“อารัมภบท”
“ลูกหนูคิดดีแล้วเหรอลูก ไปอยู่ไร่มันไม่ได้สุขสบายเหมือนที่บ้านนะ”
คุณอภิสมัยผู้เป็นมารดาถามลูกสาวคนเล็กอีกครั้งให้แน่ใจ
“คิดดีแล้วค่ะคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่มีลูกผู้ชายสืบทอด พี่น้ำหนึ่ง กับพี่น้ำฟ้าเองก็มีงานที่มั่นคงอย่างอื่น หนูจะเป็นคนดูไร่ของเราเอง ไม่อยากรอให้มันเจ๊งแล้วก็ต้องขายที่ไป ลูกหนูเสียดาย”
ลูกหนู หรือ พิมพ์นิรชา บอกกับผู้เป็นมารดาอย่างมาดมั่น
“เอา งั้นก็ไป อย่าลืมว่าต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ”
คนเป็นแม่อย่างไรก็อดห่วงลูกสาวไม่ได้ แม้ว่าจะรู้ว่าลูกสาวคนเล็กทั้งเก่งทั้งฉลาดมากแค่ไหนก็ตาม
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยังไงทางนั้นก็มีนายเสือกับคุณชาลินี อ้อ...ยังมีกรุณาอีก”
นายเสือก็คือหัวหน้าคนงานคนเก่งในไร่ เขาเด็ดขาดและเป็นที่เชื่อใจของคุณอภิสมัยเสมอมา ส่วนชาลินีก็คือคนทำบัญชีและดูแลงานต่างๆ ภายในไร่ที่จะช่วยงานลูกหนูได้เป็นอย่างดี ส่วนกรุณาก็คนดูแลเรือนของลูกหนูและนายเสือ มีหน้าที่ทำความสะอาด หุงหาอาหารให้ทั้งสองคน
“เอาล่ะๆ ยังไงแม่ก็ห้ามหนูไม่ได้อยู่แล้ว”
ท่านพยักหน้าให้อย่างยอมแพ้
“อย่าห่วงลูกให้มากนักเลยคุณ ดีเสียอีกที่ลูกอยากสืบทอด อีกอย่างลูกหนูกูดถูก สมบัติของเราชิ้นนี้ตกทอดมาแต่รุ่นทวด ถ้าเราปล่อยให้มันขาดทุนและต้องปิดไปก็น่าเสียดาย ดินตรงนั้นดีปลูกอะไรก็งาม”
คุณคณิตพูดเอนเอียงไปทางลูกสาวคนเล็ก
“ได้ๆ แล้วจะเดินทางเมื่อไหร่ดีล่ะลูก”
ผู้เป็นมารดาถาม
“พรุ่งนี้เลยค่ะ ไร่ของเรากำลังต้องการคนดูแลอย่างเร่งด่วน รอไม่ได้แม้แต่วันเดียว!”
เห็นท่าทีฮึกเหิมนั้นแล้วคนเป็นพ่อแม่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน อีกข้อที่เป็นนิสัยประจำตัวของลูกหนูก็คือความหัวดื้อไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ นี่แหละ
คุณคณิตส่ายหัวอย่างเอ็นดูพลางพึมพำ
“เฮ้อ ไฟแรงจริงจริ๊ง ลูกสาวพ่อ”
***********************@}**********************
เริ่มรีไรต์ + ตรวจคำผิด 18 Dec 2023