คีตมินทร์
ผู้ติดตาม
1
ผู้ติดตาม
1
รายการนิยาย
หัวใจพลิกล็อก
หัวใจพลิกล็อก
คีตมินทร์
  • รักโรแมนติก
ถ้าจะมัวแต่รอให้มีผู้ชายเข้ามาจีบ 'ปาณฑรา' สาวสวยวัยเฉียด 30 คงได้ห้อยต่องแต่งอยู่บนคานทองแน่ๆ ฉะนั้นเมื่อสวรรค์เป็นใจ ส่งหนุ่มหล่อตรงสเปกมาตรงหน้า เธอจึงไม่ลังเลที่จะเป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าไปจีบเขาเอง...แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงกลับตาลปัตร ดูผิดแผนไปเสียหมดนะ ----- “วิว แกว่าการที่ผู้หญิงเข้าไปจีบผู้ชายก่อนมันดูน่าเกลียดหรือเปล่า แล้วเขาจะมองว่าเราแรดไหม” ปาณฑราถามเสียงจริงจังพร้อมทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “ไม่หรอก สมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน ขืนมัวแต่รอให้ผู้ชายเข้ามาจีบแกได้ขึ้นคานกันพอดี ดูสิปีนี้แกอายุเท่าไรแล้ว ไม่ใช่เพราะมัวแต่รอให้ผู้ชายเข้ามาจีบหรือไง ถึงยังโสดมาจนป่านนี้” “จริงของแก” หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักพลางมองไปยังหนุ่มในฝัน ที่กำลังส่งยิ้มกว้างให้ผองเพื่อน “วิวแกไปขอเบอร์ ขอไลน์ ขอเฟซบุ๊กเขาให้ฉันหน่อยสิ ฉันเขิน ไม่กล้าเข้าไปขอเอง” ปาณฑรากระซิบกระซาบให้ได้ยินกันแค่สองคน หลังตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะลองเดินหน้าจีบผู้ชายดูสักครั้ง นานๆ สวรรค์จะส่งผู้ชายตรงสเปกมาให้ ถ้าไม่รีบคว้าไว้ก็ไม่รู้จะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม “เอาจริงเหรอวะแก” วาสิตาถามเพื่อความแน่ใจ รู้จักกันมาเป็นสิบปี เพื่อนเธอคนนี้เคยคิดจะเดินหน้าจีบผู้ชายเสียที่ไหน ไม่ว่าเธอจะเคยยุยังไงก็ปฏิเสธท่าเดียว “จริงสิ” คนที่ตั้งใจแน่วแน่บอกเสียงหนักแน่น “อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะอายุครบสามสิบตามที่ได้ตกลงกับพ่อแม่เอาไว้แล้วนะเว้ย ถ้าไม่เอาจริงตอนนี้ ไม่ทันกาลแน่เลย” ----- “ปล่อยฉันนะ” ร่างบางดิ้นขลุกขลัก พยายามขืนตัวออกจากพันธนาการของวงแขนแกร่ง ทั้งที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่ แถมยังเงยหน้ามองเขาตาดุ “ยิ้มอะไรไม่ทราบ” เพราะอารมณ์โมโหจากเหตุการณ์เมื่อครู่ยังตกค้างอยู่ ทำให้คนเมาถามออกไปเสียงเขียว เมื่อเห็นว่าเขามองเธอแล้วฉีกยิ้มจนตาหยี “ขนาดยังไม่ยอมรับผมเป็นแฟนยังโมโหหึงขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วจะหึงขนาดไหนครับเนี่ย” พิชญ์พงศ์ว่าพลางโน้มใบหน้าลงมาจนจมูกของทั้งสองแทบจะชนกัน และสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ที่ปนออกมากับลมหายใจของหญิงสาว ------------
สร้างรัก
สร้างรัก
คีตมินทร์
  • รักโรแมนติก
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ 'ชวกร' ตั้งแง่และมีอคติกับ 'ปัถยา' จนนำไปสู่ปัญหาเรื่องงาน และเขาก็คิดว่าการไม่มีเธอมาคอยป้วนเปี้ยนให้ขวางหูขวางตา มันจะทำให้เขาทำงานอย่างมีความสุข แต่พอเอาเข้าจริง ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด แล้วก็เป็นเขาเองที่ยื่นมือเข้าไปช่วย เพื่อให้เธอได้ทำงานต่อไป . “คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เขาพยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด เพราะตอนนี้เขาต้องต่อสู้กับอารมณ์ภายในกายตนเองอย่างสุดความสามารถ “มีคนงานโทร.ไปบอกรุ้งว่านายช่างไม่สบายมาก แต่ไม่ยอมไปหาหมอ เขาเลยให้รุ้งมาช่วยพูดกับนายช่างและให้พานายช่างไปหาหมอค่ะ” เมื่อทราบเหตุผลของการมาปรากฏตัวของหญิงสาวเขาก็ประมวลผลได้ทันทีว่าคนที่โทร. ไปบอกเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวิภา คนที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ “ผมไม่ได้เป็นอะไร คุณกลับไปเถอะ” เขาบอกพร้อมกับผลักประตูจะปิด หากเธออยู่นานกว่านี้เขาไม่มั่นใจว่าเธอจะปลอดภัยจากความต้องการที่กำลังจู่โจมเขาอย่างหนักในตอนนี้ไหม ยังไม่ทันที่ประตูจะปิดสนิท หญิงสาวก็ใช้มือยันมันไว้สุดแรงพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปในห้องชายหนุ่ม “ไม่เป็นที่ไหนกันคะ ดูสิหน้าแดงขนาดนี้ ตัวก็รุมๆ ด้วย” คนตัวเล็กว่าพลางเขย่งปลายเท้าขึ้น เอื้อมมือไปแตะหน้าผากและแก้มของเขาเพื่อดูว่าเขายังมีไข้อยู่ไหม “คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าคุณกำลังทำให้ผมทนไม่ไหว” ตัวเขาสั่นเทา ดวงตาเป็นประกายจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแรงปรารถนาที่อัดแน่นในกาย “ตกลงนายช่างเป็นอะไรกันแน่คะ บอกรุ้งมาสิคะ” หญิงสาวยังงงกับพฤติกรรมของเขา ไม่เข้าใจที่เขาพูด “ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลังก็เอามือคุณออกไปจากตัวผม” เขาบอกตะกุกตะกักอย่างพยายามสกัดกั้นอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นอย่างรุนแรง “ยิ่งนายช่างพูดรุ้งยิ่งงง” ปัถยาไม่ได้ทำตามที่ชายหนุ่มบอก มิหนำซ้ำยังขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับวางมือที่หน้าผากและตามเนื้อตัวชายหนุ่มอีกครั้งอย่างห่วงใย “ผมทนไม่ไหวแล้วรุ้ง คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม” เขาก้มลงกระซิบชิดริมฝีปากมองเธอด้วยสายตาเว้าวอน พร้อมกับช้อนอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาอยู่ในวงแขนก่อนจะก้าวยาวๆ ไปที่เตียงนอนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วางร่างเล็กลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล “ช่วย ช่วยอะไร แล้วช่วยยังไงเหรอคะ” คนถูกขอให้ช่วยเอ่ยถามเขาเสียงสั่น ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในใจก็เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ชวกรก้มลงกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหู ทำเอาคนฟังขนลุกซู่ไปทั้งตัวเมื่อเข้าใจความหมายของเขา พร้อมกับเบิกตาโพลง ทำอะไรไม่ถูก
ปลูกรักปักใจ
ปลูกรักปักใจ
คีตมินทร์
  • รักโรแมนติก
"คนหนึ่ง" ไม่อยากเจ็บเพราะความรัก จึงเลือกปกป้องหัวใจตัวเองโดยไม่ยอมเปิดใจรับใครเข้ามา ส่วน "อีกคน" ไม่อยากให้มีปัญหาแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง จึงเลือกที่จะเลี้ยงลูกเองเพียงลำพัง...แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาคนทั้งสองคนให้มารู้จักกัน และกำแพงที่ทั้งสองเคยตั้งไว้ก็ค่อยๆสั่นคลอนลง สุดท้ายพวกเขาจะเลือกอะไร ระหว่าง "ทำตามความตั้งใจเดิม" กับ "ทำตามเสียงหัวใจเรียกร้อง" . . “คุณพ่อขาหนูอยากมีน้องสาวค่ะ” เด็กหญิงกิ่งกาญจน์โพล่งขึ้นหลังสาธยายเรื่องของแม่ตองจบ ส่งผลให้ผู้เป็นพ่อเหยียบเบรกหัวแทบหัวคะมำเมื่อได้ยินความประสงค์ของลูกสาว “ทำไมอยู่ๆ หนูถึงอยากมีน้องล่ะคะ” “เห็นตรัยมีน้องสาวแล้วหนูอยากมีบ้างค่ะ เวลาอยู่บ้านหนูจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย คุณพ่อมีน้องสาวให้หนูสักคนนะคะ” เด็กหญิงหันไปมองหน้าบิดาอย่างมีความหวัง ด้านผู้เป็นพ่อถึงกับคิดหนัก ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ลูกสาวเข้าใจ “หนูจะมีน้องได้หนูก็ต้องมีคุณแม่ก่อนนะคะ” “แม่ตองไงคะ แม่ของน้องกิ่ง” ลูกสาวตอบกลับทันควัน “เอ่อ ไม่ใช่แม่แบบนั้นน่ะสิ พ่อจะอธิบายยังไงดีล่ะ” กรวีร์จนปัญญาที่จะอธิบายให้ลูกสาวตัวน้อยเข้าใจ หากลูกสาวเขาโตกว่านี้อีกสักหน่อยคงจะเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่านี้ “พ่อกับแม่ตองของหนูต้องแต่งงานกันก่อนค่ะ ถึงจะมีน้องให้หนูได้” “งั้นคุณพ่อก็รีบแต่งงานกับแม่ตองสิคะ จะได้มีน้องสาวให้น้องกิ่งไวๆ” คนเป็นพ่อแทบกุมขมับกับความไร้เดียงสาของลูกสาว “มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นน่ะสิลูก ขืนพ่อทำแบบนั้นพ่อน้องตรัยได้ฆ่าพ่อทิ้งแน่” แม้หนูน้อยจะยังไม่ค่อยเข้าใจที่คุณพ่ออธิบายสักเท่าไร แต่ก็ไม่ลืมที่จะย้ำความประสงค์ของตนอีกรอบ “หนูอยากมีน้องสาวจริงๆ นะคะคุณพ่อ” ว่าพลางมองหน้าพ่อตาแป๋ว “ถึงโรงเรียนแล้ว เรารีบไปหาแม่ตองของหนูกันดีกว่า” กรวีร์ตัดบท เมื่อขับรถมาถึงหน้าโรงเรียนของลูกสาวพอดี เขาจอดรถชิดทางเท้าก่อนลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งและอุ้มลูกสาวตัวน้อยลงจากรถ