ร่างสถิตเทพ (God Spirit)
Action-กำลังภายใน
ร่างสถิตเทพ (God Spirit)
Action-กำลังภายใน
MR.FAT
ในโลกที่นอกจากพลังที่อยู่เหนือทุกสิ่ง อำนาจเงินตราต่างมิได้ถูกใช้ในการแบ่งแยกชนชั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่กำเนิดมาพร้อมกับคนทุกผู้ที่ใช้แบ่งแยกชนชั้นแทนเงินตรา นั่นคือพลังสถิตร่าง
  • 83 ตอน
  • 16K
นิยายโดย
  • 0 คนติดตาม
บทนำ

คนแรก..เป็นบุรุษ เป็นที่สุด..ด้านกระบี่

ขลาดเขลา..อย่าลองดี กระบี่นี้..พร้อมฟาดฟัน

เนตรทอง..สุกสดใส มองเภทภัย..ได้ท่วงทัน

กระบี่..พร้อมลงทัณฑ์ เจ้าพวกจัญ..ได้ประจักษ์

คนสอง..ก็บุรุษ เกิดเป็นบุตร..ผู้มากศักดิ์

แต่ใจ..สุดแสนหัก แม่สุดรัก..สิ้นชีวา

กดน้ำ..ที่ใต้ตา ก้มกราบลา..หลุมมารดา

ทวนนี้..ในมือข้า จะเหนือกว่า..ข้าสาบาน

คนสาม..เป็นบุรุษ ที่แสนสุด..สุขสำราญ

มากมาย..ด้วยนงคราญ งามสะคราญ..มิเคยขาด

นารี..อุปถัมภ์ บุญหนุนนำ..ไม่ถึงคาด

กระบอง..ในมือวาด พร้อมอาฆาต..ล่าสังหาร

คนสี่..สุดรันทด ถูกคนคด..ฆ่าล้างผลาญ

กำดาบ..กล่าวสาบาน พวกใจมาร..ต้องเห็นดี

เนตรคราม..ผู้คั่งแค้น ท่องดินแดน..ชำระหนี้

ไม่นาน..พวกอัปรีย์ ดาบเล่มนี้..ปิดชีวา

สุดท้าย..รันทดสุด เป็นบุรุษ..เด็กกำพร้า

มารดา..ถูกเข่นฆ่า ถูกนำมา..ทั้งน้ำตา

ถูกสอน..เรื่องผิดผิด ให้มันคิด..แค้นบิดา

สุดท้าย..ถึงเวลา ง้างศาสตรา..แทงพ่อมัน

ณ มหาสมุทรแอตแลนติก หนึ่งในสี่มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ ผืนทะเลอันกว้างใหญ่ต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และเป็นที่พึ่งพิงของสรรพชีวิต ทุกคนบนโลกล้วนแล้วแต่มองเห็นผืนทะเลที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตานี้เป็นเพียงผืนน้ำเค็มที่เหมาะแก่การล่องเรืออาบแสงแดดและทำประมง

แต่มันก็เป็นเพียงภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นให้คิดเช่นนั้น

แท้จริงแล้ว ณ กลางผืนน้ำเค็มของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ สถานที่..ที่หากมองด้วยตาเปล่าอาจเห็นเพียงผืนน้ำสีฟ้าคราม แต่หากมองด้วยสายตาของคนผู้มีพลัง ณ ใจกลางทะเลสุดลูกหูลูกตาแห่งนี้ กลับมีข่ายปราณบังตาสร้างขึ้นมิต่างกับเขตแดนที่ใช้ขวางกั้นระหว่างคนธรรมดากับผู้มีพลันวิเศษ แล้วหากมองทะลุความบิดเบี้ยวของภาพลวงตาได้ออก ก็จะสามารถมองเห็นผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่พร้อมตึกรามบ้านช่องของผู้คน สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกขานว่า ยุทธทวีป หรือตามตำนานของชาวกรีกโบราณจะเรียกมันว่า ทวีปแอตแลนติส

ปล.. นิยามของ พระเอก ของนิยายเรื่องนี้นั้นคือเป็นตัว หลักชาย เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะมีตัวหลักชาย 5 คน ตามคำทำนายที่เขียนเอาไว้ข้างบน จะค่อย ๆ โผ่ออกมาทีละคน

------------------------------------------------------------


ระดับพลัง

ระดับพลังในเรื่องนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงชั้น ได้แก่ ช่วงชั้นสัมผัส ช่วงชั้นเข้าถึง และช่วงชั้นเป็นหนึ่ง

ช่วงชั้นสัมผัส

สัมผัสยุทธ์ - ถือเป็นระดับแรกสุดของผู้ฝึกยุทธ์ โดยในขั้นนี้จะมีเพียงร่างกายและพละกำลังที่มากขึ้นและแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไปแต่จะไม่สามารถใช้พลังปราณได้

สัมผัสปราณ - คือจอมยุทธ์ที่สามารถใช้พลังปราณได้บ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถแปลงพลังปราณเป็นปราณธาตุต่าง ๆ ได้

สัมผัสสรรพวิถี - คือจอมยุทธ์ที่สามารถแปลงพลังปราณเป็นพลังธรรมชาติต่าง ๆ ได้ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือ อื่น ๆ

**ช่วงชั้นสัมผัส คือระดับพื้นฐานของผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลังสถิตร่าง แต่สำหรับคนที่ไม่มีพลังสถิตร่างแล้ว ระดับสัมผัสสรรพวิถีคือขั้นปลายสุดของมันแล้ว มิอาจฝึกไปยังระดับต่อไปได้อีก**

ช่วงชั้นเข้าถึง

เหนือพสุธา - ผู้ฝึกยุทธ์สามารถเหาะเหินบนอากาศได้ และยังสามารถควบคุมพลังสถิตของตนเองได้ดีมากยิ่งขึ้น

ล่วงรู้นภา - เมื่อฝึกถึงขั้นนี้ ผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถใช้อัตลักษณ์ของพลังสถิตได้บางส่วน อาทิเช่น พลังธาตุอันพิสดาร หรือความสามารถทางร่างกายที่ผิดแผกจากปกติ

แก่นแท้สวรรค์ - เมื่อก้าวถึงขั้นนี้ ผู้ฝึกยุทธ์จะถือได้ว่าเป็นผู้เก่งกาจที่สามารถควบคุมพลังภายในร่างได้เพียงแค่ความคิด อัตลักษณ์ของพลังสถิตร่างถือว่าเชี่ยวชาญที่จะใช้ได้อย่างใจนึก

**ช่วงชั้นต่อไป เรียกกันว่าเป็นขั้นที่ยากต่อการบุกฝ่าไปให้ถึง หากคิดจะก้าวผ่านขั้นแก่นแท้สวรรค์ไปยังขั้นต่อไปได้นั้น นอกจากจะต้องเกิดมาพร้อมกับพลังสถิตระดับสูงแล้ว ยังต้องพกพรสวรรค์อันสูงล้ำผนวกกับต้องมีโชคมากพอสมควรเพื่อทำให้ก้าวนำให้ไปถึงยังจุดหมายได้ หากไร้ทั้งสามข้อที่กล่าวเอาไว้ เมื่อฝึกถึงขั้นแก่นแท้สวรรค์แล้วนอนตีพุงคงจะมีความสุขมากกว่า**

ช่วงชั้นเป็นหนึ่ง

กลืนโลกา - ระดับนี้คือระดับที่สามารถควบคุมพลังธรรมชาติต่าง ๆ ได้ประหนึ่งร่างกายของตนเอง เช่นคิดอยากให้ดอกไม้บาน มันก็จะบาน คิดอยากให้สายน้ำหยุดไหล สายธารย่อมน้อมรับและทำตาม

แฝงนภา - ระดับนี้ จะมีพลังทำลายระดับเดียวกับภัยธรรมชาติต่าง ๆ หากพวกเขาเหล่านี้ใช้พลังอย่างเต็มที่ ก็มิต่างกับเรียกลมพายุหรือสร้างแผ่นดินไหว ว่ากันว่าหากจอมยุทธ์ในระดับนี้ต่อสู้ประชันฝีมือ ฟาดดาบหนึ่งครั้งดังกู่ก้องเท่าเสียงทัณฑ์สวรรค์ ตีดาบสิบหนเท่ากับ

ผสานดารา -? ¿? ¿? ¿?

ระดับทุกระดับ ล้วนมีขั้นย่อเป็น ขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นปลาย เช่น ล่วงรู้นภาขั้นปลาย หรือ แก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น หากฝึกถึงขั้นปลายของแต่ละระดับแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนแล้วจะมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า การข้ามระดับ ซึ่งการข้ามระดับนี้ ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมที่ผู้ฝึกยุทธ์ผู้นั้น ๆ สั่งสมมาแต่อดีตหรือปัจจุบัน บางคนอาจรอเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือนก็สามารถข้ามผ่านไปได้ หรือบางคนอาจใช้เวลานานนับสิบปี ก็ยังคงค้างเติ่งอยู่ที่เดิม

ส่วนระดับผสานดารานั้น ความสามารถยังไม่แน่ชัด เนื่องด้วยในยุทธทวีปนี้ยังไม่มีใครเคยก้าวผ่านไปถึงมาก่อน จะเรียกระดับนี้ว่าเป็นระดับตำนานก็ว่าได้ หรือบางคนอาจเรียกว่าระดับเพ้อฝันก็ไม่ผิด เพราะในประวัติศาสตราหรือพงศาวดารเองก็ยังไม่มีใครหรือผู้ใดเคยเขียนเอาไว้ว่ามีคนสามารถก้าวไปถึงระดับนี้ได้มาก่อน ส่วนใหญ่อัจฉริยะผู้นั้น ๆ มักค้างเติ่งอยู่ที่ระดับก่อนหน้า ส่วนชื่อของระดับนี้ ก็เพียงตั้งไว้ให้ระลึกถึง ว่าน่าจะมีคนที่สามารถก้าวไปถึงขั้นนี้ได้มาก่อน

ปล.. ความจริงอยากเขียนแบบไม่มีระดับย่อย แต่กลัวว่าผู้อ่านจะมองไม่เห็นถึงความก้าวหน้าของตัวละคร ผมจึงให้มีแค่สามระดับย่อย เพื่อจะได้เห็นความสำคัญของระดับของวิชาหรือระดับของศาสตราได้มากยิ่งขึ้น

หมายเหตุ

ขั้น : คือคำกล่าวถึง ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย ถ้ากล่าวคำว่าขั้นเฉย ๆ หรือระดับขั้นก็จะหมายถึงหนึ่งในสามขั้นนี้

ระดับ : หมายถึงพวก ระดับสัมผัสปราณ ระดับแฝงนภา เป็นต้น

ช่วงชั้น : หมายถึง ช่วงชั้นสัมผัส ช่วงชั้นเข้าถึงและช่วงชั้นเป็นหนึ่ง

------------------------------------------------------------

ระดับศาสตรา

ในเรื่องนี้ ระดับของจะแบ่งออกเป็นหกจำพวก

ธรรมดาสามัญ - เป็นอาวุธที่ตีขึ้นจากเหล็กธรรมดา ไม่ได้มีความวิเศษหรือแตกต่างอะไรเลยกับมีดหั่นผัก ไม่สามารถปล่อยวิชาออกจากอาวุธจำพวกนี้ได้มิเช่นนั้นของที่ถือในมืออาจแหลกสลายคามือก็เป็นไปได้

ศาสตราวุธ - คืออาวุธที่ตีขึ้นมาเพื่อใช้กับผู้ฝึกยุทธ์โดยเฉพาะ เป็นอาวุธขั้นแรกสุดที่สามารถผสมวิชาปล่อยออกจากอาวุธได้

จิตวิญญาณ - คืออาวุธที่มีจิตวิญญาณในของตัวเองที่เรียกว่าปราณอาวุธ อาวุธชนิดนี้จะมีสำนึกรู้คิด หากคิดจะหยิบจะใช้ได้ ต้องทำให้ตัวของศาสตรานั้น ๆ ยอมรับในตัวของผู้ฝึกยุทธ์ให้ได้ก่อน เรื่องความแข็งแกร่ง แน่นอนย่อมมีมากกว่าอาวุธระดับก่อนหน้า

ตำนาน - เรียกได้ว่าหากได้ยากยิ่งเสียกว่าสิ่งใด เพราะมันต้องถูกตีหรือถูกสร้างขึ้นได้จากผู้ฝึกยุทธ์ช่วงชั้นเป็นหนึ่งขึ้นไปเท่านั้น เพราะตลอดการตีอาวุธชนิดนี้ มันต้องใช้พลังปราณขั้นสูงถ่ายทอดควบคู่เข้าไปตลอดการสร้างอาวุธ ว่ากันว่าหลังจากสร้างอาวุธชนิดนี้เสร็จ หากโชคร้าย ผู้สร้างอาจถึงแก่กรรมได้เลยทีเดียว

กึ่งตำนาน - เป็นอาวุธที่คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างระดับจิตวิญญาณและระดับตำนาน วิธีการสร้างนั้นเหมือนกับการสร้างอาวุธระดับตำนานทุกประการ แตกต่างตรงที่ว่า อาวุธระดับกึ่งตำนานคืออาวุธระดับตำนานที่ไม่สมบูรณ์ ผู้ตีศาสตราไม่ตายก่อนก็อาจเป็นผู้สร้างคนนั้น ๆ ฝีมือไม่ถึงขั้น เวลาใช้อาวุธชนิดนี้ ผู้ใช้จะได้รับความเจ็บปวดทุกครั้งที่กวัดแกว่งอาวุธ หนักสุดหากฝืนใช้มากจนเกินไป อาจถึงขั้นเส้นปราณพิการได้

ทศทิศ - เรียกได้ว่าเป็นอาวุธแห่งภัยพิบัติก็มิปาน ปรากฏตัวออกมาครั้งหนึ่ง อาจถึงขั้นทำให้อาณาจักรสักอาณาจักรล่มสลายจากการแย่งชิงศาสตราชนิดนี้ ในปัจจุบันนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ใดบ้าง รู้เพียงแค่หากผู้เป็นเจ้าของถึงแก่กรรม ศาสตราชนิดนี้จะแปรสภาพกลายเป็นผลึกหินธาตุต่าง ๆ และหายลับไป แต่ที่แน่ ๆ อาวุธชนิดนี้มีทั้งหมดเจ็ดธาตุอันได้แก่ ปฐพี วารี อัคคี วาโย อัสนี เพลิงภพ(ลาวา) และ พฤกษ์

**ปล.กลัวใช้คำว่าลาวามันจะไม่เหมาะ ขอดัดเป็น เพลิง(ไฟ)ภพ(พื้นดิน) ไฟจากดินก็เป็นลาวาแทนละกันนะครับ**

------------------------------------------------------------

ระดับพลังสถิตร่าง

หนึ่งดาว : -

หนึ่งดาวครึ่ง : -

สองดาว : -

สองดาวครึ่ง : -

สามดาว : -

สามดาวครึ่ง : จิ้งจอกเพลิงนรก = ช่าง ซื่อ //

สี่ดาว : มังกรจ้าวบาดาลใต้ = ตง ป๋ายซาน // มังกรจ้าวบาดาลเหนือ = ?? // มังกรจ้าวบาดาลตะวันออก = ?? // มังกรจ้าวบาดาลตะวันตก = ?? //

สี่ดาวครึ่ง : ราชันวานรแดง = ซุน โหวหวัง // ราชันวานรเผือก = ซุน ป๋ายเหยียน // จักรพรรดินีกระต่ายขาว = อุสางิ ซากิ // พญานาค = ?? // มังกรจ้าววังบาดาล = ??

ห้าดาว : มังกรคราม = ?? // วิหคเพลิง = ?? // เต่าดำ = ?? // พยัคฆ์ขาว = ??

หกดาว : ราชันมังกรทอง = หลิวเจี้ยน // กิเลน = ??

------------------------------------------------------------

ลงนิยาย จันทร์ - ศุกร์