ไนล์ รักนี้ชั่วนิรันดร์
Romance Lover
ไนล์ รักนี้ชั่วนิรันดร์
Romance Lover
Baou Phatarajinda
แม้กาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปนานเท่าใด สิ่งหนึ่งที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ นั้นคือความรัก รักแท้จากหัวใจ รักที่ติดตามหญิงเดียวในดวงใจอันเป็นที่รัก ดวงจิตเฝ้าเพรียกหา วิญญาณคอยร่ำร้อง เฝ้ารอคอยนางอันเป็นที่รักแม้นรักนี้เป็นรักที่ซ่อนเร้น หากแต่รักนั้นคือรักแรกและเป็นรักเดียว หัวใจรักนั้นมอบให้แก่นวลนางทุกภพชาติไป “นางคือทุกสิ่งของข้า เป็นรักแรก รักเดียวและเป็นรักนิรันดร์ของข้าเพียงผู้เดียวตลอดกาล”
  • 35 ตอน
  • 21K
นิยายโดย
  • 3 คนติดตาม
บทนำ

ทะเลทราย ดินแดนที่แฝงเร้นเรื่องราวในอดีต ร่องรอยแห่งอารยธรรม วัฒนธรรม ความเจริญรุ่งเรืองและสิ่งลี้ลับ ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ดินแดนที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเม็ดทรายมหาศาล ที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งลี้ลับที่แอบซ่อนเร้นในรอยทรายนั้นได้ ร่องรอยแห่งอารยธรรมจากอาณาจักรในยุคโบราณได้แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนานนับหลายพันปี ตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์จนถึงยุคล่มสลายของอาณาจักร ทุกสิ่งล้วนมิยั่งยืน มีเกิดก็ต้องมีดับ มีความเจริญก็ย่อมมีการเสื่อมถดถอยไปตามกาลเวลา และเมื่อมีรักย่อมมีการพลัดพราก

ทว่า แม้กาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปนานเท่าใด สิ่งหนึ่งที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ นั้นคือความรัก รักแท้จากหัวใจ รักที่ติดตามหญิงเดียวในดวงใจอันเป็นที่รัก ดวงจิตเฝ้าเพรียกหา วิญญาณคอยร่ำร้อง เฝ้ารอคอยนางอันเป็นที่รักแม้นรักนี้เป็นรักที่ซ่อนเร้น หากแต่รักนั้นคือรักแรกและเป็นรักเดียว หัวใจรักนั้นมอบให้แก่นวลนางทุกภพชาติไป

“นางคือทุกสิ่งของข้า เป็นรักแรก รักเดียวและเป็นรักนิรันดร์ของข้าเพียงผู้เดียวตลอดกาล


คริสต์ศักราช 1998

ณ.กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

กรุงลอนดอน เมืองที่มีความเจริญมาตั้งแต่โบราณ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของโลก ถือได้ว่าเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลกเลยทีเดียว ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของธุรกิจ เป็นผู้นำทางด้านการเงิน เทคโนโลยีและการสื่อสารรวมไปทั้งแฟชั่น ศิลปะและประวัติศาสตร์ของโลก

สะพานลอนดอน เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างนครหลวงลอนดอนและซัทเธิร์คในลอนดอน เป็นสะพานสำหรับข้ามแม่น้ำเทมส์ ตั้งอยู่ระหว่างสะพานรถไฟแคนนอนสตรีทและสะพานทาวเออร์ ทางด้านใต้ของสะพานเป็นที่ตั้งของมหาวิหารซัทเธิร์คและสถานีสะพานลอนดอน ทางด้านเหนือเป็นอนุสาวรีย์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในกรุงลอนดอนและสถานีแบ้งค์และมอนิวเมนท์

ท่ามกลางจราจรอันคับคั่งบนสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ รถเบนซ์สุดหรูสีดำคลาสสิกจอดนิ่งสนิทอยู่บนคอสะพานมิสามารถขับเคลื่อนต่อไปอีกได้ ท่ามกลางรถรามากมายที่จอดนิ่งไม่แตกต่างเช่นเดียวกัน ราวกับว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นด้านหน้าหรือมีเหตุผิดปกติอื่นใดเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด

ภายในรถคันหรู เอเดรียน่า วาร์เนอร์ หญิงสาวร่างอรชรวัย 21 ปี เชื้อสายอังกฤษปนไทย มีบิดาเป็นชาวอังกฤษและมีมารดาเป็นชาวไทย เธอเกิดและเติบโตในกรุงลอนดอน จึงได้สัญชาติเป็นคนอังกฤษตั้งแต่เกิด เธอใช้ชีวิตดั่งเช่นเด็กสาวทั่วไปอย่างสนุกสนาน และเธอเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย King’s College London จากคณะพยาบาลศาสตร์ แต่ก่อนที่เธอจะเริ่มอาชีพพยาบาลตามความใฝ่ฝัน เธอจะต้องมีบทบาทอื่นทำควบคู่กันไปด้วย นั้นก็คือบทบาทของภรรยาให้แก่ เอล็กซานเดอร์ รอสโซ่ เจ้าของบริษัทสายการบินทั้งในอังกฤษและทั่วโลก

หญิงสาวอยู่ในชุดแต่งงานสีขาวเรียบหรู หากแต่สวยสง่าประดุจเจ้าหญิง เนื้อผ้าสีขาวขึ้นมันขับเงา ลื่นนุ่มนิ่ม ตัดเย็บด้วยห้องเสื้อชุดเจ้าสาวชื่อดังในกรุงลอนดอน ช่วงบนออกแบบเป็นแขนกุดเผยแขนเรียวดุจลำเทียน เข้ารูปตั้งแต่ช่วงตัวจนไปถึงเอว ผ่าอกตรงกลางลึกไปจนถึงทรวงอกแลดูเก๋ และตั้งแต่ช่วงเอวลงไปตัวผ้าค่อยๆ ทิ้งตัว ออกแบบให้เดินได้สบายไม่รัดรูปจนเกินงาม ผมสีดำสนิทเกล้าขึ้นเก็บไว้อย่างเรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมที่จะติดผ้าคลุมสำหรับเจ้าสาว

“ตู๊ด!ตู๊ด!ตู๊ด!”เสียงโทรศัพท์มือถือแผดดังลั่น พร้อมกับมือเรียวสวยรีบคว้าโทรศัพท์กดรับสายปลายทาง และทันทีที่กดรับสาย

“เจ้าสาวเดินทางถึงไหนแล้วย่ะ อีกไม่ถึงชั่วโมงพิธีแต่งงานก็จะเริ่มขึ้นแล้ว เจ้าบ่าวของเธอมารออยู่ที่โบสถ์นานแล้วนะ คุณพ่อคุณแม่ของเธอก็มาถึงแล้วด้วย นี่เธออย่าบอกนะว่าเธอขับรถมาเองใช่ไหม”เสียงปลายสายเอ่ยถามอย่างร้อนรน

“อือ..ใช่..แต่ใกล้จะถึงแล้วตอนนี้อยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ ไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นอะไรรถไม่ขยับเลย ฉันอยู่บนสะพานมาเกือบชั่วโมงแล้ว”

“ถ้างั้นเธอจอดรถทิ้งเอาไว้แล้วรีบเดินมา โบสถ์อยู่เลยตีนสะพานไปอีกนิดเดียว ถ้าเธอขืนอยู่ในรถต่อไปจะมาเข้าพิธีแต่งงานของตัวเองไม่ทันเอาได้นะยะคุณเจ้าสาว”เสียงของเพื่อนเจ้าสาวเอ่ยบอกเร่งเร้า

“จะบ้าเหรอชาร์ลล็อต!เธอให้ฉันใส่ชุดเจ้าสาวเดินจากคอสะพานไปถึงตีนสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ เธอรู้ไหมว่ามันไกลลากเลือดแค่ไหน แล้วต้องเดินทั้งๆ ที่อยู่ในชุดเจ้าสาวนี่ด้วยอีกนะ บ้ากันไปใหญ่แล้วฉันไม่เอาด้วยหรอก”หญิงสาวโวยวายไปตามสาย ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความดีใจ

“แค่นี้นะชาร์ล็อต รถขยับแล้วเดี๋ยวเจอกันนะจ๊ะเพื่อนเจ้าสาวของฉัน”หญิงสาวเอ่ยบอกเพื่อนพร้อมกดปิดโทรศัพท์ทันที ก่อนจะติดเครื่องยนต์เตรียมพร้อมเคลื่อนตัวออกไป

“รีบขยับหน่อยสิ ได้โปรดเถอะฉันรีบ”หญิงสาวพึมพำด้วยความร้อนใจ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อรถข้างหน้าเริ่มจะเคลื่อนตัวออกจากจุดเดิม

การจราจรเริ่มจะคล่องตัวมากขึ้น และรถของเธอก็เริ่มใช้ความเร็วมากขึ้นตามไปด้วยเพื่อเดินทางไปให้ทันประกอบพิธีแต่งงานของเธอ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองถนนตรงหน้าด้วยใจที่จดจ่อเพื่อขับรถให้ไปถึงเป้าหมายซึ่งอยู่อีกไม่ไกลมากนัก ก่อนจะมองเห็นรถจากพิพิธภัณฑ์อังกฤษที่มีศิลป์โบราณอยู่ภายในตัวรถกำลังแล่นผ่านนำหน้ารถของเธอออกไป

ทันใดนั้นเอง ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตเบิกกว้างขึ้นโดยพลันด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเธอมองเห็นบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาอย่างไม่คาดฝัน

ร่างอันเลือนรางของบุรุษสูงใหญ่ในชุดอียิปต์ในสมัยโบราณ ศีรษะประดับด้วยมงกุฎทองคำ บ่งบอกฐานะว่าอยู่ในชนชั้นสูงยิ่งนัก ร่างเลือนรางดังกล่าวค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นจนหญิงสาวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน กลายเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่กลับอยู่ในชุดราชสำนักของยุคอียิปต์ในสมัยโบราณ ร่างดังกล่าวยืนขวางรถของเธอ ดวงตาคมดุภายใต้ใบหน้าอันคมเข้มจ้องมองมาที่หญิงสาวตาไม่กระพริบ

“มากับข้าเถิด! ข้ามารับเจ้าแล้ว”ชายหนุ่มในชุดโบราณที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ารถเอ่ยบอกเธอโดยผ่านทางจิต

“ป..ไป...ไปไหน...ฉันไม่รู้จักคุณ!ออกไป!”หญิงสาวตะโกนก้องออกไปด้วยความตกใจอย่างสุดขีด ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิดผ่านร่างบุรุษลึกลับในชุดโบราณอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่เหยียบคันเร่งของรถผ่านร่างลึกลับดังกล่าว หญิงสาวหันกลับไปมองด้านหลังของตัวรถเพื่อดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นเพราะตาเธอฝาดหรือเธอกำลังเห็นอะไรกันแน่

“มองหาข้าอยู่ใช่ไหมเจ้า”เสียงทุ้มกังวานแต่แฝงเร้นไปด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ดังขึ้นตรงเบาะนั่งข้างคนขับ

ร่างบุรุษรูปงามลึกลับ ทอดสายตามองมาที่เธอด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักและความคิดถึง เพียรเฝ้าโหยหาแต่เธอมาโดยตลอด ดวงตาสีนิลกาฬแม้จะคมกล้าแต่หวานซึ้งเป็นยิ่งนักเมื่อทอดสายตามองมาที่เธอ หากแต่คนถูกมองในยามนี้ สติกำลังจะแตก

“นี่...ฉันเห็นอะไรกันแน่ นี่ฉันกำลังเห็นอะไร!”หญิงสาวพูดพร้อมสะบัดศีรษะของตัวเองไปมาเพื่อขับไล่ความผิดปกติของเธอ ก่อนจะลืมดวงตากลมโตขึ้นมาอีกครั้ง

“กรี๊ดดดดดดด”หญิงสาวกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงด้วยความตกใจ

เมื่อจู่ๆ รถที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามพุ่งลอยละลิ่วตรงมาที่รถของเธอ มือเรียวหมุนพวงมาลัยเพื่อหลบหลีกการถูกพุ่งเข้าชนของรถคันดังกล่าว ทว่าการหลบหลีกรถของเธอกลับไม่เป็นไปตามที่คิด รถยนต์คันหรูของหญิงสาวเสียหลักพุ่งชนกับราวสะพานพุ่งลอยละลิ่วตกลงไปในแม่น้ำเทมส์ทันที

“ตูม!”รถยนต์ค่อยๆ จมลงใต้น้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจมมิดตัวรถไปในที่สุดพร้อมๆ กับร่างของเจ้าสาวที่ไปไม่ถึงงานแต่งงานของตัวเอง

ใต้แม่น้ำเทมส์

เอเดรียน่า พยายามปลดล๊อกเข็มขัดนิรภัยจนสามารถหลุดออกมาได้เป็นผลสำเร็จ สองมือพยายามปลดล๊อกรถยนต์แต่ไม่สามารถทำได้เพราะรถทำงานด้วยระบบไฟฟ้า เท่ากับว่าเธอติดอยู่ภายในตัวรถไม่สามารถออกไปจากรถได้และที่สำคัญแม้จะออกจากรถได้แต่เธอว่ายน้ำไม่เป็น เท่ากับว่าเธอกำลังจะจมน้ำตายนั่นเอง

หญิงสาวตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างสุดขีดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอพยายามช่วยเหลือตัวเองโดยใช้สองมือพยายามทุบกระจกด้านข้างตัวรถ แต่ก็ทุบไปได้ไม่เท่าไรหญิงสาวก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าลงด้วยเพราะเธอกำลังใกล้หมดลมหายใจ แต่ก่อนที่เธอใกล้จะหมดลมหายใจ ร่างของบุรุษลึกลับในชุดอียิปต์โบราณ เจ้าของดวงตาหวานคมซึ้งก็ได้ปรากฎให้เธอเห็นอีกครั้ง พร้อมตรงเข้ามาโอบกอดร่างของเธอไว้ในอ้อมอกของเขา แนบใบหน้าหล่อเหลาไปกับใบหน้าสวยของเธอ

“ไม่ต้องกลัวยอดรักของข้า...ข้ามารับเจ้าแล้ว”เสียงทุ้มนุ่มนวลแฝงเร้นอำนาจที่ยิ่งใหญ่เอ่ยบอกเธอ

หญิงสาวยกมือลูบใบหน้าคมเข้มของบุรุษลึกลับพร้อมส่งยิ้มให้บางๆ ท่ามกลางสายตาของเขาที่เฝ้ามองด้วยความรัก ความเสน่หามิรู้ลืม ร่างบุรุษลึกลับในชุดโบราณโอบกอดรัดร่างของเธอด้วยความหวงแหน ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตค่อยๆ ปิดสนิทพร้อมลมหายใจที่ค่อยๆ หลุดลอยออกจากร่างเพื่อเดินทางไปพร้อมกับเขา