ..." เอ่ยพลางยิ้มกระเรี่ยกระราดและทำตาปริบปรอย

"อ้อ! กลิ่นสตรอเบอรี่ก็ไม่มีเลยเอากลิ่นกล้วยหอมมา เล็กนิดแต่เขาว่ามันยืดได้นี่คะ" เจ้าหล่อนพูดต่อเสียงแจ๋วๆ ยกมือขึ้นป้ายเหงื่อเม็ดโป้งตรงหน้าผากและขมับ ผมยาวมัดหางม้ายุ่งเหยิงเพราะนั่งมอเตอร์ไซค์มาเพื่อให้ทันใจจอร์จ

"จะบ้ารึไง ไซส์ฉันต้อง 56 เท่านั้น... ขืนใช้ไซส์เล็กก็แตกกันพอดี ฉันยังไม่อยากทำใครท้อง!"

"คุณก็ใส่สองอันซีคะถ้ากลัวแตก"

รีบแนะนำต่อให้อย่างหน้าตาเฉย คำพูดคำจาเหมือนเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะกิจในเรื่องนี้ ฟาริสมองใบหน้านวลใส ดวงตาโตสองชั้นมีขนตายาวงอนกะพริบปริบๆ ปากอิ่มสีเรื่อเผยอเล็กน้อยแบบลุ้นๆ ว่าเขาจะว่าอย่างไร ชายหนุ่มโยนกล่องถุงยางใส่จนเจ้าหล่อนสะดุ้งและรีบยกมือขึ้นรับแทบไม่ทัน

"อุย!"

"เด็กบ้า... โง่แล้วยังอยากนอนเตียง! ใส่สองอันก็เลือดคั่งหน้าเขียวกันพอดี!"

คำด่าตรงๆ อย่างคนรู้สำนวนไทยอย่างดีเยี่ยม คนใกล้ชิดรู้ดีว่าเขาปากจัดและด่าเป็นไฟได้หลายภาษา คนถูกด่าว่าโง่ก็ยิ้มเจี๋ยมเจี้ยมตามสเต็ปและสไตล์คนโดนด่าเป็นประจำ มือเรียวเกาหัวแกร่กๆ ก่อนจะตาโตทำท่านึกออก

"อ้อ! ถ้างั้นก็หลั่งข้างนอกเอาซิคะ หรือว่าทำออรัลเซ็กส์ให้พอประทังคลายกำหนัดไปก่อนก็ได้นี่นา"

คำแนะนำเพิ่มเติมด้วยความหวังดีจริงๆ ฟาริศอึ้งกิมกี่ก่อนจะหน้าแดงเถือกทันตาเห็น ถลึงตาใส่เด็กในปกครองอย่างเหลืออด

"กรี๊ด! อั๊ย...พูดออกมาได้หน้าไม่อายนะหล่อน! อั๊ย...ฟาริศขา เมย์ทนฟังไม่ด๊าย ไล่แม่นั่นออกไปเถอะค่ะดาร์ลิ้ง"

เสียงกรี๊ดและเสียงด่าดังจากห้องนอนภายใน เป็นเสียงผู้หญิงคนล่าสุดที่เขาหิ้วติดมือมาด้วยจากปาร์ตี้บนเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เวลานี้เจ้าหล่อนกำลังนอนรออยู่บนเตียงใหญ่ในห้องสำราญ ประตูห้องที่เปิดทิ้งเอาไว้จึงทำให้ได้ยินบทสนทนาทุกคำระหว่างเขากับคนรับใช้ประจำตัว

ฟาริศส่ายหน้า ดวงตาคมกล้าจ้องมองเด็กในอุปการะที่กำลังทำคอย่นกับเสียงกรี๊ดของนางแบบสาว ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปใกล้แล้วยกมือไปเบิ้ดกะโหลกของเด็กแก่แดดอย่างอดไม่ได้ ร่างเพรียวคล่องแคล่วรีบเบี่ยงหลบอย่างทันท่วงที ทำให้เซถอยหลังไปสองสามก้าวแต่ก็ตั้งหลักได้เพราะเจอมุกนี้บ่อยๆ จนเกิดภูมิต้านทานแล้ว

"อย่าแก่นกะโหลกนักนะเรา เดี๋ยวเหอะจะโดนดี... ฉันหมดอารมณ์ก็เพราะเรานี่แหละ!"

เสียงห้วนเอ่ย ใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดอย่างไม่แยแสจะเก็บกักอารมณ์ ปรายตามองกล่องถุงยางอนามัยกลิ่นกล้วยหอมผิวเรียบที่คนหน้าเด๋อยืนกอดอยู่ก่อนจะส่ายหัว ร่างสูงสมาร์ตก้าวไปยังโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด

"สมิธ... เตรียมรถไปส่งผู้หญิงภายในสิบนาทีนี้"

สั่งคนสนิทเสร็จก็โยนโทรศัพท์ไปบนโซฟา หันไปมองร่างเพรียวบางที่ยืนกอดกล่องถุงยางรอฟังคำสั่งตาปริบๆ

"ยืนเซ่ออยู่ทำไมล่ะ... รีบเตรียมตัวไปกับเจ้าสมิธ... คราวหน้าถ้าบกพร่องอีก ฉันจะตัดเงินค่าขนมเราครึ่งหนึ่ง จำเอาไว้"

คำขู่นี้เป็นอะไรที่คนฟังจำขึ้นใจสุดๆ และทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้น ใบหน้าใสรีบพยักหงึกหงักรับทราบทันที

"คุณริศไม่ได้หักตังค์เป้แน่ รับรองคราวหน้าจะซื้อมาตุนครบทุกชนิดเหมือนเดิม ทั้งผิวเรียบ ผิวขรุขระ ผิวเรืองแสง กลิ่นสตรอเบอรี่ กล้วยหอมและผลไม้รวม อ้อ และครบทุกสีเลยค่ะ! รอบนี้ขออภัยจริงๆ เพราะเป้รีบไปสอบเลยลืมเช็กตู้ข้างเตียง"

เสียงแจ๋วพูดแก้ตัวเจี้อยแจ้ว ยิ้มปะเหลาะให้คนจ่ายค่าขนมทุกเดือนตั้งแต่หล่อนอายุสิบสองปีจนถึงอายุ 22 ปีในเวลานี้ ฟาริศโบกมือทำท่าไล่แกมรำคาญ

"เอาล่ะ...ไปได้แล้ว อ้อ...แล้วสอบได้หรือเปล่า"

เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหล่อนเป็นเด็กนักศึกษาในปกครองปีสี่ เพิ่งสอบปลายภาคเทอมหนึ่งเสร็จ และกำลังจะได้ฝึกงานภาคฤดูร้อนที่โรงแรมแห่งนี้ในฐานะเด็กเส้นของบอสใหญ่ ใบหน้าใสยิ้มยิงฟันขาวใส่ทันที

"โห ยี่ห้อเนี้ย...มีหรือจะสอบไม่ผ่าน เป้ซะอย่าง... ผ่านฉลุยอยู่แล้ว ไปนะคุณริศ อ้อ... อย่าลืมบอกผู้หญิงของคุณริศให้สวมชั้นในกลับด้วยล่ะ เป้สะสมได้เป็นสิบตะกร้าใหญ่แล้วตอนนี้ จะเอาไปบริจาคก็ไม่รู้ว่าต้องส่งไปที่ไหน ว่าจะไปนั่งขายแบกะดินมาร์เก็ต แต่คุณริศก็ใช้เป้ซะ 25 ชั่วโมงต่อวัน เลยไม่มีเวลาซะที"

พูดจบร่างเพรียวก็หันหลังวิ่งปรู๊ดออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้เจ้าของห้องมองตามพลางส่ายหน้า เขาเดินไปยังห้องนอนส่วนตัว ดึงสมุดเช็คออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน จัดการกรอกตัวเลขลงไปและฉีกแคว่ก เดินกลับเข้าไปยังห้องนอนอีกห้อง

ร่างเซ็กซี่ของนางแบบสาวดาวจรัสแสงของวงการแฟชั่นกำลังเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนรออยู่ ผ้าเช็ดตัวที่เจ้าหล่อนพันกายอยู่เปิดเปลือยให้เห็นไปถึงไหนๆ แต่ฟาริศหมดอารมณ์กระสันอยากไปแล้วตอนนี้ จึงมองอย่างเฉยเมยและยื่นเช็คให้

"คุณรีบแต่งตัวซะ...เดี๋ยวคนของผมจะไปส่งที่คอนโด"

เสียงห้าวเอ่ยบอกอย่างไม่แยแสต่อสีหน้างอง้ำลงทันควันของคู่ควงแห่งค่ำคืน เขาเดินกลับไปยังห้องนอนใหญ่อีกห้องติดกัน ซึ่งเป็นห้องนอนส่วนตัว ปิดประตูลง ก้าวขึ้นเตียงและล้มตัวลงนอน เวลาตีหนึ่งกว่าบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำให้ชายหนุ่มหลับได้รวดเร็วในเวลาต่อมา

******

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2537

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน

รูปภาพเพียงใช้ประกอบเท่านั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในภาพแต่อย่างใด

ตัวละครที่อ้างถึงไม่มีตัวตนและไม่ได้มีการพาดพิงถึงใครทั้งสิ้น

ขอบคุณแฟนนิยายของเอลยาทุกท่านที่ติดตามผลงานนะคะ

หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ไรท์ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ