จันทร์สุกสกาวส่องสว่างกระทบผิวน้ำในทะเลสาบส่องแสงระยิบระยับ มองดูแล้วช่างเหมือนกับมีพระจันทร์สองดวง ลมพัดอ่อน ๆ ส่งเสียงเป็นระยะ ๆ ทำให้ต้นไผ่ปลิวไสวเสียดสีกันไปมาจนเกิดเสียงอันไพเราะราวกับเสียงขลุ่ย ทิวทัศน์สวยงามกอปรกับบรรยากาศเงียบสงบช่างทำให้หลงใหลเคลิบเคลิ้มยิ่งนัก
แต่ทว่าบรรยากาศที่ควรจะเงียบสงบแต่กลับปรากฏเสียงกระบี่นับสิบเล่มฟาดฟันกันอย่างไม่สนใจสิ่งใด
เงาร่างในชุดดำที่อยู่กลางวงล้อมเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว คนผู้นั้นมีร่างที่กำยำแข็งแรง ถึงแม้จะมีผ้าดำปิดใบหน้าอยู่ แต่ก็ไม่สามารถบดบังรังสีโหดเหี้ยมที่แผ่ออกจากตัวเขาได้ หลังจากที่ต่อสู้กันอยู่นาน ด้วยกำลังคนที่น้อยกว่าบวกกับพิษที่กำลังแล่นเข้าสู่ร่างกายของคนผู้นั้น ทำให้เขาต้องถอยออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
คนผู้นั้นรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายซัดฝ่ามือใส่คนชุดดำ ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกมาด้วยความทุลักทุเล แต่กระนั้นคนชุดดำก็ยังไม่ละความพยายามที่จะสังหารเขา
เมื่อมองพื้นที่โดยรอบก็ทำให้นึกได้ว่าข้างหน้าอีกไม่กี่ลี้ก็จะถึงค่ายกลของสำนักหมิงเซียน แต่ว่าสำนักถูกปิดร้างมาสามปีแล้ว ตอนนี้ค่ายกลคงเหลือแค่เขาวงกต ส่วนอาวุธลับที่ซ่อนอยู่คงใช้การไม่ได้ เช่นนั้นหากเข้าไปหลบอยู่ในนั้นคงจะปลอดภัยไปสักระยะหนึ่ง
“หยุด!” บุรุษชุดดำที่อยู่หน้าสุดยกมือขึ้นปรามกะทันหัน ส่วนที่ตามหลังมาขมวดคิ้วมองเขาอย่างสงสัย
“ข้างหน้าเป็นค่ายกลหมิงเซียนที่เต็มไปด้วยกับดักสารพัด กว่าจะหาทางออกเจอจวิ้นอ๋องคงไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้!”