มันโรแมนติกมาก
ฉันยืนเถ้าสะเอวมองผลงานของตัวเองอย่างชื่นชม
"เยี่ยม"
เปลวไฟสีเหลืองเล็กๆ วูบระริกอยู่ทั่วห้อง ขับบรรยากาศแสนโรติกให้ชุ่มชื่นหัวใจพร้อมกับกลิ่นหอมปลอบประโลม ฉันกวาดตามองเทียนหอมนับสิบเล่มที่วางอยู่ตามมุ่งต่างๆ ทั่วทั้งห้อง
เมี้ยววว~
แมวเปอร์เซียสีส้มตัวอ้วนกลมเจ้าของนามสุดหล่อ 'แบรนดอน' ขานรับเป็นลูกคู่ที่ดี ฉันก้มลงอุ้มไอ้อ้วนขึ้นมากอด
"ไปดินเนอร์กันเถอะคุณสามีแบรนดอน" ฉันว่าแล้วก็หิ้วคุณสามีขนปุยเดินไปที่โต๊ะอาหาร ตามทางเดินนั้นโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบยิ่งทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความโรแมนติก
แต่ไอ้อ้วนของฉันเกลียดการถูกกอดอย่างกับอะไรดี มันพยายามดิ้นลงส่วนฉันก็ไม่ยอมปล่อย เราสู้กันมาตลอดทางเดินมาถึงโต๊ะ ฉันจึงยอมตัดใจปล่อยมันไป แล้วมาสนใจจานสเต็กกับไวน์เก่าเก็บนับยี่สิบปีราคาแพงหูฉี่แทน
อื้มมม รสชาติเยี่ยม
เจ้าแบรนดอนสะบัดก้นหนีฉันไปหลังเค้าเตอร์บาร์ ไม่มีเยื่อใยซักนิด
ฉันนั่งละเลียดอาหารของตัวเองอย่างดื่มด่ำ นิ้วมือเรียวๆ เลื่อนสไลด์หน้าจอสมาร์ทโฟนสนทนากับตัวละครหนุ่มหน้ามนไปเรื่อยๆ
"คุณสามีน่ารักจัง" ฉันเอ่ยกับคนในเกมส์ พลางตอบคำถามเมื่อถึงด่านที่ต้องให้ผู้เล่นตัดสินใจ
โอโตเมะเกมส์ หรือเกมส์จีบหนุ่ม ฉันเปย์ให้มันมากมายมหาศาล ชายที่เปย์ไปแล้วไม่มีทางนก...นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ
เพล้ง!
เสียงอะไรบางอย่างแตกทำให้ฉันสะดุ้งหันไปมองด้านหลังโดยอัตโนมัติ ทันเห็นเจ้าสามีขนปุยของตัวเองกระโดดหน้าตื่นออกมาจากห้องนอนที่ฉันเดินออกมาเมื่อครู่ ฉันส่ายหน้าไม่สนใจมันแล้วก้มลงคุยกับสามีในมือถือต่อ
กำลังยกไวน์ขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์ ตอนนั้นเองกลิ่นไหม้เริ่มเข้ามากระทบโสตประสาท แต่เพราะมัวติดพันกับเกมส์ฉันจึงแค่ย่นจมูกอย่างหงุดหงิด
แอร๊ยยย ฉันใจละลายกับหนุ่มผมทองจริงๆ
ฟุดฟิด
กลิ่นไหม้มันชักจะแรงไปแล้ว ควันนี่ก็เริ่มเหมือนจริงและอยู่ใกล้จนเกินไป
ไม่ใช่แล้ว!
ฉันหันขวับไปทางที่คุณสามีตัวสีส้มพึ่งจากมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะผุดลุกพรวดอ้าปากค้างเมื่อพบว่าภายในห้องนอนของตัวเองเต็มไปด้วยควันไฟ มิหนำซ้ำมันยังประกายไฟเหลืองๆ วูบวาบออกมาอีก สปริงเกอร์บนเพดานทำงานอยู่ แต่ดูเหมือนเพลิงจะก่อตัวเร็วและแรงจนมันควบคุมไว้ไม่ได้
สัญชาตญาณการป้องกันภัยสั่งให้ฉันรีบพุ่งไปที่ซิงค์ล้างจานแล้วรองน้ำใส่โถสลัดใบโตเพื่อจะเอาไปดับไฟ ฉันรีบหยิบโถสลัดมาวางใต้ซิงค์แล้วเปิดน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะ...จ๋อม!
มือถือฉันจมดิ่งลงไปในน้ำพร้อมกับหัวใจอันเจ็บปวดของฉัน!
หน้าคุณสามีดับวูบพร้อมกับหน้าจอโทรศัพท์
ม่ายยยยยยยย ฮื่ออออออ
ฉันรีบตะเกียดตะกายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และทำสิ่งที่โง่ที่สุดในชีวิตคือกดเปิดเครื่อง แง้! มันไม่ติดซะแล้ว ฉันวางโทรศัพท์ลงข้างตัวอย่างหมดอาลัยตายอยาก ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องแจ้งยามให้มาช่วยดับไฟ ไม่สิฉันต้องแจ้งตำรวจ โอ๊ย! แล้วฉันจะแจ้งยังไงล่ะ โทรศัพท์เครื่องเดียวก็ตกลงไปในอ่างล้างหน้าไปแล้ว
งั้นฉันจะวิ่งลงไปแจ้งยาม! แล้วถ้าระหว่างรอลิฟต์และวิ่งไปแจ้งยามที่อยู่ด้านล่างตึก ไฟในห้องนั่นลามไปกันใหญ่ล่ะ! ฉันควรจะไปขอยืมโทรศัพท์จากเพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้านเขาก็มีประโยชน์กันตรงนี้ล่ะ!
คิดได้แล้วฉันรีบใช้เท้าคีบสลิปเปอร์วิ่งปรู๊ดไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามทันทีโดยลืมเสียสนิทว่าตัวเองยังอยู่ในเสื้อยืดเน่าๆ ตัวโปรด
ทั้งชั้น VIP นี้มีแค่สองห้องเท่านั้น คือห้องของฉันและเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ เขาคือเพื่อนบ้านเพียงหนึ่งเดียว พอไปถึงประตูฝั่งตรงข้าม ฉันรีบกดกริ่งรัวๆ สามครั้งติดกัน พยายามรักษามารยาทที่ดีไม่รัวกดกริ่งแต่มันอดไม่ได้จริงๆ
เห็นคนด้านในไม่ตอบฉันจึงทุบกริ่งรัวๆ อีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมเสียงตะโกนประกอบ
"คุณคะ ช่วยฉันด้วย บ้านฉันไฟไหม้ ขอฉันยืมโทรศัพท์หน่อย" คราวนี้ได้ผล ฉันได้ยินเสียงคนเดินลากเท้ามาแล้ว
กริ๊ก! ประตูเปิดออก
แสงจากด้านนอดสาดเข้าไปข้างใน ภายในห้องของเขามืดมาก เขาไม่ได้เปิดไฟแม้แต่ดวงเดียว ฉันชะโงกหน้ามองหาเพื่อนบ้านผู้ไม่เคยพบกันแต่ไม่เห็นร่างของเขา
"แบรนดอน!"
เจ้าแมวอ้วนที่แอบตามฉันออกมาด้านนอกเดินเฉียดขาฉันหลุบหายเข้าไปในห้องของเพื่อนบ้าน ฉันไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากส่งเสียงเข้าไป
"คุณคะ ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้มั้ยคะ มันฉุกเฉินจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน แล้วก็แมวของฉันพึ่งแอบเข้าไปในห้องคุณเมื่อครู่"
อีกฝ่ายนิ่งไปอึดใจก่อนที่มือถือเครื่องบางจิ๋วจะถูกยิ่นออกมา มันเป็นรุ่นล่าสุด แถมยังเป็นลิมิเต็ดอีดิชั่นแพงหูฉี่ผลิตแค่ไม่กี่เครื่องเท่านั้น มือของเขาขาวซีดแถมยังเรียวสวยน่ากัดเป็นบ้า ฉันรับมาและแอบสัมผัสมือเขาไปเล็กน้อยด้วยความอยากจับ พบว่าผิวเขาทั้งลื่นและเย็นเฉียบ
"ขอบคุณค่ะ"
นี่ไม่ใช่เวลามาแตะอั๋งเพื่อนบ้าน ฉันควรจะยืมมือถือเขาแล้วรีบโทรหายามสิ!
บ้าจริง ฉันไม่รู้หมายเลขติดต่อยาม ฉันจึงกดโทรหาตำรวจแล้วบอกที่อยู่เขาไป อีกไม่นานความยุ่งยากต้องตามมาแน่ๆ ฉันเอ่ยขออนุญาติเจ้าของมือถืออีกครั้งเพื่อโทรหาทนายความคนสนิทของครอบครัว
"คุณคะ ฉันขอยืมโทรหาทนายอีกนิดได้ไหมคะ"
"อืม"
เสียงเขาแหบแห้งแต่ฟังดูเซ็กซี่เป็นบ้า
ฉันกดเบอร์โทรเพียงหนึ่งเดียวที่จำได้อย่างรวดเร็วแล้วบอกเล่าเหตุการณ์ คุณทนายบอกให้ฉันออกจากบ้านและดูแลตัวเองดีๆ เดี๋ยวเขาจะรีบไป ฉันคุยเล่าเหตุการณ์อีกซักพักเพื่อให้เขาสามารถตอบคำถามตำรวจแทนฉันผู้รักความสงบไม่ชอบคนแปลกหน้า
"ฉันคุยเสร็จแล้วคะ ขอบคุณที่ให้ยืมนะคะ"
ฉันกดวางสาย ว่าแล้วก็ยื่นโทรศัพท์เข้าไปในประตู แอบชำเลืองมองเข้าไปด้วยความอยากรู้ไม่ได้ ฉันไม่เคยเห็นเพื่อนบ้านคนนี้มาก่อนเลย ฟังจากเสียงแล้วเขาน่าจะยังหนุ่มอยู่ ฉันอยากเห็นหน้าเขาจัง รออยู่อึดใจกลับไม่มีใครยื่นมือมารับโทรศัพท์
"เอ่อ รบกวนคุณอุ้มแมวฉันออกมาด้วยได้มั้ยคะ"
ตุ้บ! วัตถุหนาหนักตกลงบนพื้นเสียงดังมาก ฉันอดถามอย่างตกใจไม่ได้ "คุณคะ เป็นอะไรรึเปล่า เปิดไฟหน่อยไหม"
ไร้เสียงตอบกลับ ฉันจึงเรียกอีกครั้ง "คุณคะ"
"เข้ามา..."
เสียงเซ็กซี่นั่นอีกแล้ว ฉันกลืนน้ำลายอยู่หน้าประตูอย่างลังเล มันมืดมากดูน่ากลัวชอบกล ฉันควรเข้าไปดีไหมนะ
บ้าจริง
ถึงเขาจะเป็นเพื่อนบ้านที่ร่ำรวยมหาศาลขนาดซื้อห้องหรูและแพงที่สุดข้างๆ ฉันได้ แต่นั่นไม่ได้การันตีว่าเขาจะเป็นคนดีนี่นา ฉันไม่ควรเข้าไปนะ แต่แมวของฉันอยู่ข้างในนั่น
"เอ่อ คุณเปิดไฟหน่อยได้ไหม ฉันมองไม่เห็น"
นี่ฉันพูดประโยคข้างบนเหรอ แล้วนั่น! นั่นเธอเดินเข้าไปในบ้านเขาทำไมน่ะยัยอลิส หยาง!
เจ้าเท้าบ้าพาฉันก้าวเข้าไปในบ้านมืดๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นราวกับถูกแรงดึงดูดอันลึกลับเชื้อเชิญเข้ามา เอาน่าผู้ชายที่มือสวยขนาดนั้นดูแล้วคงไม่น่าจะเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้หรอก แถมมือเขาก็นิ่มมาก ถ้าหมอนี่คิดร้ายจริงฉันจะเตะให้เขาร้องขอชีวิตไม่ทันเลย!
"คุณเพื่อนบ้าน"
ฉันเรียกเมื่อเดินเข้ามาแล้วไม่สามารถจับสัมผัสได้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน ฉันคลำไปยังตำแหน่งสวิตไฟอย่างคุ้นชิน ด้วยคิดว่าแปลนบ้านของเขาคงจะคล้ายคลึงกับแปลนบ้านของฉันที่อยู่อีกฝั่งนั่นแหละ
ฉันจะเอามือถือเขาวางไว้ตรงนี้แล้วรีบๆ เรียกเจ้าแมวอ้วนของฉันดีกว่า
บอกกับตัวเองแล้วมือก็แตะโดนสวิชไฟพอดี
วูบ!
สัมผัสของร่างกายมนุษย์อีกผู้หนึ่งซ้อนอยู่ที่ด้านหลังฉัน มืออันเย็นเฉียบของใครบางคนตะปบมือของฉันไว้แล้วดึงออกห่างจากสวิตไฟ ฉันตกใจมากเตรียมหมุนตัวหลบตามสัญชาตญาณ ทว่าเอวของฉันกลับถูกคนที่อยู่ด้านหลังล็อคเอาไว้ เรี่ยวแรงของเขามหาศาล เขารั้งเอวฉันจนลำตัวด้านหลังฉันแนบติดกับแผ่นอกของเขา สะโพกสัมผัสถูกความแข็งทื่อแห่งปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าของผู้ชาย
โอ้ว ม่าย ก็อด!
ฉันถูกผู้ชายลวนลามหรือเนี่ย!
นักเทควันโดสายดำดั้งห้าอย่างฉัน ถูกจับล็อคจนขยับไม่ได้เนี่ยนะ!
ปัง! ประตูหน้าห้องปิดสนิทลง
คราวนี้ล่ะ หัวใจฉันตกลงไปอยู่ตาตุ่มอย่างแท้จริงแล้ว
"ปล่อยนะ" ฉันกดเสียงต่ำ ความกรุ่นโกรธระคนหวาดกลัวผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันพยายามสะกดความกลัวลงไม่ให้ตัวเองสติแตก
ลมอันเย็นเฉียบพัดผ่านซอกคอฉัน เมื่อคนด้านหลังก้มลงเพื่อแตะกลีบปากลงบนติ่งหูฉันก่อนจะขบเม้มมัน มือที่จับมือขวาของฉันไว้แข็งแกร่งเสียจนฉันดึงมือตัวเองไม่ออก ทางเดียวที่ทำได้ก็คือจิกทึ้งเส้นผมของเขา
"อา..."
เสียงนี้! เขาคือเจ้าของมือถือที่ให้ฉันยืมเมื่อครู่! นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ
เขาไม่ร้องคร่ำครวญแม้แต่นิดเดียวทั้งที่ฉันจิกผมเขาจนแทบจะกระชาก เขาเพียงครางเสียงต่ำเท่านั้น
และให้ตายสิ มันเซ็กซี่เป็นบ้า!
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะโกรธแล้วอัดคุณจนสลบ" ฉันกัดฟันเมื่อมือที่เคยกุมอยู่ที่เอวเลื่อนไปยังแอ่งสะดือ
"ในทีุ่สดก็พบ" เขากระซิบเสียงแตกพร่า "ผมต้องการคุณ"
ไอ้บ้านี่!
"แต่ฉันไม่ต้องการคุณ ปล่อยเดี๋ยวนี้!"
ฉันเถียงกลับ จิกผมแน่นขึ้น เขาเองก็เลื่อนมือต่ำลงไป นิ้วของเขากำลังจะสอดเข้าไปใต้กางเกงวอล์มเนื้อหนาของฉัน
"คุณก็ต้องการผม...คุณกำลังติดสัดที่รัก"