ครั้งเดียวฤาจะพอ
วรรณกรรมผู้ใหญ่
ครั้งเดียวฤาจะพอ
วรรณกรรมผู้ใหญ่
มาดามเกรย์
ร่างเปลือยเปล่าที่กำลังใช้ฟองน้ำถูสบู่เหลวไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งยวนใจมองเห็นเป็นเงารางเลือนหลังกระจกฝ้ากั้นส่วนอาบน้ำ แต่นั่นก็มากพอที่จะปลุกเร้าแม้แต่นักบวชให้ตบะแตก กิตติศักดิ์ซึ่งตั้งใจจะแวะมาดูว่าหล่อนไม่ขาดเหลืออะไรยืนตะลึงจ้องมองตรงประตูห้องน้ำที่เปิดอ้า ทุกส่วนของร่างกายตื่นตัวลุกโลดขึ้นรับภาพยั่วกิเลสตรงหน้า โดยเฉพาะกึ่งกลางกายนั้นคึกแข็งดันเป้ากางเกงยีนส์จนโป่งตุง มันเต้นตุบๆ เสียวซ่านจนปวดร้าว อยากปลดปล่อยเหลือกำลัง มือของเขาเลื่อนไปที่เป้ากางเกง เกาะกุมแล้วบีบเบาๆ หวังปลุกปลอบให้สงบลง แต่มันกลับแข็งสู้หนักขึ้นกว่าเดิมจนต้องหลับหูหลับตาถูไถแรงๆ คิดว่าคงสำเร็จเสร็จสมก่อนที่คนอีกฟากกระจกจะอาบน้ำเสร็จ เขากัดฟันข่มเสียงคำรามขณะจัดการกับตัวเองอย่างเมามัน ไม่รู้สึกตัวว่าเสียงน้ำจากฝักบัวหยุดลงตั้งแต่เมื่อไร มาริลินเปิดประตูกระจกออกมาตะลึงมอง ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ก้าวเข้ามาหา จับมือของเขาอกจากเป้ากางเกงแล้วแทนที่ด้วยมือเล็กขาวผ่อง เขาสะดุ้งลืมตาโพลง ถูกจับได้คาหนังคาเขาเลยตะกุกตะกักไปไม่ถูก “ลิน ลิน พี่...เอ่อ...พี่...” “ให้ลินช่วยนะคะ” มาริลินยิ้มหวาน กระซิบเสียงแผ่ว หน้าแดงซ่าน ขณะที่มือน้อยบีบๆ กำๆ เช่นคนไม่เคย ไม่ประสีประสา แต่ก็สร้างความเสียวสยิวมากพอที่จะทำให้เขากัดฟันกรอด สั่นระริกไปทั้งตัว **มีจำหน่ายราคาพิเศษ 69.00 ที่ meb จนถึง 12 พ.ค. 62 จากนั้นปรับราคาเป็น 89.00 บาท**
  • 6 ตอน
  • 5,889
นิยายโดย
  • 75 คนติดตาม
บทนำ

บทที่ 1 – อุ้มบุญ

อาคารเบื้องหน้าดูเผินๆ คล้ายบ้านหรูทั่วไป แต่แท้จริงเป็นคลินิกผู้มีบุตรยากซึ่งเจ้าของเป็นนายแพทย์หนุ่มชื่อดังขนาดที่มีมหาเศรษฐีและดาราคนดังจากทั่วโลกมาใช้บริการ

รถของธาริณีกับกิตติศักดิ์จอดเทียบด้านหน้า สามีภรรยามองหน้าแล้วยิ้มให้กำลังใจกันก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรองและถูกนำเข้าไปในห้องๆ หนึ่งที่ตกตกให้ดูอบอุ่นสบายตาเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น ทั้งสองนั่งคู่กันบนโซฟา ใจเต้นระทึก แม้จะเคยมาที่นี่หลายครั้งนี้ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้สัมภาษณ์หญิงสาวโสดและไม่โสดหลายคนที่มารับจ้างอุ้มบุญ

ที่จริงแล้วทั้งสองยังหนุ่มสาวและแข็งแรงดี ธาริณีอายุ 32 ส่วนกิตติศักดิ์ 36 แต่พยายามมาแล้วห้าปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะตั้งท้อง หมอวิเคราะห์ว่าอาจเป็นเพราะความเครียดจากการทำงานและเวลาที่แตกต่างกัน ฝ่ายหญิงเป็นผู้ช่วยผู้บริหารระดับซีอีโอกลุ่มบริษัทท็อปไฟว์ของประเทศซึ่งทุ่มเทกายใจให้การทำงานเกินร้อย ความวิตกกังวลรวมทั้งเวลาทำงานจึงเกินร้อยไปด้วย ส่วนฝ่ายชายเป็นนักบินสายการบินใหญ่ เวลาที่จะอยู่ในประเทศตรงกับเวลาว่างของภรรยาจึงมีน้อยเช่นกัน เมื่อถูกกดดันด้วยความคาดหมายจากพ่อแม่ญาติพี่น้องทั้งสองครอบครัวที่รอคอยอยากอุ้มหลานมาหลายปี ทั้งสองจึงตัดสินใจใช้วิทยาศาสตร์การแพทย์เข้าช่วย และทุกอย่างก็ดำเนินมาด้วยดีจนถึงขั้นตอนการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมมาอุ้มบุญ

เวลาผ่านไปค่อนวันกับการสัมภาษณ์อย่างละเอียดสามคน แต่ก็ยังไม่มีคนไหนถูกใจ จนกระทั่งคนที่สี่ก้าวเข้ามาแล้วทำให้สองสามีภรรยาประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

ทางคลินิกจัดแฟ้มประวัติมาให้ศึกษาก่อนการสัมภาษณ์ รูปที่ติดไว้ดูเป็นหญิงสาวสวยงามน่ารัก แต่ยังห่างไกลจากความเป็นจริง เพราะภาพถ่ายไม่อาจสะท้อนผิวที่งดงามผุดผาด ประกายวิบวับในดวงตากลมโต สีแดงระเรื่อของพวงแก้มและริมฝีปาก ฟันขาวเรียบ รวมทั้งเส้นผมสีน้ำตาลอมทองที่เรียกว่าสีน้ำผึ้ง เรือนร่างภายใต้กระโปรงยีนส์และเสื้อเชิ้ตแขนกุดสีพีชแบบเรียบง่ายดูสมส่วน มีส่วนเว้าส่วนโค้งเต็มตึง กิริยาวาจายามยอบตัวลงไหว้อ่อนช้อย น้ำเสียงตอนแนะนำตัวก็หวานใสจับใจ

“หนูชื่อมาริลิน เรียกหนูสั้นๆ ว่าลินก็ได้คะ หนูอายุ 19 ย่าง 20 เป็นกำพร้า พ่อตายไปนานแล้ว แต่แม่เพิ่งเสียไปเมื่อปีก่อน ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เลยต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือกับใช้หนี้นอกระบบที่แม่กู้มารักษาตัว แต่พอทำงานมากเข้า บางครั้งก็ตามเพื่อนไม่ทัน เลยคิดว่าจะพักการเรียนสักปีหนึ่ง หาเงินใช้หนี้ให้หมดกับเก็บบางส่วนไว้เป็นค่าเล่าเรียนกับค่าใช้จ่ายจนกว่าจะเรียนจบ พอได้ยินข่าวว่ามีคนต้องการคนมาอุ้มบุญหนูก็รีบมาสมัครเลยค่ะ”

ได้ฟังเพียงแค่นี้ธาริณีก็ใจอ่อนยวบด้วยความสงสาร แทบจะตอบตกลงจ้างทันที หล่อนหันไปยิ้มและสบตาบอกความพึงพอใจของสามี

ทั้งสองยังถามชีวิตความเป็นอยู่ของมาริลีนอีกสองสามประโยค ก่อนจะบอกเป็นนัยว่าจะแจ้งผลการสัมภาษณ์ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีผ่านฝ่ายจัดการของคลินิก หญิงสาวยิ้มหวาน กล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้ลา แต่พอเดินไปถึงประตู ก็มีเสียงถามตามมาในนาทีสุดท้าย

“ลืมถามไปว่าน้องมีแฟนหรือยัง ถ้ามีแล้วต้องมาตั้งท้องให้คนอื่น เขาจะไม่ว่าเอาหรือ”

มาริลินหน้าแดงซ่าน หลบตาคนสัมภาษณ์ มือพันกัน ตอบเสียงสั่นอย่างขวยเขิน “หนูต้องทำงานหาเงินส่งตัวเอง ถึงจะมีคนมาจีบ หนูก็ไม่มีเวลาให้เรื่องพวกนั้นหรอกค่ะ”

หล่อนช้อนตาวาวหวานขึ้นสบกับตาคมกล้าของกิตติศักดิ์เพียงแวบเดียวเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่นั้นก็ทำเอาคนมองหัวใจสะท้าน ซาบซ่านไปทั้งตัว

“ณีชอบมาริลิน รู้สึกถูกชะตาอย่างไรไม่รู้ พี่ศักดิ์ว่ายังไงคะ” มัวแต่มองตามมาริลิน ปลาบปลื้มดีใจที่ได้พบคนที่เหมาะสมจะอุ้มท้องลูกให้หล่อน ธาริณีไม่รู้เลยว่าคนข้างตัวก็มองตามเช่นกัน แต่ด้วยแววตาหวานเยิ้มเคลิ้มฝันราวต้องมนต์สะกด

“พี่ก็ว่ายังงั้น” กิตติศักดิ์ตอบเพียงสั้นๆ ไม่กล้าพูดมากกลัวเสียงสั่นบ่งบอกถึงหัวใจที่ไหวหวั่น เพราะแม้สาวน้อยจะออกไปจากห้องแล้ว แต่รอยยิ้มพิมพ์ใจ เสียงใสๆ ผิวขาวผ่อง และส่วนสัดรัดรึงยังตราตรึงในความทรงจำ

นิยายเรื่องอื่นของมาดามเกรย์