คฤหาสน์สีทอง
Romance Lover
คฤหาสน์สีทอง
Romance Lover
เพื่อนแพง
"แหม... แสดงละครเนียนหรือเกินนะ ตกลงว่าเรียนคหกรรมหรือเรียนการแสดงมากันแน่!" เสียงเข้มประชดประชันมาแต่ไกล "ทำไม พอเห็นหน้าผมก็คิดเดินหนีท่าเดียวเลยหรือไง" ชายหนุ่มไม่พอใจที่เห็นร่างบางตั้งท่าจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง "ไม่ได้ค่ะ ฉันแค่ต้องการพักผ่อน วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว" เสียงหวานตอบราบเรียบ หากคนฟังกลับคิดไปอีกแบบ "แน่ล่ะสิ! หายไปด้วยกันสองต่อสองกลับมาเอาค่ำมืด ไม่ให้เหนื่อยก็คงกระไรอยู่" วาจาดูถูกยังไม่เจ็บเท่ากับสายตาที่เขาใช้มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า "กรุณาให้เกียรติฉันด้วยค่ะคุณชยกฤต ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหายอย่างที่คุณกำลังเข้าใจ" ฐิติวรดาว่า "ใครมันจะไปรู้ล่ะ เห็นคุณเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไอ้ผมก็นึกว่ากำลังคิดจะ..." ชยกฤตเว้นคำพูดพลางมองต่ำลงไปยังเบื้องล่างของอีกฝ่าย! ฝ่ามือเล็กฟาดลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาเต็มแรง "ฐิติวรดา!" มือหนาจับแก้มข้างขวาที่ถูกแม่สาวร่างบางลงทัณฑ์อย่างเดือดดาล "คุณกล้าดียังไงมาตบหน้าผม" "ฉันจะทำยิ่งกว่านี้ถ้าหากคุณไม่เลิกดูถูกฉัน" เรียวปากอิ่มเม้มแน่น เขาเป็นใคร? ถือดีอย่างไรมาใช้ถ้อยคำต่ำช้ากับเธอ "กับผมคุณตบ แต่กับมัน... คุณคงขึ้นเตียงพร้อมถวายตัวเลยสินะ!" เสียงเข้มตะคอกใส่ "คุณชยกฤต!" "ทำไม!!!" ดวงตาคมคายดุดัน มือหนากระชากร่างเล็กเข้าหาตัว "ปล่อยนะ จะทำอะไร ปล่อย!" ฐิติวรดาดิ้นอยู่ภายใต้อ้อมกอดของผู้ชายใจร้าย มือใหญ่บีบเรียวแขนสาวเจ้าจนบอบช้ำ แต่เธอกลับไม่ปริปากแสดงความเจ็บปวดให้เขารู้ ท่าทางแข็งกระด้างของเธอกำลังทำให้เขานึกอยากเอาชนะ เป็นแค่หญิงตัวน้อยถือดีอวดศักดิ์กับผู้ชายเยี่ยงเขา... "ผมอยากรู้นักว่าไอ้ปากที่เอาแต่ร้องบอกให้ปล่อยๆ เนี่ย คุณอยากให้ปล่อยจริงหรือเปล่า" คนพูดยิ้มยั่ว "ฉันไม่เคยอยากให้คุณมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน ปล่อย!" ดวงตากลมโตแข็งกร้าว ไม่ยอมโอนอ่อนแม้สถานการณ์จะตกเป็นรองอีกฝ่าย "งั้นมาดูกัน ว่าถ้าผมทำมากกว่าแตะเนื้อต้องตัว คุณจะรู้สึกยังไง!" "อย่านะคุณชยกฤต อย่า!!!" “อ๊ะ จะ เจ็บค่ะ” เสียงหวานร้องบอกคนตัวโต ชยกฤตได้สติจึงพยายามกดจูบแผ่วเบาราวกับต้องการปลอบประโลมไม่ให้เธอต้องหวาดกลัว มือหนาทำการปลดกระโปรงตัวบางออกจากช่วงล่างได้สำเร็จ ฐิติวรดาไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ความเสียวซ่านที่เขามอบให้แก่ทรวงอกสล้างนั้นพล่าผลาญลมหายใจให้ติดขัด ชยกฤตเห็นคนตัวเล็กเริ่มเปิดรับมากขึ้นจึงละริมฝีปากจากสองเต้างามแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวมายังเบื้องล่าง มือหนาจับเรียวขางามให้แยกออกจากกันอย่างช้าๆ ทำทุกอย่างบนความเนิบนาบ เขาอยากให้ช่วงเวลาเหล่านี้ตราตรึงในทุกๆ ความทรงจำ ดอกกุหลาบงามปรากฏต่อสายตาเหยี่ยว ชยกฤตลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นความเปล่งปลั่งตรงหน้า กลิ่นกายจากเธอช่างหอมอบอวลจนเขาอดใจไม่ไหวอีกต่อไป ใบหน้าคมคายก้มต่ำอยู่ในระดับเดียวกับใจกลางสาว มือหนาลูบไล้เนินเนื้ออูมไปมา ฐิติวรดาดิ้นพล่าน… มือไม้ป่ายปัดไปทั่วบริเวณ ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ชยกฤตอมยิ้มเมื่อตนสามารถทำให้คนจอมหยิ่งยอมสยบลงได้ ลิ้นร้อนแสนร้ายกาจไม่รอช้า ทำหน้าที่ละเลงลงบนพื้นที่หวงแหนทันที ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกรุกรานจากลิ้นสาก ฐิติวรดาลืมตาเบิกกว้างพลางกับผงกศีรษะทุยเพื่อมองความเป็นไปตรงเบื้องหน้า ชยกฤตกำลังห้อปลายลิ้นดูดกลืนตัวตนของเธออย่างเอร็ดอร่อย!
  • 7 ตอน
  • 2,173
นิยายโดย
  • 27 คนติดตาม
บทนำ

บทนำ



คุณค่าของความเป็นคน

ไม่ได้วัดกันตรงที่ชาติกำเนิดเสมอไป




“หนูอยู่ที่นี่นะลูก… อยู่กับคุณปู่”

เสียงของมารดาเอ่ยกับบุตรสาวตัวน้อย เด็กหญิงมองตรงไปยังเบื้องหน้าพบภาพสวยงามราวกับมีจิตกรฝีมือเยี่ยมบรรจงสร้างให้บังเกิด เรือนทรงสูงสีขาวช่างไม่คุ้นตาเอาเสียเลย เห็นทีคงไม่ใช่บ้านเรือนไทยอย่างที่เคยอยู่ สิ่งที่ปรากฏช่างตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กสาวนัก ให้ความรู้สึกเสมือนล่องลอยอยู่บนสวรรค์ หากปลายเท้าเล็กไม่ได้ติดแนบชิดกับพื้นดินล่ะก็ คงเพ้อละเมอได้พบพานเทวดานางฟ้าเป็นแน่

ความคิดของเด็กสาวเตลิดไปไกล…

“ที่นี่เป็นบ้านของคุณปู่ของลูก” เสียงของมารดาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เด็กสาวขมวดคิ้วฉงน

“คุณปู่หรือคะ?” น้ำเสียงเล็กใสเจื้อยแจ้ว

“ใช่ลูก คุณปู่” มารดาย้ำอีกครา ใบหน้าสวยหวานส่งรอยยิ้มละไม ก่อนจะจูงมือเล็กป้อมให้เดินตามตนไปยังด้านใน

สวนดอกไม้ส่งกลิ่นหอมราวกับรอคอยการมาเยือนของบุคคลทั้งสอง เด็กสาวที่ชื่นชอบในธรรมชาติเป็นพิเศษถึงกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นความตระการตาตรงหน้า เหล่าผีเสื้อและแมลงตัวน้อยต่างพากันบินว่อนร่อนลมดอมดมกลีบดอกไม้สีสวยสดใส ใจอยากจะวิ่งไล่จับกับพวกมันเสียจริง ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีกิจสำคัญกำลังรออยู่ เด็กสาวแม้จะวัยละอ่อนนักหากก็รู้ความว่าอะไรเหมาะอะไรควร ด้วยว่ามารดาอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดีถึงหลักการใช้ชีวิตและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น แม้กายจะน้อยนักทว่าหัวใจกลับยิ่งใหญ่กว่าผู้ใหญ่บางคนซะอีก

“คุณแม่ขาสวยจังเลยค่ะ”

มือเล็กป้อมเด็ดดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์หนึ่งดอกอย่างอดใจไม่ไหว พลันเสียงดังกัมปนาทก็ดังขึ้นท่ามกลางความครึ้มใจของเด็กสาว

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

ด้วยความตกใจดอกกุหลาบแสนสวยหลุดร่วงหล่นตกลงสู่พื้นหญ้าเขียวขจี ดวงตากลมโตหวาดหวั่นยามบุคคลตรงหน้าสาวเท้าเข้ามาหา ใบหน้าสวยลออทว่าดุดันจ้องมองเธอด้วยนัยน์ตาไม่เป็นมิตร ใช่… เธอรู้สึกได้

“กล้าดียังไงมาเที่ยวเด็ดดอกไม้ในบ้านของคนอื่น” ถ้อยคำติเตียนดังขึ้นต่อเนื่อง มองหญิงมากด้วยวัยวุฒิที่จูงลูกน้อยแล้วยิ้มเหยียด

“นี่คงจะเป็นแม่อำไพภรรยาของคุณพี่วศันต์ใช่ไหม?” หล่อนเอ่ยถาม

“ใช่ค่ะ” มารดาของเด็กสาวตอบเสียงเรียบ แววตานั้นไม่กล้าจดจ้องสตรีผู้สูงศักดิ์นานนัก ด้วยท่าทางเห็นทีคงมีอำนาจไม่น้อยในบ้านหลังนี้

“ฉันเป็นภรรยาของคุณวศิน พี่ชายของผัวเธอ!”

หญิงมากด้วยความงามเป็นฝ่ายแนะนำตัวแก่บุคคลทั้งสอง หางตานั้นหนามองคู่แม่ลูกอย่างเดียดฉันท์ ถ้าไม่ติดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียของพี่เขย หล่อนคงได้ตะเพิดเสียให้ เกลียดนักพวกไพร่ชั้นต่ำริอยากจะชุบตัวเป็นผู้ดี

กิติศัพท์ของนางผู้นี้เธอเองก็รู้มามิใช่น้อย

“แล้วเด็กนี่ใคร” ปรายหางตามองดวงหน้าเล็ก

“ลูกสาวของดิฉันเองค่ะ” คนถูกถามตอบเสียงเรียบ

“ลูกสาวงั้นหรือ?”

ย้อนถามเสียงหยัน กอดอกมองเด็กหญิงตัวน้อยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่งกายหรือก็ไม่น่ามอง เสื้อผ้าอาภรณ์นั้นเก่านัก

แบบนี้คงต้องระวังไม่ให้ลูกหญิงของเธอมาเกลือกกลั้วกับคนพรรณนี้!

“ค่ะ ดิฉันมาหาคุณพ่อ”

มารดาเด็กหญิงเอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้าคงความสวยสดไม่แปรเปลี่ยน แม้จะมีชีวิตลำบากตรากตรำ ทว่าผิวเนื้อเจ้าหล่อนนั้นกลับขาวผุดผ่องราวกับผู้รากมากดี

“ท่านไม่อยู่!” หญิงสาวแต่งกายดูดีเอ่ยเสียงเข้ม เริ่มร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้ยินว่าอาคันตุกะต้องการพบประมุขของบ้าน

“แต่ท่านให้คนมารับดิฉันกับลูกมาที่นี่”

“คงมีเรื่องเข้าใจผิดกัน ไม่มีทางที่คุณพ่อจะให้เธอกับลูกมาเหยียบที่นี่” ถ้อยคำดูแคลนจนคนฟังเจ็บแปลบ

ความรู้สึกนี้มาอีกแล้ว… ความรู้สึกของการถูกเหยียดหยาม!

“คงจะเป็นคุณกระมังคะที่เข้าใจผิด ท่านเป็นคนให้คนไปรับดิฉันและลูกมาที่นี่” มารดาเด็กหญิงย้อนแย้ง ซึ่งเธอไม่เคยทำกิริยาแบบนี้กับผู้ใดมาก่อน

ท่าทางแข็งกร้าวของเธอทำคนฟังเดือดดาลเป็นที่สุด

“ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้ ออกไป!” ชี้นิ้วไล่สองแม่ลูก

เด็กหญิงตัวน้อยน้ำตาคลอเมื่อเจอเสียงตะหวาดกร้าวของผู้ใหญ่ ร่างเล็กป้อมรีบหลบหลังมารดาตามสัญชาตญาณ แววตาหวาดหวั่นนักเมื่อคนตรงหน้ามองตัวราวกับเกลียดชัง

เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มกรอบหน้าหวานน่ารัก…

“มีเรื่องอะไรกัน!”

น้ำเสียงคมเข้มทว่าหนักแน่นดังขึ้นสยบทุกความขัดแย้ง ทั้งสามหันไปมองเจ้าของเสียงที่กำลังเดินใกล้เข้ามา แววตานั้นดุดันสมชายชาติทหาร ร่างสูงบึกบึนแม้จะมีวัยค่อนข้างมากแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่าเกรงขามลดน้อยลง

ดวงตาอ่อนโยนยามทอดมองผู้มาเยือนตัวน้อยที่ยืนเคียงข้างมารดาอย่างกล้าๆ กลัวๆ รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปาก

“นั่นลูกของเจ้าวศันต์ใช่ไหม?”

ขออนุญาตฝากแฟนเพจนิยายด้วยนะคะ ไปกดถูกใจกันเยอะๆ น้า