กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ 将军夫人不好惹
คนต่างพากันอิจฉาสตรีผู้มีกำเนิดอันสูงศักดิ์ หากแต่จะมีผู้ใดล่วงรู้บ้างว่า ท่านหญิงอย่าง ‘จ้าวกุ้ยอิน’ หากได้คิดเช่นนั้นไม่
นอกจากสถานะสูงส่งกับรูปโฉมงดงามปานเทพธิดาแล้ว ยังมีสิ่งใดให้ยินดีบ้าง...
เริ่มจากวัยเยาว์ นางเปิดโปงธิดาท่านโหวที่มีกลิ่นกายล่อลวงบุรุษดุจนางปีศาจ จึงถูก ‘ฉินอ๋องมู่เลี่ยงหรง’ ผู้เป็นคู่หมายรังเกียจว่าเป็นสตรีใจคับแคบ
แม้ต่อมานางจะใช้ร่างกายต่างโล่กันธนูปกป้องเขา ก็ยังถูกกล่าวหาว่าสร้างสถานการณ์เพื่อจะได้แต่งเข้าจวนอ๋อง นอกจากเขาจะไม่สนใจไยดีสตรีที่บาดเจ็บสาหัสแล้ว ยังแต่ง ‘เยี่ยนเยว่ฉี’ บุตรีแม่ทัพใหญ่เป็นหวางเฟยหน้าตาเฉย
เนื่องจากฉินอ๋องไม่ต้องการรับผิดชอบท่านหญิงผู้มีแผลเป็นจากคมธนู จึงเป็นตัวตั้งตัวตีให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ ‘เยี่ยนหยางจง’ พี่ชายของสตรีที่แย่งชิงทุกสิ่งจากนางไป โดยตนเองมีค่าเป็นเพียงรางวัลในงานล่าสัตว์ฤดูร้อนเท่านั้น
เมื่อต้องแต่งงานกับบุรุษที่ไม่ได้รัก จึงตั้งใจว่าต่อให้ต้องตายก็จะไม่มีวันร่วมหอกับเขาเป็นอันขาด ทว่าคืนแต่งงานนางกลับถูกวางยาปลุกกำหนัด ในที่สุดต้องตกเป็นของชายเจ้าเล่ห์ผู้นั้นโดยมิอาจต้านทาน
ครั้นนางตั้งใจจะใช้ชีวิตเป็นฮูหยินซื่อจื่อไคกั๋วกงอย่างสงบ แต่เรื่องยังคงประดังประเดเข้ามา เมื่อแม่สามีไม่โปรดปราน ซ้ำร้ายนางกำนัลคนสนิทยังต้องโทษถูกโบยจนตาย
สวรรค์! ข้ายังต้องเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก...
************************************
จ้าวกุ้ยอินไม่ยินยอมให้เยี่ยนหยางจงแก้ตัว ยังคงพูดในสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา
“เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าอาจไม่ใช่คนเลวทราม หากพูดจาให้เข้าใจ ตกลงกันได้ ข้าคงสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุข แต่เท่าที่เห็น พวกเจ้ารวมหัวกันหยามเกียรติข้า ไม่เห็นแก่หน้าจวนจ้าวอ๋องแม้สักนิด”
“หยามเกียรติ?”
“ตั้งแต่ข้ายังไม่ลงจากเกี้ยวเจ้าสาว เจ้าก็ข่มข้าให้ผู้อื่นยืนหัวเราะเยาะ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อคืนนี้ผู้ใดเล่าวางยาปลุกกำหนัดจนข้ากลายเป็นสตรีไร้ยางอาย”
“อินเอ๋อร์ มันไม่ใช่อย่างนั้น ข้า...”
“ทั้งที่ตนเองถูกเล่ห์กล แต่มารดาเจ้ากลับมองข้าเป็นนังแพศยาล่อลวงบุรุษ จึงคิดสั่งสอนสะใภ้ หากยามนั้นข้าไม่ระมัดระวังคงถูกน้ำชาราดใส่จนเสียโฉมไปแล้ว”
เยี่ยนหยางจงจึงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เถียงไม่ออก เรื่องที่นางเอ่ยออกมาจะว่าจริงก็จริง จะว่าไม่จริงก็ใช่อีก ไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากตรงไหน แต่การแสดงออกเช่นนี้ทำให้จ้าวกุ้ยอินมั่นใจว่าตนเองคิดถูก
“มีดสั้นพระราชทานเล่มนั้นข้าเป็นคนสั่งให้ชิวสุ่ยโยนลงมาเอง ไม่ลากข้าออกไปโบยพร้อมกันเสียเลยเล่า จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว” จ้าวกุ้ยอินยิ้มเย็น เอ่ยวาจาท้าทาย
“เจ้าพูดบ้าอะไร!”
“ตกใจทำไมกัน ความจริงเจ้าตั้งใจจะบีบคั้นข้าให้ถึงตายในวันข้างหน้าอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
นัยน์ตาเปล่งประกายไม่ต่างจากนางม้าที่กำลังผยศ ดวงหน้างามเฉิดฉันฉาบไว้ด้วยความมาดมั่นไม่เกรงกลัว ริมฝีปากสีชาดแวววาวยกยิ้มเหยียดหยัน แต่ไม่อาจรู้ได้ว่านางยิ้มเยาะตนเอง หรือบุรุษที่อยู่ตรงหน้ากันแน่....
*************************************************
แนะนำตัวละคร
จ้าวกุ้ยอิน (ท่านหญิงกุ้ยอิน)
จ้าวกุ้ยอินนับเป็นยอดพธูผู้มากพรสวรรค์ความสามารถ รูปโฉมงดงาม จนถูกขนานนามว่า 'หยางกุ้ยเฟยแห่งแคว้นหาน'
มีนิสัยตรงไปตรงมา คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น อดทนอดกลั้น ไม่ชอบให้ใครมาสงสาร เพราะเห็นแก่หน้าตาของจ้าวอ๋อง เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมักวางตัวสูงส่ง เป็นผู้ใหญ่ จึงมักถูกคนมองว่าเย่อหยิ่ง ไม่อ่อนหวาน เดิมเป็นคู่หมายที่ไทเฮาวางไว้ให้ฉินอ๋อง แต่อีกฝ่ายไม่ได้มีใจให้นาง จึงบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา สุดท้ายถูกพระราชทานสมรสให้เยี่ยนหยางจง...
เยี่ยนหยางจง (ซื่อจื่อไคกั๋วกง / แม่ทัพไป๋หู่ (พยัคฆ์ขาว))
เยี่ยนหยางจงเป็นบุตรชายคนโตของแม่ทัพใหญ่เยี่ยนหยางเจวี๋ย หน้าตาหล่อเหลาคมคาย สูงสง่า สมเป็นนักรบ
เขามีวรยุทธล้ำเลิศ พออายุได้ 18 ปีก็สามารถตัดศีรษะแม่ทัพคนสำคัญของแคว้นเป่ยได้สำเร็จ แต่บิดากลับให้เขารั้งเพียงตำแหน่งรองแม่ทัพ หลังชนะศึกทางเหนือที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน บิดาถูกเรียกตัวกลับเมืองหลวง และได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ไคกั๋วกง
เนื่องจากน้องชายของเขาทำนายว่า หากท่านหญิงกุ้ยอินได้แต่งเข้าจวนอ๋อง เยี่ยนเยว่ฉี น้องสาวของพวกเขาจะต้องมีอันเป็นไปก่อนวัยอันควร
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องเข้ามาพัวพันกับจ้าวกุ้ยอิน จนสุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับนางเสียเอง...
ตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง
มู่เลี่ยงหรง (ฉินอ๋อง)
พระอนุชาฮ่องเต้ รั้งตำแหน่งผู้แทนพระองค์ ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ตรวจสอบเชื้อพระวงศ์ เป็นบุรุษรูปงามที่สตรีต่างใฝ่ฝันหา
เดิมไทเฮาต้องการให้เขาแต่งงานกับจ้าวกุ้ยอิน แต่เขามองว่านางไม่เหมาะจะเป็นฉินหวางเฟย เพราะมีนิสัยขี้หึงและไม่ยอมคน
ต่อมาเขาตกหลุมรักเยี่ยนเยว่ฉี แต่เนื่องจากมีชะตาดอกท้อมากภรรยา เยี่ยนจิ้นหลิงจึงต้องเข้ามาแก้ชะตาให้เขา
เยี่ยนเยว่ฉี (ฉินหวางเฟย)
คุณหนูตระกูลเยี่ยน ผู้งดงามราวเทพธิดาจากดวงจันทร์ นางเป็นศิษย์ปรมาจารย์ขลุ่ยโลกันต์ ครอบครองขลุ่ยพริ้วพราย
แม้ดูอ่อนหวานน่ารัก แต่เชี่ยวชาญการขี่ม้ายิ่งธนู ลึก ๆ ไม่ต้องการใช้สามีร่วมกับสตรีอื่น
มีดวงชะตาเป็นเนื้อคู่ของฉินอ๋อง ทว่าต้องอายุสั้น ทำให้เยี่ยนจิ้นหลิงต้องเข้ามาช่วยเหลือ
เยี่ยนจิ้นหลิง
คุณชายรองตระกูลเยี่ยน ตำแหน่งกุนซือหนุ่มประจำกองทัพ เขามีผมสีเงิน รูปโฉมราวเทพเซียน ถูกยอมรับในฐานะบุรุษรูปงามอันดับ1
เป็นที่ใฝ่ฝันทั้งบุรุษและสตรี เขาฉลาด เก่งกาจ เจ้าเล่ห์ วางแผนใดไม่เคยพลาด แถมมีความสามารถในการทำนาย
ถางซือเซียน
ธิดาจวนโหว และเป็นน้องสาวของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายถางซือเซิน มีกลิ่นกายพิเศษกว่าคนทั่วไป จ้าวกุ้ยอินจึงเกลียดนางเพราะคิดว่าเป็นปีศาจมอมเมาบุรุษ นางใกล้ชิดสนิทสนมกับมู่เลี่ยงหรงมาก จนมีข่าวลือว่าเป็นหนึ่งในสตรีที่จะได้เป็นชายาจวนฉินอ๋อง
******************************************
นิยายเรื่อง กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ เป็นเรื่องลำดับที่2 ในซีรี่ย์ ชุด ลิขิตรักจิ้งจอกสีเงิน โดยผู้เขียนจะถ่ายทอดความรักของ 3 พี่น้องตระกูลเยี่ยน ได้แก่ เยี่ยนหยางจง เยี่ยนจิ้นหลิง และเยี่ยนเยว่ฉี โดยเนื้อหาในแต่ละเรื่องนั้นสามารถแยกอ่านกันได้ค่ะ
หากผู้อ่านท่านใดเคยประทับใจความรักของมู่เลี่ยงหรงกับเยี่ยนเยว่ฉีในนิยายเรื่อง ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว ย่อมต้องรู้จักพี่ใหญ่เยี่ยนหยางจงกับท่านหญิงกุ้ยอินอย่างแน่นอน เรื่องที่แล้วทั้งคู่ต่างออกมาสร้างสีสันให้กับเรื่องคนละเล็กละน้อย โดยเฉพาะท่านหญิงกุ้ยอินที่สร้างความรู้สึกหมั่นไส้ให้กับผู้อ่านอยู่เนือง ๆ แต่เรื่องนี้จ้าวกุ้ยอินมารับบทนางเอกค่ะ ไม่แน่ว่าหากได้อ่านเรื่องราวของนางไปเรื่อย ๆ อาจจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อท่านหญิงผู้นี้ก็เป็นได้
ที่แน่ ๆ นิยายของมี่เยี่ยนยังคงมีหลากรสชาติ รวมไปถึงฉากฟินจิกหมอน.... หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
ด้วยรัก มี่เยี่ยน
อย่าลืมกดตามผลงานของไรท์ด้วยนะคะ