ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ (จบแล้ว)
รักโรแมนติก
ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ (จบแล้ว)
รักโรแมนติก
I-KYEOM
​ ...นางก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่โลกใบก่อนไม่ต้องการ   ส่วนเขาถูกผู้คนกล่าวขานว่าเย็นชาเสมือนไร้ใจ ไม่สนสตรีนางใดเสมือนไร้รัก!   แล้วไหงถึงได้...กับนางเล่า?       อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ "เธอ" ได้เกิดใหม่นามว่า "เสวี่ยเหมย" ความทรงจำภพเก่าเธออยู่ครบถ้วน     ทำให้เธอเติบโตมาพร้อมสติปัญญาฉลาดทันคน     เมื่อยามเหมันต์มาเยือนที่งานเลี้ยงชมดอกเหมยกุ้ยของบรรณาการจากต่างแคว้น ทำให้เธอได้เจอ "เขา" "องค์ชายสาม "       "ข้าจะแต่งกับท่านอ๋องก็ได้ หากท่านอ๋องยอมรับปากว่าจะไม่รับชายารองหรืออนุเข้าจวน คงทำได้กระมัง"   เสวี่ยเหมยมั่นใจว่าบุรุษยุคนี้จะไม่ยอมรับข้อเสนอแน่ พวกผู้ชายมากรัก หญิงเดียวย่อมไม่พอหรอก!   "ทำไมเจ้าต้องตั้งข้อเสนอเช่นนี้" นางได้ยินเขาตอบกลับมาแบบนี้ ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ใจน้อยๆ ของนางเหมือนดิ่งลงเหว เจ็บแปลบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้   เขาไม่คิดจะอ้อนวอนหรือขอร้องสำหรับคำขอของนางแม้แต่น้อยหรือ ถ้าเขาเอ่ยคำหวานดั่งที่เขาถนัดทำกับนางเหมือนทุกครั้ง บางทีเสวี่ยเหมยอาจจะยอมให้เขารับอนุสักคนสองคนก็ได้   "ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันก็ขอตัว" เสวี่ยเหมยรีบเปลี่ยนคำเรียกขานตัวนางแล้วรีบหอบเอาดวงใจที่บอบช้ำเดินสะบัดหนีจากเขาทันที   "เหมยเอ๋อร์" บุรุษหนุ่มรีบคว้าข้อมือหญิงสาวไว้แน่น แนบนางเข้ามากอด เสมือนกลัวว่านางจะมีปีกกว้าง บินหายไปในท้องฟ้าเสียอย่างนั้น   "แต่งกับข้าเถิด เจ้าไม่ต้องยื่นข้อเสนอใด ข้าก็ไม่คิดจะรับหญิงใดเข้าจวนทั้งนั้น" ชายหนุ่มกระชับวงแขนแน่นขึ้น "ข้ายินดีรับแค่เจ้า รับแค่เจ้าผู้เดียว เหมยเอ๋อร์"   เสวี่ยเหมยได้ยินเช่นนั้นก็เกิดใจอ่อนระทวย ดวงใจที่บอบช้ำเมื่อครู่พลันหายสิ้น ทำไมเขาไม่เอ่ยให้เร็วกว่านี้เล่า   "แม่นางเหมย ท่านอาอ๋อง" เสียงบุรุษพลันเอ่ยแทรกบรรยากาศขึ้นมา ทำเอานางรีบผลักเขาออกโดยเร็ว   นางหันไปมองก็ยิ่งตกใจ "อะ องค์ชายสาม! " เสวี่ยเหมยรีบเก็บใบหน้าขวยเขินที่เกิดจากชายหนุ่มเมื่อครู่ ยามเมื่อเห็นบุรุษอีกคนก้าวเข้ามา     ปล.เรื่องนี้เป็นนิยายจีนเรื่องแรกของไรท์นะคะ หากเขียนไม่สนุกหรือถูกใจขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ    ปล.2 ตัวละครในเรื่อง สถานที่ และประวัติศาสตร์เหตุการณ์ต่างๆ เป็นจินตนาการของไรท์ล้วนๆนะคะ ***ห้ามคัดลอกหรือนำไปเผยแพร่เป็นผลงานตัวเองหากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ***   ขอบคุณรี้ดทุกคนค้าบบบบ   ​
  • 80 ตอน
  • 1,496
นิยายโดย
  • 0 คนติดตาม
บทนำ

บางทีการรักใครสักคน มันมักจะไม่เลือกช่วงเวลา

ชอบเข้ามาโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเสมอ

ความรักนี่ความจริงแล้วมันเป็นตัวอะไรกันแน่

ทำไมมันถึงได้ขี้โกงกับคนอ่อนแอเหลือเกิน...

“หัวโผล่แล้วเจ้าค่ะ!” ใคร?

“ออกแรงอีกนิดเจ้าค่ะ ฮูหยิน!” เสียงใครกัน

ทำไมทุกอย่างถึงมืดไปหมด แต่อีกสักพักก็เห็นสายตาหลายคู่ที่มองมาด้วยความสงสาร สลับภาพกันไปมาอยู่อย่างนี้ เสียงไซเรนดังเข้าหูไม่ขาดสายและแสงของมันทำเอาแสบตาเหลือเกิน เสียงร่ำไห้ดังถี่อยู่รอบตัว แต่นั่น...ไม่ใช่สำหรับเธอละมั้ง

ร่างบางของเธอที่นอนไม่ขยับมองไปยังร่างชายหนุ่มตรงข้ามที่นอนไม่มีแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้วเหมือนกัน ดวงตาที่มองมานั้นสงสารเธอมากแค่ไหน เธอนั้นดูออกทุกอย่าง หญิงสาวทอดสายตามองเขาตรงๆ มองเช่นเดียวกับที่เขามองเธอ ด้วยความสงสารไม่แพ้กัน ร่างสูงตรงหน้านอนอาบไปด้วยเลือด เธอไม่รู้ว่าร่างของเธอก็เป็นแบบนี้ไหม ไม่มีแม้แต่แรงขยับเขยื้อน ไม่อยากคิดแม้แต่จะก้มมองดูร่างตัวเอง

แค่คิดก็เจ็บจนทรมาน...

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะมาถึงที่ประเทศจีนและเข้าไปเช็คอินห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งโดยมีเธอกับเพื่อนๆ ของเธออีกสามคน พวกเธอเป็นคนไทยสามคนแต่ก็พอได้เรียนรู้ภาษาจีนมาบ้าง ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศจีน ตลอดเวลาที่เรียนด้วยกันมานั้นก็ทำให้เกิดมิตรภาพดีๆ ต่อกัน จากนั้นจึงได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน พอครบกำหนดที่เรียนเสร็จก็ต้องกลับประเทศ พวกเธอทั้งสามจึงรับปากกับเพื่อนชาวจีนว่าจะมาส่งและถือโอกาสนี้เที่ยวเล่นไปด้วยอีกหลายวัน

เมื่อมาถึงพวกเธอว่าจะนอนพักกันสักงีบใหญ่ๆ ก่อน แล้วพูดคุยกันว่าพอตื่นขึ้นมาค่อยไปหาอะไรกิน บ้านของเพื่อนชาวจีนนั้นอยู่ไกลจากเมืองหลวงเลยว่าจะเล่นอยู่ในเมืองสักสองสามวันค่อยนั่งรถเข้าไปส่ง คุยกันไปมาทุกคนก็เผลอหลับกันไปทั้งที่คุยกันยังไม่จบ อาจเพราะเหนื่อยกับการเดินทางครั้งนี้มากเกินไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าค่ำแล้ว จากนั้นจึงได้พากันออกจากโรงแรมไปหาของกินใส่ท้อง

ระหว่างเดินหาของกินอยู่นั้น ‘ชาลิสา’ มองเห็นร้านไอศกรีมเคลื่อนที่อยู่ไม่ไกลเธอเลยขอแยกตัวออกไปซื้อ เพราะเพื่อนคนอื่นรออาหารจากร้านแห่งหนึ่งอยู่ ระหว่างที่เธอสั่งและรอไอศกรีมของเธอนั้น ได้เผอิญไปสบตากับ ‘เขา’ พอดี ชายที่จะประสบเหตุเคราะห์ร้ายกับเธอ เขาน่าจะสั่งก่อนหน้าเธอหนึ่งคิวและที่พ่อค้ากำลังทำอยู่น่าจะเป็นของเขา ชายหนุ่มปิดผ้าปิดปากสีดำ ดวงตาสีเมล็ดกาแฟที่มองมาด้วยความร่าเริง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงดวงตาที่เป็นมิตรเช่นนี้จะกลายเป็นเศร้าสลดไป รอบกายเขาเริ่มเต็มไปด้วยหญิงสาวมากมายภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่แน่เขาอาจเป็นหนุ่มฮอตของเมืองจีนที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ก็ได้

ชั่วขณะนั้น เธออยากย้อนเวลากลับไปเหลือเกิน ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง อยากย้อนเวลาเหลือเกิน...

โครม!

รถบรรทุกคันใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าเสียหลักมาจากที่ไหนเซถลาเข้ามาทางเธอ รถคันใหญ่เสียการควบคุมวิ่งขึ้นมาทางฟุตบาทชนข้าวของระหว่างทางกระจาดกระจาย เธอตกใจจนไม่มีสติว่าควรหลบไปทางไหน รถมันพุ่งมาเร็วมากจนเธอขาดสติในวินาทีนั้นเธอควรหลบไปทางซ้ายหรือทางขวาก็ไม่สามารถบังคับร่างกายนี้ได้ หญิงสาวหยุดนิ่งอยู่กับที่ลืมแม้แต่จะกรีดร้องออกมาให้ใครช่วย แต่เธอก็ไม่ทันได้เห็นว่าชายข้างๆ เธอเองก็มีอาการเช่นเดียวกัน


และตอนนั้นเอง เธอจึงได้รู้สึกเหมือนว่าโลกใกล้จะแตกเข้ามาทุกที ทุกคนที่เธอรู้จักเริ่มหายไปจากความทรงจำ เธอไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอห้าขวบ ชาลิสาอาศัยอยู่กับป้าคนเดียวของเธอ แต่ว่าป้าของเธอก็มีลูกชายอีกสองคน ชาลิสาทำงานพิเศษค่อนข้างหนัก กว่าจะเก็บเงินมาประเทศจีนได้ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เงินแต่ละบาทใช้เวลาเก็บอยู่นานพอควร ป้าของเธอก็ใช่ว่าจะตามใจทุกอย่าง วินาทีนั้นเกิดมีคำถามขึ้นมาในหัว....

เธอจะตายไหม?

ถ้าหากเธอตาย ป้าและน้องๆ จะร้องไห้ไหม?

เพื่อนๆ ที่รอกินข้าวล่ะ จะโกรธเธอไหม?

เธอรู้สึกเหมือนร่างกายจะปริแตกออกจากกัน ความรู้สึกนี้ใกล้เข้ามาทุกที จนเมื่อทุกอย่างใกล้จะเลือนหายไป เธอได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ยังไม่อยากตาย อยากจะมีชีวิตอยู่ เธอยังไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่ารักอย่างแท้จริงเลย ทุกวันนี้แค่รักจากมิตรภาพไม่เพียงพอสำหรับเธอ ไม่พอเลยสักนิด เธออยากสัมผัสกับความอบอุ่นเหลือเกิน...

เข้าใจแล้ว...ว่าความทรมานมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

จากนั้นทุกๆ อย่างก็เหมือนค่อยๆ ดับไป...

“ปลอดภัยดีทั้งคุณหนูและฮูหยินเจ้าค่ะ!” เสียงสตรีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“ซิงซิง! ไปเรียนท่านแม่ทัพว่าฮูหยินคลอดคุณหนูใหญ่อย่างปลอดภัย” จากนั้นก็ตามมาด้วยสตรีอีกคนที่อยู่ข้างๆ กัน

“คุณหนูใหญ่รึเจ้าคะ ได้เจ้าค่ะน้าจิ้ง” หญิงตัวน้อยวัยประมาณห้าขวบพอได้ยินว่าเป็นคุณหนูใหญ่ก็ยิ้มรับตาหยีพร้อมวิ่งหายลับออกไปนอกประตู

“ทีนี้ข้าก็จะไม่ต้องทนเล่นกับอาเหว่ยกับอาเหล่ยแล้ว!”

เสียงดีใจของซิงซิงตัวน้อยๆ ผ่านลอดประตูห้องโถงเข้ามา ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงแม่ทัพเสวี่ยโห่ร้องดีใจออกมาไม่ต่างอะไรกับซิงซิง เวลานี้ทั่วเมืองหมานของอาณาจักรแคว้นฝูหยวนก็ได้รับรู้พร้อมกันว่า

เหมันตฤดูนี้ แม่ทัพเสวี่ยได้บุตรสาวคนแรก คุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพ