สี่หัวใจ
วรรณกรรมผู้ใหญ่
สี่หัวใจ
วรรณกรรมผู้ใหญ่
มาดามเกรย์
เขา...หัวใจดวงหนึ่งขอเพียงได้รักและปกป้อง หัวใจอีกดวงหมายครอบครองเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว เธอ...หัวใจดวงหนึ่งพร้อมเสียสละ หัวใจอีกดวงหลงใหลหลงผิด เพราะเรื่องของความรักต้องวัดกันที่หัวใจ เมื่อสองหญิง สองชาย สี่หัวใจมาบรรจบพบกัน ความรักของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร หมายเหตุ: เรื่องราวของดวงฤทัยและดวงเนตร ลูกสาวของดวงใจจากเรื่องร้อยชู้ หนึ่งดวงใจ และเป็นน้องสาวของพงษ์เทพ พระเอกเรื่องรักเร้นใจไฟเสน่หา แต่อ่านแยกได้ค่ะ หลักๆ เป็นโรมานซ์กับดราม่า แต่ต้องเลือกประเภทเป็นวรรณกรรมผู้ใหญ่ เพราะเลิฟซีนออกจะแรงอยู่ มีลงขายใน meb แล้วราคา 89.00 ค่ะ ส่วนที่เว็บห้องสมุดจะลงให้อ่านฟรีครึ่งเรื่อง จากนั้นจะเริ่มใส่ราคาตอนละ 3 บาทค่ะ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านล่วงหน้าค่ะ
  • 35 ตอน
  • 5,682
นิยายโดย
  • 75 คนติดตาม
บทนำ

14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525

วันวาเลนไทน์...วันแห่งความรัก

ดอกไม้รูปหัวใจสีชมพูชูช่อสะพรั่ง บางส่วนต้องลมปลายฤดูหนาวร่วงหล่นโปรยปรายต้องปลายจมูกหญิงสาวร่างระหงที่กำลังยืนรอตักบาตรหน้าคฤหาสน์เทพรณยุทธ์ หล่อนเงยหน้าขึ้นพริ้มตารับกลีบอ่อนละมุน สูดกลิ่นหอมหวานพลางรำพึงถึงว่าที่คู่หมั้น

‘เขาจะมาไหมนะ’

‘เขาต้องมาแน่ ทุกวันนี้ก็มาหาทุกวันยกเว้นอยู่ต่างประเทศ แล้ววันสำคัญแห่งความรักจะไม่มาได้อย่างไร’

หล่อนถามและตอบตัวเองเสร็จสรรพ กำลังจะแต่งงานในอีกสองสัปดาห์ เป็นธรรมดาที่จะคาดหวังว่าเขาจะมาหาพร้อมดอกไม้ช่องามกับการ์ดที่มีข้อความหวานซึ้ง แต่ไม่รู้ว่าทำไมใจจึงไหวหวั่นกลัวผิดหวัง หญิงสาวเฝ้าค้นหาเหตุผลที่แฝงลึกในหัวใจ...บางทีอาจเป็นเพราะระยะหลังๆ นี้เขามักเผลอเหม่อมองไปไกลครุ่นคิดถึงใครอื่นทั้งที่นั่งอยู่กับหล่อน หรือบางทีอาจเป็นเพราะความรักที่มีต่อเขาเริ่มต้นจากความประทับใจที่ติดลบอย่างที่ไม่น่าพลิกผันพัฒนากลายเป็นความรักขึ้นมาได้

ดวงฤทัยกับจิระประวัติหรืออาจือพบกันในสถานการณ์ที่แสนกระอักกระอ่วน เขาเป็นอดีตว่าที่คู่หมั้นของพี่สะใภ้ที่ร่วมมือกับอดีตว่าที่คู่หมั้นของพี่ชายวางแผนร้ายเพื่อแยกทั้งสองออกจากกัน ถ้าไม่ใช่เพราะพลเอกพระยาสีหเดโช... อดีตนายทหารใหญ่สมัยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งทุกคนในครอบครัวรักและเคารพนับถือประดุจปู่แท้ๆ แม้ท่านจะเป็นพ่อสามีคนแรกของคุณหญิงดวงใจ ไม่มีความเกี่ยวข้องสายเลือด... รู้เท่าทันและระงับเรื่องร้ายมิให้เลยเถิดถึงขั้นที่พี่ชายกับพี่สะใภ้ต้องเลิกร้างกัน นอกจากนั้นยังตามไปเทศนาสั่งสอนจิระประวัติถึงสำนักงานใหญ่ของเสี่ยเล้งผู้เป็นบิดาซึ่งเจ้าคุณบังเอิญเป็นผู้มีพระคุณ เคยเมตตาให้เงินไปทำทุนเมื่อครั้งเริ่มต้นทำการค้าใหม่ๆ

วันนั้นขณะที่คุณปู่เทศนาเขาเรื่องคุณค่าของความเป็นคน หล่อนกับน้องสาวคนสุดท้องอยู่ในที่นั้นด้วย ยังจำได้ว่าคำพูดของท่านมิได้หยาบคาย แต่ทั้งตรงและคมราวกับดาบ และน่าจะเสียบตรงเข้าหัวใจของจิระประวัติ ชายหนุ่มผู้โอหังและเต็มไปด้วยความพยาบาทอาฆาตแค้นจึงยอมกราบแทบเท้าขออภัย แล้วหลังจากนั้นก็ไปมาหาสู่บ้านเทพรณยุทธ์เพื่อเยี่ยมเยียนท่านผู้เฒ่าอย่างสม่ำเสมอ อันผู้ใหญ่นั้นถ้าผู้เยาว์อ่อนเข้าหา มีสัมมาคารวะ ต่อให้ไม่ชอบหน้ามากแค่ไหน ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดูเมตตา ไม่นานจิระประวัติก็เอาชนะใจผู้อาวุโสตั้งแต่เจ้าคุณและคุณหญิงดวงใจได้สำเร็จ สามารถเข้านอกออกในบ้านเทพรณยุทธ์ได้เหมือนลูกหลานคนหนึ่ง จะมีก็แต่พลเอกเทพที่ยังรักษาท่าทีเฉยชา สายตายังจับจ้องมองลึกอย่างไม่วางใจ แต่ก็ไม่ได้กีดกันรังเกียจอย่างออกนอกหน้า

ระหว่างนั้นดวงฤทัยชวนน้องสาวเดินทางตามพี่ชายพี่สะใภ้ไปพำนักที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งพี่ชายลี้ภัยการเมืองจากการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ 6 ตุลา ไปทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ตัวหล่อนทำเรื่องขอย้ายไปประจำสำนักงานใหญ่ของบริษัทแม่ซึ่งบังเอิญตั้งอยู่ที่ลอนดอน ส่วนดวงเนตรน้องสาวคนสุดท้องไปเรียนต่อปริญญาโท ยามว่างทั้งสองช่วยดูแลบ้านและเลี้ยงหลานชายตัวน้อยเพื่อเปิดโอกาสให้พี่สะใภ้ได้มีเวลาร่ำเรียนวิชาศิลปะตามที่ใฝ่ฝัน ผลออกมาน่าชื่นใจยิ่งนัก ราชาวดีเป็นจิตรกรที่มีพรสวรรค์โดดเด่น เพียงสองปีสร้างผลงานจนได้รับยอมรับในวงการศิลปะในยุโรป วันที่เปิดการแสดงภาพในแกเลอรีนั่นเองที่จิระประวัติกลับเข้ามาในชีวิตของหล่อนอีกครั้ง

เพราะบริษัทเริ่มบุกตลาดธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าหลากหลายตั้งแต่อาหารจนถึงรถยนต์ในยุโรป จิระประวัติจึงต้องเดินทางมาอังกฤษซึ่งเขาเลือกเป็นที่ตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเดือนละครั้งสองครั้งเป็นประจำ แล้ววันหนึ่งหล่อนกับดวงเนตรก็พบเขายืนมองภาพวาดของตัวเองในวัยเด็กหน้าแกลเลอรีที่ราชาวดีจัดแสดงผลงานอยู่ และทำท่าจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่เข้าไปทักทายราชาวดีซึ่งกำลังยืนคุยและถ่ายรูปกับผู้ชื่นชมขณะที่พงษ์เทพยืนจูงลูกชายเฝ้ามองอยู่ใกล้ๆ อย่างภาคภูมิใจ

ยิ้มเศร้าปนสุขและสำนึกผิดบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาทำให้หล่อนใจอ่อนยวบ ความโกรธเกลียดชิงชังในพฤติกรรมน่าอับอายของชายหนุ่มซึ่งลดน้อยถอยลงจนเกือบหมดตอนที่เขาทรุดตัวลงศิโรราบกราบเท้าขอโทษเจ้าคุณสีหเดโชเหือดหายไปหมดสิ้นในตอนนั้นเอง ดวงเนตรก็คงรู้สึกไม่ต่างกันเพราะหันมาพยักหน้าเรียกแล้วเดินนำเข้าไปหา

‘สวัสดีค่ะ เข้าไปชมภาพข้างในด้วยกันสิคะ ตอนนี้มีคนจองหมดทุกรูปแล้ว แต่ยังแสดงให้คนทั่วไปชมอีกสามวัน’ น้องสาวยิ้มหวาน กล่าวเชิญชวนอย่างเต็มอกเต็มใจ พร้อมกับเดินนำเข้าไปหาพี่ชายพี่สะใภ้ ดวงเนตรมีจิตใจบริสุทธิ์งดงาม อ่อนโยน อ่อนหวาน บางครั้งถึงขั้นอ่อนต่อโลก หล่อนมักมองเห็นแต่ด้านดีของคน พอเห็นท่าทีสำนึกผิดกึ่งเจียมตัวของจิระประวัติก็พร้อมที่จะให้อภัยและลืมพฤติกรรมในอดีต

ดวงฤทัยนั้นตรงกันข้ามกับน้องทุกอย่าง แม้ท่าทีภายนอกจะอ่อนโยนละเมียดละไม แต่จิตใจของหญิงสาวเข้มแข็งมั่นคงสมเป็นลูกทหาร แม้จะไม่ถือโทษโกรธเคืองเขาแล้ว แต่ยังไม่วางใจและแอบหมั่นไส้นิดๆ ดังนั้นแทนที่เชิญชวนดีๆ แบบน้องสาว ดวงฤทัยกลับยืนจ้องหน้าเขายิ้มๆ ก่อนจะเอ่ยท้าทายให้ได้ยินกันแค่สองคน

'ถ้าคุณกล้าพอ'

พูดแล้วก็เดินตามดวงเนตรไปหาพี่ชายพี่สะใภ้ ไม่รั้งรอคะยั้นคะยอ แต่แอบมองเงาในกระจกเห็นเขาอึ้งไปชั่วอึดใจ ก่อนยิ้มมุมปากแล้วก้าวตามมา

จากวันนั้นจิระประวัติเข้ามาคลุกคลีใกล้ชิดจนเกิดความสนิทสนมคุ้นเคยกับคนทั้งบ้าน ตอนแรกๆ พงษ์เทพไม่ค่อยชอบใจเพราะหึงภรรยา กับไม่แน่ใจว่าอดีตคู่แข่งจะมาไม้ไหน แต่ความที่มั่นใจในความรักความซื่อสัตย์ของภรรยา เขาจึงไม่กีดกันแต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ หลายเดือนผ่านไปกลายเป็นปี เมื่อจิระประวัติแสดงความจริงใจและน้ำใจ คอยไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่และเจ้าคุณสีหเดโช เทียวไปเทียวมานำข่าวสาร ความคิดถึงและของฝากจากคนทางบ้านมาให้คนที่อังกฤษและจากคนที่อังกฤษกลับไปให้คนที่เมืองไทย พงษ์เทพก็เริ่มคลายใจ และวางใจเต็มที่เมื่อจิระประวัติมาขออนุญาตคบหาหรือจีบดวงฤทัยอย่างเป็นทางการ

‘ว้าย โรแมนติกที่สุด เป็นสุภาพบุรุษที่สุด มีขออนุญาตก่อนจีบด้วย’ คนที่กิ๊วก๊าวที่สุดคือน้องสาวของหล่อน ดวงเนตรอายุยี่สิบต้นๆ แล้ว แต่ความที่เป็นน้องคนสุดท้อง จึงยังมีความเป็นเด็ก ความเพ้อฝัน และตื่นเต้นกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อยู่มาก

‘ยังไงก็ดูๆ ไปก่อน’ พ่อแม่และพี่ชายพี่สะใภ้พูดคล้ายๆ กันและตรงกับที่หญิงสาวคิด หล่อนจึงรักษาระยะห่างพอสมควร ถึงจะไปไหนมาไหนด้วย แต่ก็มักจะมีน้องสาวติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ เพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวสองต่อสองก็ตอนกลับเมืองไทยพร้อมพี่ชายพี่สะใภ้เมื่อต้นปีหลังบิดาแจ้งไปว่าสถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้สงบแล้ว ส่วนดวงเนตรยังต้องอยู่อังกฤษต่อเพื่อทำวิทยานิพนธ์

ช่วงที่กลับมาคบกันต่อเมืองไทยนี่เอง แม้จะอยู่ภายใต้สายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่ความใกล้ชิดโดยไม่มีบุคคลที่สามแทรกกลางก็ช่วยบ่มความรักให้สุกงอม ดวงฤทัยจึงไม่ปฏิเสธเมื่อเขาส่งผู้ใหญ่มาทาบทาม ฤกษ์หมั้นกำหนดไว้เดือนหน้า ฤกษ์แต่งถัดไปอีกหนึ่งเดือน

คงเพราะการทำบุญช่วยให้จิตใจสงบ พอตักบาตรเสร็จความรู้สึกหวั่นไหวสลายไป กลับมามีสติปลดปลง คิดหาเหตุผลมาอธิบายความเคลือบแคลงที่ยังเหลือน้อยนิดติดใจให้หมดไป...จิระประวัติเป็นนักธุรกิจที่มีกิจการอยู่ในมือมากมาย หากเขาติดงานมาไม่ได้ในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อเร็วๆ นี้เองไม่ใช่หรือที่เขาปรารภกับหล่อนเรื่องนี้

‘ช่วงนี้ผมกำลังเร่งเคลียร์งาน จ่ายงานให้พวกผู้จัดการรับไปดูแลต่อ ตอนพาคุณใจไปฮันนีมูนรอบโลกจะได้ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง’

แล้วก็เพิ่งเมื่อวานนี้เองที่เขาบอกหล่อนว่าอาจต้องบินไปอังกฤษเพื่อเซ็นสัญญากับลูกค้าคนสำคัญ ถึงไม่ได้กำหนดเวลาแน่นอนแต่อาจเป็นวันนี้ก็ได้

นั่นไง มีเหตุผลร้อยแปดที่เขาจะมาหาหล่อนไม่ได้ เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ หล่อนในฐานะว่าที่ภรรยาควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวรับกับตารางที่แน่นเอี๊ยด ไม่เอาตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาล คาดหวังและเรียกร้องความสนใจ

ถึงจะคิดอย่างนี้ แต่พอน้อมตัวรับพรจากพระรูปสุดท้ายแล้วได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดตามด้วยเสียงฝีเท้าหนักๆ แบบผู้ชายเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างหลัง หัวใจก็พองโตด้วยความปีติ สาธุไม่ทันขาดคำก็รีบหันไปเอ่ยทักพร้อมกับยิ้มหวานหยดย้อย

นิยายเรื่องอื่นของมาดามเกรย์