ดวงหน้าขาวซีดอันไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
เส้นผมสีดำขลับอันไร้ซึ่งเครื่องประดับอันหรูหรา
อาภรณ์สีขาวราวกับช่วงไว้ทุกข์อันไร้ที่สิ้นสุด
สองนัยน์ตาหงส์ไร้ซึ่งแววตาสะท้อนเพียงความเยาะหยัน
ริมฝีปากสีชาดเหยียดยิ้มเพียงมุมอย่างไร้ซึ่งจิตใจ
สำหรับนางความรักหาใช่สาระสำคัญในชีวิต
แต่ความแค้นต่างหากคือเหตุผลที่ยังหายใจ
■■■■■■■■
'หากที่หนใดมีรัก ที่แห่งนั้นย่อมมีทุกข์
เช่นนั้นแล้วหัวใจที่ไร้รัก จะไร้ซึ่งความทุกข์....
จริงหรือ?'
หลางอวิ้นหยาง
ฮ่องเต้หนุ่มมากรัก ผู้หลุ่มหลงและมึนเมาในสตรีเพศ
ฉงหลินหลิง
เด็กสาวเย็นชา ผู้ไม่เคยศรัทธาในความรัก
*ตัวอย่าง*
ต้นเหมยเรียงรายล้อมรอบพวกเขาทั้งคู่ไว้ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน กลุ่มดอกสีชมพูกับแดงบานสะพรั้งส่งกลิ่นหอมหวน บ้างก็โปรยไปตามสายลม นางคว้าสาบคอเสื่อของเขากระชากให้โน้มลงต่ำโดยไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากของเขาถูกประกบจูบอย่างจืดชืดและเย็นเฉียบราวกับถูกแช่แข็งในน้ำแข็งพันปี แต่ยังไม่ทันได้คิดอ่านอันใดนางก็ผละตัวออกไปเสียก่อน เขาในตอนนี้ราวกับโง่งมไปชั่วขณะหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของนางยังคงมีแต่ความเรียบนิ่งไร้ท่าทีเขินอายอยู่เช่นเดิม ดวงตาไร้แววราวกับปลาตายนั้นมองเขาอย่างเย็นชาและดูแคลนยิ่ง นางใช้ปลายเรียวนิ้วเล็กค่อยๆปากเช็ดริมฝีปากของตนเบาๆราวกับเช็ดสิ่งสกปรกออกไปจากตัว ก่อนที่นางจะย่นคิ้วนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะรำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
"ไม่เห็นจะมีความรู้สึกอันใดสักนิด"
"....?!" ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นอย่างสับสน
"น่าขยะแขยง"
"...!!!" ดวงตาของเขาเบิกค้างอย่างตกตะลึง พลางคิดว่าเมื่อครู่ปากของตนมีกลิ่นหรือไม่
"สกปรกสิ้นดี"
"!!!!!!!!" ชายหนุ่มพลันได้สติ โมโหที่ตนโดนเด็กทารกสบประมาทจนควันออกหู แต่ยังไม่ได้กล่าวหรือทำการสิ่งใดนั้น
เด็กสาวหน้านิ่งก็ตัดบทโดยการหันมาพูดอย่างเย็นชาว่า "...ทูลลาเพคะ"